|
สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ |
ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่-ฮอด |
โรงพยาบาลบรรเทาทุกข์โบราณภาคเหนือ
เลขที่ ๗๘/๑ ถนนวัวลาย ตำบลหายยา มูลนิธิหมอชีวกโกมารภัจจ์
ให้บริการตรวจรักษาโรคทุกชนิดตามหลักวิชาการแพทย์แผนโบราณ
ใช้ยาสมุนไพร ยาแผนโบราณ การอบไอยาสมุนไพร และนวดไทยบำบัด
นอกจากนั้นยังมีการอบรมสอนการแพทย์แผนโบราณสาขาเภสัชกรรม สาขาเวชกรรม
และการนวดไทยพื้นฐานให้ผู้สนใจทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
เปิดทำการทุกวัน ยกเว้นวันพระ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐-๑๗.๐๐ น.
โทร. ๐ ๕๓๒๗ ๕๐๘๕
อุทยานแห่งชาติออบขาน
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๔๘๔ ตารางกิโลเมตร หรือ ๓๐๒,๕๐๐
ไร่ครอบคลุมพื้นที่อำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่
สะเมิง หางดง แม่วาง และสันป่าตอง ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินปูนและหินอัคนี
ประกอบด้วยป่าประเภทต่าง ๆ ได้แก่ ดิบเขา สนเขา ดิบแล้ง เบญจพรรณ
และ เต็งรัง เป็นต้นกำเนิดน้ำแม่วาง น้ำแม่วิน และน้ำแม่ขาน
และที่นี่เป็นแหล่งที่พบเอื้องมณีไตรรงค์แห่งเดียวในประเทศไทย
ซึ่งจะบานในช่วงเดือนมกราคม
สถานที่น่าสนใจในอุทยานฯ ได้แก่
ออบขาน มีลักษณะคล้ายออบหลวง
เป็นช่องหน้าผาชันแต่มีขนาดเล็กกว่าสูงประมาณ ๓๐ เมตรซึ่งมีแม่น้ำแม่ขานไหลผ่านกลาง
และมีลักษณะเว้าแหว่งเป็นรูปทรงต่าง ๆซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของกระแสน้ำ
การเดินทาง จากเมืองเชียงใหม่
ใช้ถนนเลียบคลองชลประทาน ทางหลวงหมายเลข ๑๒๑ เป็นทางลาดยาง
ไปทางอำเภอหางดงประมาณ ๑๕ กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาตามถนน รพช.
สายน้ำแพร่-ออบขานไปอีก ๑๐ กิโลเมตร(เป็นทางลาดยาง สลับทางลูกรังมีความชันและโค้ง)
ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติออบขาน จากนั้นเดินต่อไปอีกประมาณ
๔๕๐ เมตร จะถึงออบขาน
ห้วยหญ้าไซ
มีระดับน้ำค่อนข้างตื้น เหมาะสำหรับลงเล่นน้ำ บริเวณริมฝั่งมีหญ้าไซขึ้นปกคลุมเขียวขจีและออกดอกสวยงาม
ถัดจากห้วยหญ้าไซไปเพียง ๕๐๐ เมตร มีผาเตี้ย ๆ เรียกว่า ผาตูบ
ลักษณะเป็นชะง่อนหินใหญ่ที่ถูกสายน้ำกัดเซาะจนมีรูปร่างแปลกตาน่าชม
ห้วยหญ้าไซอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ ๑ กิโลเมตร
สถานที่น่าสนใจอื่น ๆ เช่น ห้วยโป่งที่อยู่ห่างจากที่ทำการไปประมาณ
๒ กิโลเมตร สามารถลงเล่นน้ำได้ ผาลาย น้ำตกขุนป๋วย น้ำตกแม่เตียน
ถ้ำดอยโตน น้ำพุร้อนแม่โต๋ น้ำตกมรกต น้ำตกแม่มูด น้ำตกขุนวิน
น้ำตกแม่วาง และ ถ้ำตั๊กแตน และมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่จัดไว้เหมาะสำหรับพาเด็กนักเรียนมาเข้าค่ายธรรมชาติ
ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก
มีจุดพักแรม และ บ้านพักบริการแต่ต้องติดล่วงหน้าที่ อุทยานแห่งชาติออบขาน
ตำบลน้ำแพร่ อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ๕๐๒๓๐ หรือ ศูนย์ประสานงานอุทยานแห่งขาติกลุ่มนครพิงค์
สำนักงานป่าไม้เขตเชียงใหม่ โทร. ๐ ๕๓๘๑ ๘๓๔๘ มีร้านค้าสวัสดิการให้บริการระหว่างเวลา
๐๘.๐๐-๑๘.๐๐ น.
บ้าน
๑๐๐ อัน ๑,๐๐๐ อย่าง (บ้านร้อยอันพันอย่าง)
เป็นพิพิธภัณฑ์เอกชนที่รวบรวมงานแกะสลักไม้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไม้สัก
งานแต่ละชิ้นได้รับการแกะสลักอย่างวิจิตรบรรจง เช่นไม้ขี้เหล็กสลักภาพครูบาศรีวิชัยไม้ขี้เหล็กเนื้อแข็งมากและแกะยากจนอาจทำให้เครื่องมือเสียได้
ผู้แกะใช้ไม้เนื้อนี้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ที่ครูบาศรีวิชัยได้ต่อสู้ฝ่าฟันมา
นอกจากนี้ยังมีไม้แกะพญางิ้วดำซึ่งเป็นไม้หายาก ค่าเข้าชม
๑๐๐ บาท นักศึกษามาเป็นคณะ คนละ ๕๐ บาท นักเรียนมาเป็นคณะคนละ
๑๐ บาท ชาวต่างชาติ ๒๐๐ บาท รายละเอียดติดต่อ โทร. ๐ ๕๓๓๕
๕๘๑๙, ๐ ๕๓๘๒ ๒๖๔๙
การเดินทาง อยู่ในพื้นที่อำเภอหางดง
ริมทางหลวงสาย ๑๐๘ เชียงใหม่-สันป่าตอง-จอมทอง ระหว่างหลักกิโลเมตรที่
๑๙-๒๐ หากมาจากเชียงใหม่จะอยู่ฟากซ้ายมือ และจากประตูเชียงใหม่มีรถโดยสารสีเหลืองผ่านหลายสาย
ได้แก่ สายทุ่งเสี้ยว, หนองตอง, จอมทอง, บ้านกาด, มะขามหลวง
เป็นต้น
เวียงท่ากาน
บ้านท่ากาน ตำบลบ้านกลาง อำเภอสันป่าตอง เป็นเวียงเก่าแก่เวียงหนึ่งในสมัยหริภุญชัย
สันนิษฐานว่าสร้างประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๓ สมัยพระเจ้าอาทิตยราชกษัตริย์ผู้ครองแคว้นหริภุญชัยสืบต่อมาจนถึงสมัยพญามังรายช่วงก่อนสร้างเมืองเชียงใหม่
โบราณสถานที่สำคัญอยู่บริเวณกลางเมืองในเขตโรงเรียน คือ วัดท่ากาน
และวัดต้นกอก โบราณวัตถุที่พบ ได้แก่ พระพุทธรูปหินทราย พระพุทธรูปดินเผา
พระพิมพ์จำนวนมาก ไหเคลือบสีน้ำตาลบรรจุกระดูก เครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์หยวน
(พ.ศ.๑๘๒๓-๑๙๑๑) และพระบุทองคำ
การเดินทาง ห่างจากเมืองเชียงใหม่ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข
๑๐๘ ประมาณ ๓๔ กิโลเมตร ผ่านอำเภอสันป่าตองแล้วเลี้ยวซ้ายที่บ้านทุ่งเสี้ยว
เข้าไปอีกประมาณ ๒ กิโลเมตร หรือโดยสารรถประจำทางสายโรงวัว-ท่าวังพร้าว
คิวรถอยู่ข้างประตูเชียงใหม่ บริการระหว่างเวลา ๐๕.๐๐-๐๘.๐๐
น. ค่าโดยสาร ๒๐ บาท
วัดพระธาตุดอยน้อย
ตำบลดอยหล่อ อำเภอจอมทอง ตามทางหลวงหมายเลข ๑๐๘ ระหว่างกิโลเมตรที่
๔๓-๔๔ หากมาจากเชียงใหม่จะอยู่ฝั่งซ้ายมือ ตามประวัติว่าสร้างโดยพระนางจามเทวี
เมื่อ พ.ศ. ๑๒๐๑ โบราณสถานและโบราณวัตถุที่พบ ได้แก่ พระบรมธาตุ
โข่งพระ (กรุพระ) โบสถ์ วิหาร และพระพุทธรูปหินอ่อนแกะสลัก
ทั้งองค์เล็กองค์ใหญ่มากมาย บริเวณวัดตั้งอยู่บนภูเขาติดลำน้ำปิง
มองเห็นทิวทัศน์โดยรอบทุกทิศ มีบันไดนาคขึ้นไป ๒๔๑ ขั้น
เส้นทางหางดง-สะเมิง-แม่ริม ทางหลวงหมายเลข ๑๒๖๙
ตามเส้นทางสายหางดง-สะเมิง-แม่ริม
มีรีสอร์ทหลายแห่งที่มีการตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับอย่างสวยงามและเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม
หรือไปแคมปิงได้ เช่น กฤษดาดอย อุทยานล้านนา สวนบัวธานี ยอดดอยรีสอร์ท
บ้านกลางดอย เป็นต้น
สิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ ในเส้นทางนี้ ได้แก่
โครงการหลวงห้วยผักไผ่
(ทุ่งเริง) บ้านแม่ฮะ ตำบลบ้านปง อำเภอหางดง บนเส้นทางสายหางดง-สะเมิง
ทางหลวงหมายเลข ๑๒๖๙ ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ ๑๕-๑๖ หากไปทางหางดงจะอยู่ฝั่งซ้ายมือ
แยกเข้าไปประมาณ ๒.๕ กิโลเมตร สามารถเดินทางจากเชียงใหม่ได้สองทาง
คือ ตามทางสายเชียงใหม่-แม่ริม-สะเมิง-หางดง ระยะทาง ๓๒ กิโลเมตร
และเส้นทางสายเชียงใหม่-หางดง-สะเมิง ระยะทาง ๔๓ กิโลเมตร
พันธุ์ไม้ที่ปลูกคือ กุหลาบหนูที่จะปลูกกันทั้งปี และยังมีผักยอดซาโยเต้
ลูกฟักแม้ว มะเขือม่วงก้านเขียว ถั่วแขก และมะระขาว เป็นต้น
วัดต้นแกว๋น
(วัดอินทราวาส) บ้านต้นแกว๋น ตำบลหนองควาย อำเภอหางดง เป็นวัดเก่าแก่ที่มีลักษณะงดงามมาก
สิ่งที่น่าสนใจ คือศาลาจัตุรมุขซึ่งพบเพียงหลังเดียวในภาคเหนือ
นอกจากนี้ ศิลปกรรมล้านนาดั้งเดิมภายในวัดนี้ยังจัดว่าเป็นต้นแบบที่สมบูรณ์และมีคุณค่ามาก
สมาคมสถาปนิกสยามประกาศให้เป็นอาคารอนุรักษ์ดีเด่นเมื่อพ.ศ.
๒๕๓๒
การเดินทาง ใช้ทางหลวงสายหางดง-สะเมิง
เมื่อเข้าเขตบ้านต้นแกว๋น ให้สังเกตทางเข้าวัดทางด้านซ้ายมือ
ประมาณ กิโลเมตรที่ ๓๗ เข้าไปประมาณ ๗๐ เมตร หากเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางมีรถสองแถวสาย
เชียงใหม่-หางดงลงบริเวณทางเข้าแยกสะเมิง แล้วต่อรถสายบ่อหลวงเข้าไป |
|
ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่-ดอยอินทนนท์ |
ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่
(ขุนวาง) หมู่ที่ ๑๐ ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง
เป็นที่ตั้งของศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ในวงล้อมของแนวเทือกเขาอินทนนท์
เหมาะสำหรับผู้ต้องการศึกษาธรรมชาติ หรือท่องเที่ยวเชิงการเกษตร
มีพันธุ์ไม้เมืองหนาวนานาชนิดที่พร้อมใจกันออกดอกบานสะพรั่งยามหน้าหนาว
ออกผลเต็มต้นให้เด็ดชิมในฤดูร้อน และยังมีนกในเทือกเขาอินทนนท์นานาชนิดให้ศึกษา
รวมทั้งมีทิวทัศน์ที่เขียวชอุ่มโอบล้อมโดยรอบด้วยไม้ใหญ่เปลี่ยนสีสันตามฤดูกาล
จุดท่องเที่ยวภายในศูนย์
ภายในพื้นที่ ๔๕๐ ไร่ของศูนย์วิจัยเกษตรหลวงขุนวาง
หลากลายด้วยแปลงไม้ผลเมืองหนาวต่าง ๆ หากไปถึงในช่วงฤดูกาลผลไม้เมืองหนาวผลิดอกออกผล
ไม่ว่าจะเป็นสาลี่ พลัม ท้อ แนคตารีน หรือสตรอเบอร์รี่ นักท่องเที่ยวก็สามารถเด็ดชิมได้จากต้นเลยทีเดียว
หรือหากไปเยี่ยมชมในช่วงฤดูหนาว ก็จะได้สัมผัสบรรยากาศอีกรูปแบบหนึ่งโดยเฉพาะตั้งแต่กลางเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์
ที่ดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระดอยจะออกดอกสีชมพูทั้งต้น
ทำให้ดอยขุนวางกลายเป็นสีชมพูไปทั้งดอย
นักท่องเที่ยวสามารถเลือกชมศึกษาแปลงทดลองการเกษตรภายในศูนย์ได้
โดยมีเจ้าหน้าที่นำชมตามเส้นทางที่กำหนด พาหนะที่ใช้ในการเดินทางภายในศูนย์
ควรเป็นรถปิกอัพ หรือ รถขับเคลื่อนสี่ล้อ และจักรยาน โดยจุดที่น่าสนใจต่าง
ๆ ได้แก่ แปลงไม้ผลเมืองหนาว แปลงกาแฟ โรงกะเทาะเปลือกกาแฟ
และแปลงทดสอบพันธุ์แมคคาเดเมีย ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในออสเตรเลีย
นักท่องเที่ยวสามารถทดลองเก็บผล และชิมเนื้อสด ๆ ซึ่งมีรสชาติหอมหวานมัน
หรือจะชิมแบบอบคั่วเกลือทางศูนย์ก็มีให้ชิม และยังมีการทดลองสกัดน้ำมันจากผลไปทำเครื่องสำอางด้วย
การเดินทาง โดยรถยนต์ส่วนตัวนักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้เส้นทางได้
๒ เส้นทาง
เส้นทางแรก จากจังหวัดเชียงใหม่
ผ่านอำเภอสันป่าตอง เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข ๑๐๑๓ ไปอำเภอแม่วาง
ผ่านอำเภอแม่วางไป จะมีทางแยกซ้ายมือให้เลี้ยวซ้าย จากนั้นเส้นทางจะลัดเลาะขึ้นภูเขาไปอีกประมาณ
๔๐ กิโลเมตร ช่วงสุดท้ายของเส้นทางนี้จะเป็นถนนดินแดงประมาณ
๕ กิโลเมตร หน้าฝนจำเป็นต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ เส้นทางนี้รวมระยะทาง
๘๖ กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมง ๓๐ นาที
เส้นทางที่สอง จากจังหวัดเชียงใหม่ไปอำเภอจอมทองก่อนเข้าตัวอำเภอจอมทอง
เลี้ยวขวาเข้าเส้นทางหมายเลข ๑๐๐๙ ขึ้นดอยอินทนนท์ จนถึงกิโลเมตรที่
๓๑ เลี้ยวขวา เป็นถนนลาดยางไปประมาณ ๑๗ กิโลเมตร ก็จะถึงที่ตั้งศูนย์วิจัยเกษตรหลวงดอยขุนวาง
รวมระยะทาง ๑๑๕ กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๒ ชั่วโมง
- โดยรถโดยสารประจำทาง จากประตูเชียงใหม่
มาถึงจอมทอง จากนั้นต้องต่อรถสองแถวจากจอมทอง-แม่แจ่ม ลงตรงทางแยกขึ้นดอยอินทนนท์ที่กิโลเมตร
๓๑ จากจุดนี้ต้องเหมารถสองแถวให้เข้าไปยังขุนวางอีก ๑๖ กิโลเมตร
หรือเหมารถตั้งแต่ที่อำเภอจอมทอง
ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงขุนวางเปิดทำการทุกวัน
เวลา ๐๘.๐๐-๑๖.๐๐ น. มีบ้านพักรับรองนักท่องเที่ยวได้ประมาณ
๔ หลัง แต่ละหลังพักได้ตั้งแต่ ๔-๘ คน มีที่กางเต็นท์ ๒ จุด
คือ บริเวณลานหญ้าหน้าอาคารสำนักงาน และบริเวณหุบรับเสด็จ
ทั้งสองจุดรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ ๑๐๐ คน มีอาหารบริการในราคากันเอง
แถมกาแฟอาราบิกาให้ชิมฟรีตลอดทั้งวัน ทั้งนี้ควรติดต่อไปล่วงหน้า
โทร. ๐ ๕๓๔๓ ๒๒๗๕, ๐ ๕๓๔๓ ๒๒๐๗ โทรสาร ๐ ๕๓๔๓ ๒๒๗๖
สถานีทดลองเกษตรที่สูงแม่จอนหลวง
บ้านม้งขุนแม่วาง หมู่ที่ ๖ ตำบลแม่นาจร อำเภอแม่แจ่ม พืชพันธุ์ที่นำมาวิจัยที่นี่ต่างมีฤดูกาลติดดอก
และพักตัวผลัดเปลี่ยนกันตลอดทั้งปี ไม่ว่าวันหยุดพักผ่อนจะเป็นเดือนไหน
เมื่อมาที่นี่เป็นไม่เสียเที่ยว เพราะถึงจะพลาดชมความงามของดอกซากุระ
นักท่องเที่ยวก็จะได้ชิมสตรอว์เบอร์รี่ปลอดสารพิษสดจากไร่แทน
หรือ ถ้ามาไม่ทันช่วงท้อติดผล ก็จะได้เห็นความงามของดอกสาลี่สีขาว
และไม้ดอกเมืองหนาวนานาพันธุ์พร้อมกับนั่งจิบชาทอดอารมณ์ ชมวิวบนยอดดอย
ยิ่งบนดอยสูงอย่างที่แม่จอนหลวงนี้มีการปรับแต่งพื้นที่แบบขั้นบันได
ช่วยขยายมุมมองทัศนียภาพโดยรอบได้กว้างยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่นิยมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร
หากได้มาเยือนที่นี่คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะซึมซับความรู้ในงานวิชาการและความงามทางธรรมชาติกลับบ้านไปพร้อมกัน
จุดท่องเที่ยวภายในสถานีฯ การเที่ยวชมงานภายในสถานีบริเวณใกล้
ๆ ที่พักซึ่งเป็นพื้นที่ลาดชันที่ถูกปรับแต่งให้เป็นทางเดินนั้นนักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าเที่ยวชมได้
ส่วนจุดที่ไกลออกไปจำเป็นต้องใช้รถในการเดินทางไปเที่ยวชม
แปลงทดลองต่าง ๆ ได้แก่ แปลงสาลี่ แปลงไม้ดอกเมืองหนาว แปลงสตรอเบอร์รี่และผักปลอดสารพิษ
แปลงชาพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวอาจจะได้ชมกระบวนการแปรรูปชา
ทั้งชาจีนและชาเขียวที่โรงแปรรูปชา สามารถซักถามรายละเอียดจากนักวิชาการที่ดูแลงานด้านนี้โดยเฉพาะ
ซึ่งไม่เพียงแต่จะได้ลิ้มรสชาเขียวเท่านั้น อาจโชคดีได้ลองชิมยำใบชาสูตรพิเศษที่จะหาชิมได้ที่นี่แห่งเดียว
นอกจากนี้ยังมีแปลงทดสอบพันธุ์มะคาเดเมียนัท แปลงทดสอบพันธุ์เสาวรส
แปลงเกาลัดจีน เป็นต้น
การเดินทางไม่มีรถประจำทางผ่านในเส้นนี้
นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องใช้พาหนะส่วนตัวซึ่งควรเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ
หรือเหมารถสองแถวจากปากทางขึ้นดอยอินทนนท์ โดยรถยนต์ส่วนตัวสามารถเดินทางได้
๒ เส้นทาง
- เส้นทางแรก ออกจากตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ไปบนเส้นทางสายเชียงใหม่-ฮอด
ผ่านอำเภอจอมทองเลี้ยวขวาขึ้นดอยอินทนนท์ เมื่อถึงกิโลเมตรที่
๓๑ เลี้ยวขวาผ่านศูนย์พัฒนาโครงการหลวงดอยอินทนนท์ ผ่านทางลาดยางประมาณ
๑๖ กิโลเมตร จะถึงศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) ให้เลี้ยวซ้ายผ่านศูนย์ขุนวางไปอีกประมาณ
๖ กิโลเมตร ผ่านทางดินลูกรังจึงถึงสถานีเกษตรที่สูงแม่จอนหลวงรวมระยะทางประมาณ
๑๒๐ กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ ๒ - ๓ ชั่วโมง
- เส้นทางที่ ๒ จากจังหวัดเชียงใหม่
ผ่านอำเภอสันป่าตอง แยกขวาที่สันป่าตองเข้าสู่เส้นทางหมายเลข
๑๐๑๓ ไปอำเภอแม่วาง เมื่อผ่านอำเภอแม่วางไปจะมีทางแยกซ้ายมือ
ให้เลี้ยวซ้าย จากนั้นเส้นทางจะลัดเลาะขึ้นภูเขา ผ่านบ้านหนองเต่า
บ้านป่ากล้วย ป้านโป่งลมแรง แล้วเลี้ยวขวาไปอีก ๙ กิโลเมตรจึงถึงสถานีทดลองเกษตรที่สูงแม่จอนหลวง
(เส้นทางระหว่างบ้านหนองเต่าจนถึงสถานียังเป็นทางดินลูกรังราว
๑๕ กิโลเมตร) ระยะทางรวม ๙๒ กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ ๒ ถึง
๒ ชั่วโมงครึ่ง
ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก
มีบ้านพักรับรองนักท่องเที่ยว แบ่งเป็นเรือนพักชายและหญิง
๒ หลัง มีสถานที่สำหรับประกอบอาหาร และมีเรือนรับรองหลังใหญ่
สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ราว ๔๐-๕๐ คน มีจุดชมวิวที่สามารถกางเต็นท์ได้สองจุด
รับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ ๑๐๐ คน ส่วนอาหารนักท่องเที่ยวสามารถเตรียมขึ้นมาประกอบเอง
หรือแจ้งล่วงหน้าให้กับเจ้าหน้าที่ของทางสถานีเพื่อให้จัดเตรียมให้
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
หมู่บ้านม้งแม่ขุนวาก
จากสถานีทดลองเกษตรแม่จอนหลวง มีทางแยกไปทางเหนือเล็กน้อย
เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านแม่ขุนวาก ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวสถานีโดยทางรถไปไม่ถึง
๒๐ นาที นักท่องเที่ยวสามารถแวะชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวม้ง
และชมงานปักผ้าของหญิงชาวม้งในหมู่บ้านได้
น้ำตกสิริรัตน์
ออกจากเขตสถานีฯ ไปทางทิศตะวันตก จะพบทางแยกไปน้ำตกสิริรัตน์
รถเข้าไม่ถึง ต้องเดินเท้าไปประมาณ ๑๐ นาที เส้นทางไปเที่ยวน้ำตกเป็น
เส้นทางปรับแต่งแล้ว สะดวกต่อการเดินเท้า แต่ควรสวมรองเท้าที่เหมาะสมต่อการเดินขึ้นเขาน้ำตกสิริรัตน์ไหลแรงมีน้ำตลอดปีเหมาะแก่การนั่งรับประทานอาหาร
แต่อย่าลืมเก็บขยะออกมาทิ้งด้านนอกด้วยทุกครั้ง
วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร
จากตัวเมืองเชียงใหม่มุ่งหน้าไปตามถนนสายเชียงใหม่-ฮอด ๕๘
กิโลเมตร เป็นวัดสำคัญคู่เมืองจอมทองและเป็นที่เคารพสักการะของชาวเหนือโดยทั่วไป
ประเพณีเด่นของวัดคือ การแห่ไม้ค้ำโพธิ์ ซึ่งเป็นประเพณีของชาวล้านนาที่ถือว่าการเอาไม้มาค้ำโพธิ์เป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนา
น้ำตกแม่เตี๊ยะ
ตำบลดอยแก้ว อำเภอจอมทอง อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติออบหลวง
น้ำตกแม่เตี๊ยะตั้งอยู่บริเวณกลางป่าลึก ตัวน้ำตกสูงประมาณ
๘๐ เมตร กว้างประมาณ ๑๕ เมตร น้ำตกมีทั้งหมด ๔ ชั้น มีระยะทางประมาณ
๕ กิโลเมตร มีน้ำตลอดปี ชาวสบเตี๊ยะนำน้ำจากที่นี่ไปใช้ในการเกษตร
เหมาะสำหรับเป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติ
การเดินทาง จากเชียงใหม่โดยรถยนต์ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข
๑๐๘ ถึงอำเภอจอมทอง เลี้ยวขวาข้างที่ว่าการอำเภอ หรือเลี้ยวขวาข้างวัดสบเตี๊ยะ
มีระยะทางโดยรวม ๑๕ กิโลเมตร หรือโดยสารรถประจำทาง เชียงใหม่-จอมทอง
จากนั้นต่อรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
แต่เดิมดอยอินทนนท์มีชื่อว่า ดอยหลวง หรือ
ดอยอ่างกา ดอยหลวง หมายถึงภูเขาที่มีขนาดใหญ่ ส่วนที่เรียกว่าดอยอ่างกานั้น
มีเรื่องเล่าว่า ห่างจากดอยอินทนนท์ไปทางทิศตะวันตก ๓๐๐ เมตร
มีหนองน้ำอยู่แห่งหนึ่งลักษณะเหมือนอ่างน้ำ แต่ก่อนนี้มีฝูงกาไปเล่นน้ำกันมากมาย
จึงเรียกว่า อ่างกา ต่อมาจึงรวมเรียกว่า ดอยอ่างกา
ดอยอินทนนท์นี้ เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งพาดผ่านจากประเทศเนปาล
ภูฐาน พม่า และมาสิ้นสุดที่นี่ สิ่งที่น่าสนใจของดอยนี้ไม่เพียงแต่เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศเท่านั้น
แต่สภาพภูมิประเทศและสภาพป่าที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นป่าดงดิบ
ป่าสน ป่าเบญจพรรณ และอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะมีหมอกปกคลุมเกือบทั้งวันและบางครั้งน้ำค้างยังกลายเป็นน้ำค้างแข็ง
สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นเสน่ห์ดึงดูดให้มีผู้มาเยือนที่นี่อย่างไม่ขาดสาย
การเดินทาง ระยะทางจากตัวเมืองขึ้นไปจนถึงยอดดอยอินทนนท์ประมาณ
๑๐๖ กิโลเมตร ออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปตามทางหลวงหมายเลข
๑๐๘ เชียงใหม่-จอมทอง ถึงหลักกิโลเมตรที่ ๕๗ ก่อนถึงอำเภอจอมทอง
๑ กิโลเมตร แยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข ๑๐๐๙ สายจอมทอง-อินทนนท์
ระยะทาง ๔๘ กิโลเมตรถึงยอดดอยอินทนนท์ เป็นถนนลาดยางอย่างดีแต่ทางค่อนข้างสูงชัน
รถที่นำขึ้นไปจะต้องมีสภาพดี ผู้ที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวสามารถนั่งรถสองแถวสายเชียงใหม่-จอมทองบริเวณประตูเชียงใหม่
จากนั้นขึ้นรถสองแถวที่หน้าวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหารหรือที่น้ำตกแม่กลาง
ซึ่งจะเป็นรถโดยสารประจำทางไปจนถึงที่ทำการอุทยานฯตรงหลักกิโลเมตรที่
๓๑ และหมู่บ้านใกล้เคียง แต่หากต้องการจะไปยังจุดต่าง ๆต้องเหมาไปคันละประมาณ
๘๐๐ บาท
มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ ๙ ของเส้นทางหมายเลข
๑๐๐๙ มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ และมีนิทรรศการเกี่ยวกับธรรมชาติ
สัตว์ป่า และอื่น ๆ
บริเวณที่ทำการมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม สำรองที่พักล่วงหน้าอย่างน้อย
๑ อาทิตย์ที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ โทร. ๐ ๒๕๖๒ ๐๗๖๐ www.dnp.go.th
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ โทร. ๐ ๕๓๓๕ ๕๗๒๘, ๐ ๕๓๓๑ ๑๖๐๘
สถานที่น่าสนใจในอุทยานฯ
น้ำตกแม่ยะ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสวยงามมากแห่งหนึ่ง
เพราะน้ำซึ่งไหลลงมาจากหน้าผาที่สูงชัน ๒๘๐ เมตร ลงมากระทบโขดหินเป็นชั้น
ๆ เหมือนม่าน แล้วลงไปรวมกันที่แอ่งน้ำเบื้องล่าง น้ำใสเย็นเหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ
อีกทั้งบริเวณรอบ ๆ น้ำตกเป็นป่าเขาอันสงบเงียบ และมีศูนย์ประชาสัมพันธ์นักท่องเที่ยวตั้งอยู่ด้วย
บริเวณน้ำตกสะอาดและจัดการพื้นที่ได้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม
การเดินทาง จากทางแยกเข้าทางหลวง ๑๐๐๙ ไปประมาณ ๑ กิโลเมตร
เลี้ยวซ้ายเข้าไป ๑๔ กิโลเมตร และต้องเดินเท้าเข้าไปอีก ๒๐๐
เมตร
น้ำตกแม่กลาง เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ชั้นเดียว
สูงประมาณ ๑๐๐ เมตร ต้นน้ำอยู่บนดอยอินทนนท์ มีน้ำไหลตลอดปี
มีความสวยงามตามธรรมชาติ การเดินทาง จากทางแยกเข้าทางหลวง
๑๐๐๙ ไปอีก ๘ กิโลเมตร แยกซ้าย ๕๐๐ เมตร เป็นทางลาดยางตลอด
ถ้ำบริจินดา ตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่
๘-๙ ของทางหลวงหมายเลข ๑๐๐๙ ใกล้กับน้ำตกแม่กลาง จะเห็นทางแยกขวามือมีป้ายบอกทางไปถ้ำบริจินดา
ภายในถ้ำลึกหลายกิโลเมตร เพดานถ้ำมีหินงอกหินย้อย หรือชาวเหนือเรียกว่า
นมผา สวยงามมาก มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในถ้ำด้วย นอกจากนั้น
ยังมีธารหิน เมื่อมีแสงสว่างมากระทบจะเกิดประกายระยิบระยับดังกากเพชรงามยิ่งนัก
ลักษณะของถ้ำเป็นถ้ำทะลุสามารถมองเห็นภายในได้ถนัด เพราะมีอุโมงค์ซึ่งแสงสว่างลอดเข้ามา
บริเวณปากถ้ำจะมีป้ายขนาดใหญ่ตั้งอยู่ อธิบายประวัติการค้นพบถ้ำนี้
น้ำตกวชิรธาร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่
เดิมชื่อ ตาดฆ้องโยง น้ำจะดิ่งจากผาด้านบนตกลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง
ในช่วงที่มีน้ำมากละอองน้ำจะสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณรู้สึกได้ถึงความเย็นและชุ่มชื้น
และสะพานไม้ที่ทอดยาวเข้าไปหาหน้าผานั้นจะเปียกลื่นอยู่ตลอดเวลา
แต่หากเดินเข้าไปจนสุดจะได้สัมผัสกับความงามของน้ำตกมากที่สุด
การเดินทาง จากเชิงดอยอินทนนท์ขึ้นไปถึงกิโลเมตรที่
๒๑ จะเห็นป้ายบอกทางแยกขวาเข้าน้ำตก ลงไป ๕๐๐ เมตร ถนนจะถึงที่ตัวน้ำตก
อีกเส้นทางหนึ่งซึ่งเป็นเส้นทางเดิมอยู่เลยจากทางแยกแรกไปประมาณ
๑ กิโลเมตร เลี้ยวขวาตามป้ายและเดินจากลานจอดรถลงไปอีก ๓๕๑
เมตร หากใช้เส้นทางนี้จะได้สัมผัสกับความงามของธรรมชาติรอบด้านตลอดทางเดิน
น้ำตกสิริภูมิ ไหลมาจากหน้าผาสูงชัน
เป็นทางยาวสวยงามมาก สามารถมองเห็นได้จากบริเวณที่ทำการอุทยานฯ
เป็นสายน้ำตกแฝดไหลลงมาคู่กันแต่เดิมเรียกว่า เลาลึ ตามชื่อของหัวหน้าหมู่บ้านม้งซึ่งอยู่ใกล้
ๆ น้ำตกสิริภูมิตั้งอยู่ตรงกิโลเมตรที่ ๓๑ ของทางหลวงหมายเลข
๑๐๐๙ มีทางแยกขวามือเข้าไปอีกประมาณ ๒ กิโลเมตร แต่รถไม่สามารถเข้าไปใกล้ตัวน้ำตกได้
นักท่องเที่ยวต้องเดินเท้าเข้าไปบริเวณด้านล่างของน้ำตก
โครงการหลวงดอยอินทนนท์ หมู่บ้านขุนกลาง
ตำบลห้วยหลวง อำเภอจอมทอง เดินทางตามเส้นทางสู่ดอยอินทนนท์
ถึงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ ๓๑ ของทางหลวงหมายเลข ๑๐๐๙ มีทางแยกขวามือเป็นทางลูกรังเข้าสู่โครงการฯ
อีกประมาณ ๑ กิโลเมตร โครงการหลวงอินทนนท์ รับผิดชอบส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมให้แก่กะเหรี่ยงและม้งในพื้นที่
ผลิตผลหลักของโครงการ คือ พืชผักและไม้ดอกเมืองหนาวต่าง ๆ
นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมแปลงปลูกดอกไม้ ห้องทดลองทำการเพาะขยายพันธุ์
และยังสามารถแวะชมแปลงปลูกดอกไม้ของชาวเขาในหมู่บ้านซึ่งอยู่บริเวณปากทางเข้าโครงการฯได้ด้วย
พระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ
ตรงหลักกิโลเมตรที่ ๔๑.๕ ทางด้านซ้ายมือ สร้างขึ้นโดยกองทัพอากาศร่วมกับพสกนิกรชาวไทย
โดยพระมหาธาตุนภเมทนีดล สร้างถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๕ รอบ เมื่อพ.ศ. ๒๕๓๐
และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ สร้างถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๕ รอบ เมื่อพ.ศ. ๒๕๓๕ พระมหาธาตุทั้ง
๒ องค์นี้ มีรูปทรงคล้ายคลึงกัน คือ ฐานเป็นรูป ๑๒ เหลี่ยม
มีระเบียงแก้วโดยรอบเป็น ๒ ระดับ ยอดปลีขององค์เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปบูชา
รอบบริเวณสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของดอยอินทนนท์ได้อย่างสวยงาม
ยอดดอยอินทนนท์ จุดสิ้นสุดของทางหลวงหมายเลข
๑๐๐๙ เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย (๒,๕๙๙ เมตร) มีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดปี
เป็นที่ตั้งสถานีเรดาร์ของกองทัพอากาศไทยและเป็นที่ประดิษฐานสถูปเจ้าอินทวิชยานนท์
เจ้าเมืองเชียงใหม่องค์สุดท้าย ซึ่งเล็งเห็นความสำคัญของป่าไม้และหวงแหนดอยหลวงเป็นอย่างมากต้องการที่จะอนุรักษ์ไว้จนชั่วลูกชั่วหลาน
ท่านผูกพันกับที่นี่มากจึงสั่งว่าหากสิ้นพระชนม์ไปแล้วให้แบ่งเอาอัฐิส่วนหนึ่งมาไว้ที่นี่
ศูนย์ประชาสัมพันธ์นักท่องเที่ยว
อยู่บริเวณใกล้กับยอดดอย แสดงนิทรรศการเรื่องราวของดอยอินทนนท์จากอดีตถึงปัจจุบัน
ให้ความรู้ทั้งสภาพทางภูมิศาสตร์ ทางชีววิทยา ป่าไม้ สิ่งมีชีวิต
ซึ่งบางชนิดหาดูได้ที่นี่แห่งเดียวในเมืองไทย ผู้มาเยือนจะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมาย
น้ำตกห้วยทรายเหลือง เป็นน้ำตกขนาดกลาง
มีน้ำไหลแรงตลอดปี และไหลจากหน้าผาลงมาเป็นชั้น ๆ เข้าทางเดียวกับน้ำตกแม่ปาน
ห่างจากที่ว่าการอำเภอแม่แจ่มประมาณ ๑๖ กิโลเมตร แยกจากทางหลวงหมายเลข
๑๐๐๙ ตรงด่านตรวจกิโลเมตรที่ ๓๘ ไปตามทางหลวงหมายเลข ๑๑๙๒
สายอินทนนท์-แม่แจ่ม ประมาณ ๖ กิโลเมตร จะมีป้ายบอกทางไปน้ำตก
เข้าไปประมาณ ๒ กิโลเมตร เป็นทางดินแดงในช่วงหน้าฝนทางลำบากมากต้องใช้รถขับเคลื่อน
๔ ล้อ
น้ำตกแม่ปาน เข้าทางเดียวกับน้ำตกห้วยทรายเหลือง
แต่อยู่เลยไปอีก ๕๐๐ เมตร และจากจุดจอดรถต้องเดินต่อไปอีก
๘๐๐ เมตร ใช้เวลาประมาณ ๑๐ นาที จึงจะถึงตัวน้ำตก น้ำตกแม่ปานนับว่าเป็นน้ำตกที่ยาวที่สุดของเชียงใหม่ก็ว่าได้
น้ำจะตกลงมาจากหน้าผาซึ่งสูงกว่า ๑๐๐ เมตร เป็นทางยาว ถ้ามองดูแต่ไกลจะเห็นสายน้ำยาวสีขาวตัดกับสีเขียวของต้นไม้ทำให้ดูเด่น
น้ำที่ตกลงมายังเบื้องล่างกระทบโขดหินแตกเป็นฟองกระจายไปทั่วบริเวณทำให้มีความชุ่มชื้น
เบื้องล่างมีแอ่งน้ำรองรับอยู่ สามารถพักผ่อนลงอาบเล่นได้
เส้นทางศึกษาธรรมชาติบนดอยอินทนนท์
กิ่วแม่ปาน ทางเข้าอยู่กิโลเมตรที่
๔๒ ด้านซ้ายมือ ระยะทางเดิน ๓ กิโลเมตร เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติแท้จริง
ระหว่างทางเดินจะพบป่าดิบเขา (Hill Evergreen) ก่อนผ่านเข้าสู่ทุ่งหญ้าซึ่งเคยเป็นพื้นที่ป่าถูกทำลาย
เพื่อเป็นการศึกษาลักษณะการเกิดผลกระทบต่อเนื่องบริเวณรอยต่อระหว่างพื้นที่ป่าสมบูรณ์กับพื้นที่ถูกทำลาย
หลังจากนั้นทางเดินจะเลาะริมผามีไอหมอกปลิวผ่านตลอดเวลา จะพบดอกกุหลาบพันปี
หรือ Rhododendron (ไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก ขึ้นตามป่าในระดับสูง
มีพันธุ์ดอกสีขาวและสีแดง เวลาออกดอกช่วงแรกมีลักษณะเหมือนปลีกล้วย
ก่อนที่จะบานเต็มต้นในช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ พบมากในแถบเทือกเขาหิมาลัยและเป็นไม้ประจำชาติของเนปาลด้วย)
มองลงไปยังเบื้องล่างจะพบทัศนียภาพที่งดงามของอำเภอแม่แจ่ม
การใช้เส้นทางนี้ต้องลงทะเบียนขอรับใบอนุญาตให้ใช้เส้นทางโดยติดต่อที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์อุทยานฯ
และควรจัดกลุ่มละไม่เกิน ๑๕ คน ทางอุทยานฯไม่อนุญาตให้นำอาหารเข้าไปรับประทานในเส้นทางในช่วงฤดูฝน
และจะปิดเส้นทางเพื่อให้ธรรมชาติฟื้นตัวไม่อนุญาติให้เข้าไปท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่
๑ มิถุนายน ถึงวันที่ ๓๐ ตุลาคม ของทุกปี เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานแห่งนี้
ได้รับรางวัลดีเด่นประเภทแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ครั้งที่ ๔ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๔๕ เพราะมีการจัดการที่เน้นความเป็นธรรมชาติ
ระหว่างทางมีป้ายสื่อความหมายให้ความรู้กับนักท่องเที่ยว และประชาชนในท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการนำเที่ยว
อ่างกาหลวง เส้นทางนี้สำรวจวางแนวและออกแบบเส้นทางเดินโดย
คุณไมเคิล แมคมิลแลน วอลซ์ นักสัตววิทยาและอาสาสมัครชาวแคนาดาประจำอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่ทำงานทุ่มเทให้กับอินทนนท์ และได้เสียชีวิตที่นี่ด้วยโรคหัวใจ
เส้นทางนี้มีระยะทาง ๑,๘๐๐ เมตร พื้นที่นี้เป็นหนองน้ำซับในหุบเขา
จุดเด่นที่น่าสนใจ คือ ป่าดิบเขาระดับสูง ลักษณะของพรรณไม้เขตอบอุ่นผสมกับเขตร้อนที่พบเฉพาะในระดับสูง
การสะสมของอินทรียวัตถุในป่าดิบเขา ลักษณะอากาศเฉพาะถิ่น พืชที่อาศัยเกาะติดต้นไม้
ลักษณะของต้นน้ำลำธาร และลักษณะของต้นไม้บนดอยอ่างกา เช่นต้นข้าวตอกฤาษีที่ขึ้นตามพื้นดิน
(ข้าวตอกฤาษี เป็นพืชที่ต้องการความอุดมสมบูรณ์สูง จะขึ้นในที่สูงกว่า
๒,๐๐๐ เมตรเท่านั้น และเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ชุ่มชื้น
อากาศเย็น) กุหลาบพันปี เป็นต้น
ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ อีกหลายเส้น เช่น เส้นทางศึกษาธรรมชาติ
กิโลเมตรที่ ๓๘ และ เส้นทางศึกษาธรรมชาติกลุ่มน้ำตกแม่ปาน
เป็นต้น แต่ละเส้นใช้เวลาในการเดินต่างกันตั้งแต่ ๒๐ นาที
๗ ชั่วโมง และเหมาะที่จะศึกษาสภาพธรรมชาติที่ต่างกันด้วย
ศึกษารายละเอียดเส้นทางได้จากที่ทำการอุทยานฯ และจะต้องติดต่อขอเจ้าหน้าที่นำทางจากที่ทำการฯ
บริเวณหลักกิโลเมตรที่ ๓๑ เพื่อป้องกันการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ
และปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น และเป็นการส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
การใช้สถานที่เพื่อการพักค้างแรมหรือจัดกิจกรรมอื่น ๆนอกเหนือจากบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
ต้องขออนุญาตจากหัวหน้าอุทยานฯ เป็นลายลักษณ์อักษร
กิจกรรมดูนกบนดอยอินทนนท์
ศูนย์บริการข้อมูลนกอินทนนท์ที่ร้านลุงแดง
ตั้งอยู่กิโลเมตรที่ ๓๑ หน่วยจัดการต้นน้ำแม่กลาง ให้บริการด้านข้อมูลนกในดอยอินทนนท์
เช่น สมุดบันทึกการพบนกในดอยอินทนนท์ ภาพวาดลายเส้นของนักดูนก
แผนที่เส้นทางดูนกดอยอินทนนท์ ภาพถ่าย สไลด์เกี่ยวกับนก ฯลฯ
ให้บริการทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ช่วงที่นักดูนกนิยมมาดูนกกันเป็นฤดูหนาว
นอกจากจะได้พบนกประจำถิ่นแล้ว ยังสามารถพบนกอพยพ เช่น นกปากซ่อมดง
นกอุ้มบาตร นกเด้าลมหลังเทา นกเด้าลมหลังเหลือง นกเด้าลมดง
นกเด้าลมหัวเหลือง นกจาบปีกอ่อนเล็ก นกจาบปีกอ่อนหงอน นกจาบปีกอ่อนสีแดง
นกเดินดงสีน้ำตาลแดง ฯลฯ ทางศูนย์ฯจะบริการให้คำแนะนำตลอดจนเป็นสถานที่พบปะสนทนาระหว่างนักดูนก
นักศึกษาธรรมชาติและบุคคลทั่วไป เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ดีต่อการอนุรักษ์และรักษาสภาพธรรมชาติ
ทำให้ทราบถึงแหล่งที่อยู่อาศัย แหล่งอาหารของนกและสัตว์ป่าในดอยอินทนนท์
ให้คงอยู่ถึงรุ่นลูกรุ่นหลานต่อไป |
|
ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว อำเภอแม่แจ่ม เชียงใหม่ |
อำเภอแม่แจ่มเป็นอำเภอเล็ก
ๆ ในหุบเขามีวัฒนธรรมที่งดงาม ตามประวัติกล่าวว่าที่อำเภอแม่แจ่มในสมัยก่อนเป็นถิ่นอาศัยของชาวลัวะ
และต่อมามีชาวไต-ยวนเข้ามา คนแม่แจ่มในปัจจุบันเป็นผู้คนที่ย้ายมาอยู่ตั้งแต่สมัยลัวะ
และยังมี ปกากญอ และมอญ ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในพื้นที่
การเดินทาง ไปอำเภอแม่แจ่ม ไปได้
๒ ทาง คือ ๑) จากอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ทางหลวงหมายเลข
๑๐๐๙ สายจอมทอง-อินทนนท์ เมื่อถึงด่านตรวจอำเภอแม่แจ่ม กิโลเมตรที่
๓๘ แยกซ้ายไปประมาณ ๒๒ กิโลเมตรจะถึงตัวอำเภอแม่แจ่ม ๒) จากอำเภอฮอดทางหลวงหมายเลข
๑๐๘ และแยกขวาเข้าทาง ๑๐๘๘ระยะทางประมาณ ๒๖ กิโลเมตร หรือหากเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง
ใช้บริการจอมทอง-แม่แจ่ม รถวิ่งบริการระหว่างเวลา ๐๘.๐๐-๑๘.๐๐
น.
หมู่บ้านทอผ้าซิ่นตีนจก
อยู่ห่างจากตัวอำเภอแม่แจ่มไปประมาณ ๓ กิโลเมตร (ข้ามสะพานข้างที่ว่าการอำเภอแล้วเลี้ยวซ้ายตรงหมู่บ้านที่
๔-๕ ตำบลท่าผา ชาวบ้านที่ตำบลนี้นิยมทอผ้าซิ่นตีนจกกันมาก
ซึ่งทำกันถึง ๑๕๐ ครอบครัว และแต่ละบ้านจะมีเครื่องทออยู่ใต้ถุนบ้าน
ผลิตภัณฑ์พื้นเมืองชนิดนี้เป็นที่นิยมอย่างสูง เพราะมีความสวยสดงดงามและลวดลายที่ออกมามีเอกลักษณ์เฉพาะ
หากต้องการวิทยากรนำชมติดต่อที่ว่าการอำเภอแม่แจ่มล่วงหน้า
โทร. ๐ ๕๓๔๘ ๕๑๑๑ ต่อ ปกครองอำเภอ
วัดป่าแดด
ตำบลท่าผา สิ่งที่น่าสนใจ คือ ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในวิหาร
ที่ค่อนข้างสมบูรณ์ วาดโดยช่างแต้มชาวไทยใหญ่ เป็นเรื่องพุทธประวัติ
และชาดกต่าง ๆ วิหารหลังนี้สร้างขึ้น พร้อมกับการสร้างวัด
เมื่อ ประมาณ พ.ศ. ๒๔๐๐
วัดพุทธเอิ้น ตำบลช่างเคิ่ง
อำเภอแม่แจ่ม ตามประวัติกล่าวว่า วัดพุทธเอิ้นก่อสร้างในสมัยต้นรัตนโกสินทร์
เมื่อ ๒๐๐ กว่าปีมาแล้ว มีโบราณสถานซึ่งขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากรแล้วคือ
โบสถ์น้ำ ลักษณะคือสร้างในสระสี่เหลี่ยมโดยปักเสาลงในน้ำล้อมรอบด้วยกำแพงศิลาแลง
บริเวณรอบโบสถ์จนถึงกำแพง เรียกว่า อุทกสีมา มีความหมายเหมือนกับ
ขันทสีมา ของโบสถ์บนบก โบสถ์น้ำนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากรแล้ว
คติการบวชในโบสถ์กลางน้ำนั้นถือว่าเป็นการบวชพระภิกษุสงฆ์ที่มีความบริสุทธิ์มากที่สุด
ได้รับอิทธิพลมาจากฝ่ายลังกา ปัจจุบันการบวชกลางน้ำนี้ได้ยกเลิกไปหมดแล้ว
บริเวณด้านหลังโบสถ์น้ำมีวิหารเก่าแก่ ซึ่งภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างสกุลไทยใหญ่
ปัจจุบันหลงเหลือเพียงภาพเดียว เหนือประตูทางเข้าด้านหลัง
วัดกองกาน อยู่ห่างจากวัดพุทธเอิ้นประมาณ ๒ กิโลเมตร เป็นวัดสำคัญของชาวแม่แจ่ม
ภายในวิหารมีพระเจ้าตนหลวงซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองแม่แจ่ม
ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ชาวแม่แจ่มจะไปสรงน้ำองค์พระกันทุกปี
พระเจ้าตนหลวงนี้เป็นแบบล้านนา และมีขนาดใหญ่ที่สุดในอำเภอแม่แจ่ม
ตัววิหารเป็นไม้ และหลังคามุงแป้นเกล็ดแบบโบราณ
วัดยางหลวง
ตำบลท่าผา เส้นทางเดียวกับวัดป่าแดด ไม่ไกลกันมาก ชาวกะเหรี่ยง
หรือ ยาง เป็นผู้สร้างวัดนี้ขึ้นมา สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่
๒๔ สิ่งที่น่าสนใจ คือ กู่ปราสาท หรือ กิจกูฏ ซึ่งตั้งอยู่หลังพระประธานในวิหาร
คนโบราณถือว่าเป็นประตูไปสู่สวรรค์ ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของกิจกูฏ
เป็นแบบพุกามจากพม่า ผสมกับล้านนาสกุลช่างเชียงแสน
วัดกองแขก ตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภอแม่แจ่ม
ประมาณ ๗ กิโลเมตร บนถนนสายฮอด-เม่แจ่ม ชุมชนบ้านกองแขกนับเป็นชุมชนเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของแม่แจ่ม
ซึ่งเป็นที่รวมของกลุ่มชาวบ้านที่อพยพมาจากที่ต่าง ๆ เช่น
ชาวแม่พริกจังหวัดลำปาง ชาวเชียงแสนจากเชียงราย ชาวน่าน เชียงคำ
เป็นต้น เมื่อมีชุมชนเกิดขึ้น การก่อสร้างวัด และศาสนสถานก็เกิดขึ้นตามมา
โดยเฉพาะวิหารวัดกองแขกที่เก่าแก่ไม่น้อยกว่าร้อยปี เป็นฝีมือช่างชาวลำปางที่อพยพมาอยู่ด้วยกัน
และที่สำคัญคือภาพจิตรกรรมฝาผนังคอสองของวิหารนั้น มีความแปลกเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชาวแม่แจ่มก็ว่าได้
เพราะภาพแต่ละภาพนั้นจิตรกรได้ใส่อารมณ์ตวัดปลายภู่กันอย่างเฉียบคมยิ่ง
ไม่ว่าจะเป็นรูปพุทธประวัติ รูปเทวดาฟ้อนรำ และรูปชาดกต่าง
ๆ
สวนป่าแม่แจ่ม เป็นสวนป่าอีกแห่งหนึ่งขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
ตั้งขึ้นเมื่อพ.ศ. ๒๕๑๖ มีเนื้อที่ประมาณ ๖,๙๓๒ ไร่ ปัจจุบันสวนป่าแม่แจ่มได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว
มีลำน้ำแม่แจ่มที่ไหลผ่านในเขตสวนป่า เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการล่องแพ
ปั่นจักรยานเสือภูเขา หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ
และทางสวนป่าได้จัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับผู้มาเยือน
อย่างครบครัน มีแคมป์ไฟ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลและอำนวยความสะดวกในยามค่ำคืน
นอกจากนี้ทางสวนป่าแม่แจ่มยังสามารถที่จะให้ความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้กับนักเรียน
หรือประชาชนทั่วไปที่ต้องการหาความรู้ และยังสามารถจัดประชุม
หรือสัมมนาของภาครัฐและเอกชนได้อีกด้วย
การเดินทาง โดยทางรถยนต์จากเชียงใหม่มาตามทางหลวงหมายเลข
๑๐๘ สายเชียงใหม่-แม่สะเรียง ถึงอำเภอฮอดเลี้ยวขวาไปทางอำเภอแม่สะเรียง
ผ่านอุทยานแห่งชาติออบหลวงประมาณหลักกิโลเมตรที่ ๒๑ มีทางแยกขวาเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข
๑๐๘๘ ไป อำเภอแม่แจ่ม ระยะทางประมาณ ๔๖ กิโลเมตร สวนป่าแม่แจ่มอยู่ทางซ้ายมือประมาณหลักกิโลเมตรที่
๑๖ จากทางแยกเข้ามา
สถานที่ติดต่อ สวนป่าแม่แจ่ม
หมู่๓ ตำบลกองแขก อำเภอแม่แจ่ม โทร. ๐ ๕๓๒๒ ๘๐๖๘, ออป.เชียงใหม่
โทร. ๐ ๕๓๒๔ ๒๖๗๓, ๐ ๕๓๒๔ ๕๓๕๖ ฝ่ายออป.ภาคเหนือ โทร. ๐ ๕๔๒๒
๗๖๒๓, ๐ ๕๓๒๒ ๗๐๕๑ ออป. กรุงเทพฯ ๐ ๒๒๘๒ ๓๒๔๓-๗ |
|
สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ |
ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ฮอด-ดอยเต่า |
อุทยานแห่งชาติออบหลวง ออบหลวงเป็นสถานที่น่าเที่ยวที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ความสวยงามและน่ากลัวไว้ในจุดเดียวกัน
กล่าวคือ เบื้องล่างเป็นแม่น้ำที่ไหลคดเคี้ยวผ่านช่องเขาขาดตรงออบหลวง
ช่องเขานี้มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชันและแคบมาก บีบทางน้ำไหล
ดังนั้น แม่น้ำตรงนี้จึงเชี่ยวจัด เสียงน้ำกระทบหน้าผาดังสนั่น
รอบ ๆ บริเวณงดงามไปด้วยหมู่ไม้น้อยใหญ่ ร่มรื่นอยู่ตลอดเวลา
นอกจากนี้ยังมีสะพานเชื่อมช่องเขาขาดสำหรับนักท่องเที่ยวยืนชมความงดงามของทัศนียภาพออบหลวง
และภายในบริเวณอุทยานฯ มีแหล่งโบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์ด้วย
ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก
ทางอุทยานฯ มีสถานที่กางเต็นท์ และมีเต็นท์ให้เช่าพร้อมเครื่องนอนราคา
๕๐ บาท/คืน รายละเอียดสอบถาม โทร. ๐ ๕๓๒๒ ๙๒๗๒ หรือ กรมอุทยานแห่งชาติฯ
โทร. ๐ ๒๕๖๒ ๐๗๖๐ www.dnp.go.th
การเดินทาง อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่
ตามทางหลวงหมายเลข ๑๐๘ สายฮอด-แม่สะเรียง ตรงหลักกิโลเมตรที่
๑๗ รวมระยะทางประมาณ ๑๐๕ กิโลเมตร สภาพทางลาดยางตลอด และช่วงระหว่างฮอดจนถึงออบหลวงนั้น
ถนนจะเลียบขนานไปกับแม่น้ำแม่แจ่มหรือแม่น้ำสลักหิน และเวียนวกไปตามไหล่เขา
หากเดินทางโดยรถประจำทาง มีรถบัสสีฟ้าจอดที่ท่ารถตรงวงเวียนฮอด-แม่สะเรียง
วิ่งทั้งหมด ๓ เส้นทาง คือ ฮอด แม่สะเรียง ฮอด-แม่แจ่ม ฮอด-อมก๋อย
ซึ่งจะผ่านออบหลวงทั้งสามสาย
สถานีทดลองปลูกพรรณไม้บ่อแก้ว
(สวนสนบ่อแก้ว) อยู่บนเส้นทางสายฮอด-แม่สะเรียง กิโลเมตรที่
๓๖ สถานีฯเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำรวจวัตถุดิบเพื่อทำเยื่อกระดาษ
เป็นแปลงทดลองปลูกพืชจำพวกสน และยูคาลิปตัส ในเนื้อที่ทั้งหมด
๒,๐๗๒ ไร่ อากาศของที่นี่ชื้นและเย็นตลอดปี งามด้วยทิวสนที่ปลูกอย่างเป็นระเบียบงามตาจึงทำให้บริเวณสถานีกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมแห่งหนึ่ง
การเดินทาง หากไม่มีรถยนต์ส่วนตัวสามารถนั่งรถประจำทางสีฟ้าสายเชียงใหม่-ฮอด-ดอยเต่า
มาลงที่หน้าสถานีฯ
อุทยานแห่งชาติแม่โถ
มีพื้นที่ประมาณ ๙๙๐ ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ อำเภอฮอด
และ อำเภอแม่แจ่ม ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน
โดยมีดอยกิ่งไร่ม้งเป็นยอดเขาสูงสุด มีความสูง ๑,๗๑๕ เมตร
จากระดับน้ำทะเล เทือกดอยเหล่านี้ปกคลุมด้วยป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง
ป่าสนเขา ป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรัง เป็นแหล่งต้นน้ำของลำน้ำแม่แจ่มและลำน้ำแม่ลิด
สำหรับสัตว์ป่ายังคงพบเลียงผา เก้ง หมีควาย หมูป่า รวมทั้งนกนานาชนิด
สถานที่น่าสนใจในอุทยานฯ
จุดชมทิวทัศน์ อยู่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ
มองลงมายังหุบเขาเบื้องล่างจะเห็นนาข้าวขั้นบันไดของชาวยาง(กะเหรี่ยง)
เป็นเส้นคดเคี้ยวดูคล้ายแม่น้ำ โดยเฉพาะในฤดูฝนนาข้าวจะเขียวขจีชุ่มชื้น
หากอากาศปลอดโปร่งจะมองเห็นยอดดอยอินทนนท์ ตอนเช้าหมอกจะหนามาก
และอากาศเย็นตลอดปี
น้ำตกแม่แอบ เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามบรรยากาศโดยรอบร่มรื่นน่าเที่ยวชม
หากต้องการมาพักแรมตรงที่ทำการฯ ต้องเตรียมเครื่องนอน และอาหารมาเอง
สอบถามรายละเอียดได้ที่ศูนย์ประสานงานอุทยานแห่งชาติและวนอุทยานกลุ่มนครพิงค์
โทร. ๐ ๕๓๘๑ ๘๓๘๔
การเดินทาง อุทยานฯ อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ
๑๖๐ กิโลเมตร ไปตามถนนสายฮอด-แม่สะเรียง ถึงกิโลเมตรที่ ๕๕
แล้วแยกเข้าเส้นทางไปแม่โถอีก ๑๖ กิโลเมตร ช่วงนี้สภาพถนนลาดยางสลับลูกรัง
ลาดชันและคดเคี้ยวจึงควรใช้รถที่มีกำลังและสภาพดี
ทะเลสาบดอยเต่า
อำเภอดอยเต่า เป็นพื้นที่น้ำท่วมถึงภายหลังการสร้างเขื่อนภูมิพล
เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่เหนือเขื่อนภูมิพล เคยใช้ในการเกษตรกรรม
การประมง ในบริเวณอ่างเก็บน้ำ หากมีน้ำมากพอ ในเดือนตุลาคม-เมษายนจะมีบริการแพพัก
ราคา ๑,๐๐๐-๑,๕๐๐ บาท และเรือนำเที่ยวไปยังเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก
รายละเอียดติดต่อ บริษัท ท่องนที จำกัด โทร. ๐ ๒๔๕๗ ๖๘๗๓-๔,
๐ ๒๔๕๗ ๓๔๒๘
การเดินทาง จากเชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข ๑๐๘ ไปยังอำเภอฮอด
ระยะทาง ๙๐ กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายสู่ทางหลวงหมายเลข ๑๑๐๓
ไปยังทะเลสาบดอยเต่าอีก ๓๕ กิโลเมตร รวมระยะทางจากจังหวัดเชียงใหม่
๑๒๕ กิโลเมตร
วัดพระธาตุดอยเกิ้ง
หมู่ ๕ ตำบลท่าเดื่อ อำเภอดอยเต่า ห่างจากที่ว่าการอำเภอดอยเต่าประมาณ
๖๐ กิโลเมตร พระเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุส่วนพระนลาฏ(หน้าผาก)
ตามประวัติกล่าวว่าเมื่อ พ.ศ.๑๒๐๐-๑๒๖๐ พระนางจามเทวีกษัตริย์ผู้ครองนครหริภุญไชยได้ทำการบูรณะ
ต่อมา พ.ศ. ๒๔๖๒ ครูบาศรีวิชัยเป็นประธานในการบูรณะปฏิสังขรณ์
ในวันเพ็ญเดือน ๓ วันมาฆะบูชา จะมีพิธีสรงน้ำพระธาตุ ทุกปี
ดอยม่อนจอง
ขึ้นอยู่กับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย ซึ่งครอบคลุมพื้นที่อำเภออมก๋อย
จังหวัดเชียงใหม่ และ อำเภอสามเงา จังหวัดตาก สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องไพรมายังดอยม่อนจองก็คือ
กวางผาหรือม้าเทวดาซึ่งมีถิ่นอาศัยอยู่ที่นี่ และทิวทัศน์ที่สวยงามของทิวเขา
และถ้ามาในเดือนธันวาคม-มกราคมจะได้พบดอกกุหลาบพันปีที่กำลังบาน
ว่ากันว่าต้นนี้เป็นต้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นกหายากที่พบที่นี่
ได้แก่ เหยี่ยวนกเขาท้องขาว นกอินทรีแถบปีกดำ นกอินทรีเล็ก
นกเปล้าท้องขาว นกมุ่นรกคอแดง นกเดินดงคอดำ เป็นต้น
การเดินขึ้นดอยม่อนจอง สามารถไปเช้า-เย็นกลับได้
แต่จะเหนื่อยมาก ต้องเริ่มออกเดินตั้งแต่ ๐๖.๓๐ น. เป็นอย่างน้อย
หากเดินแบบไม่เหนื่อยเกินไปนักควรใช้เวลา ๒ วัน ๑ คืน ก่อนเดินขึ้นดอยต้องติดต่อขออนุญาตจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย
หน่วยมูเซอซึ่งเป็นที่ตั้งที่ทำการเขตรักษาพันธุ์ฯ
การเดินทาง ไปยังเขตรักษาพันธุ์ฯ
(หน่วยมูเซอ) จากเชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข ๑๐๘ แล้วแยกซ้ายจากอำเภอฮอดเข้าทางหลวงหมายเลข
๑๐๙๙ ไปจนถึงตัวอำเภออมก๋อย และตรงต่อไปตามทางหลวง ๑๐๙๙ ประมาณ
๔๐ กิโลเมตร จะพบหน่วยมูเซออยู่ทางด้านซ้ายมือ จากหน่วยฯไปยังจุดเริ่มเดินอีกประมาณ
๑๖ กิโลเมตร ทางในช่วงนี้จำเป็นต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อและคนขับที่มีความชำนาญเป็นอย่างมาก
เนื่องจากสภาพทางเป็นลูกรัง และแคบคดเคี้ยวริมผา
ผู้ที่เดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง
จากอำเภอเมืองเชียงใหม่มีคิวรถจากประตูช้างเผือก มายังอมก๋อย
รถออกประมาณ ๐๘.๐๐ น. สามารถติดต่อเช่ารถไปส่งที่จุดเริ่มเดินที่
คุณเดช เสริมมติวงศ์ โทร. ๐ ๕๓๔๖ ๗๑๐๙ รับ-ส่ง ส่วนเสบียงข้าวของต่าง
ๆ หาซื้อได้ที่ตัวอำเภออมก๋อย และค่าบริการลูกหาบ ๑๕๐ บาท/วัน/คน |
|
เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โรงแรมเชียงใหม่ ห้วยน้ำดัง ดอยอินทนนท์ ดอยอ่างขาง
ดอยสุเทพเป็นศรี
ประเพณีเป็นสง่า บุปผชาติล้วนงามตา งามล่ำค่านครพิงค์ |
ข้อมูลท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ |
|
|
|
สวนสัตว์เชียงใหม่ หมีแพนด้า |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ทัวร์โปรโมชั่น
โปรแกรมทัวร์อื่นๆ - เช็คที่นั่ง |
|
โปรแกรมจอยทัวร์ |
|
UQ-879 : เส้นทางสายไหม ภูเขาสายรุ้ง ถ้ำตุนหวง สกีหิมะ Silk Road ลั่วหยาง หลานโจว จางเย่ ด่านเจียยี่กวน ตุนหวง สระน้ำวงพระจันทร์ ถ้ำโมเกาคู อูรูมูฉี (UQ)
เที่ยวชม เมืองลั่วหยาง หนึ่งในสี่เมืองหลวงเก่าที่ยิ่งใหญ่ของหลายราชวงศ์จีน
ชมความมหัศจรรย์ของ ภูเขาสายรุ้ง Rainbow Mountain กับธรรมชาติที่สรรค์สร้าง
ชม ถ้ำตุนหวง ถ้ำหินแกะสลักขนาดใหญ่ที่สุดของจีน ขี่อูฐกลางทะเลทราย
สนุกสนานกับ สกีหิมะ Silk Road เขาเทียนซาน ลานสกีที่โด่งดังของเมืองอูรูมูฉี
อาหารดี - โรงแรมที่พักระดับ 5 ดาว บิน Urumqi Air (UQ) 3 ไฟลท์ เที่ยวแบบไม่เหนื่อย
วันที่ 13 - 20 ธันวาคม, 27 ธ.ค. - 3 ม.ค., 28 กุมภาพันธ์ 7 มีนาคม, 14 - 21 มีนาคม 2568 : ราคา 59,995.-บาท |
|
CGO655-DD : ซีอาน ลั่วหยาง สุสานทหารดินเผาจิ๋นซี ถ้ำน้ำแข็งหมื่นปี อุทยานหยุนไถ่ซาน ถ้ำหลงเหมิน สุสานกวนอู เจดีย์ห่านป่าใหญ่ โชว์เส้นทางสายไหม (DD)
ชม สุสานทหารดินเผาจิ๋นซี อันยิ่งใหญ่ และชม ถ้ำผาหลงเหมิน ผาหินแกะสลักมรดกโลก
ชม ถ้ำน้ำแข็งหมื่นปี คล้ายคริสตัลและชม อุทยานหยุนไถซาน อุทยานสวรรค์ที่สวยงามที่สุด
ชม โชว์เส้นทางสายไหม โชว์ที่สวยที่สุดของซีอานที่บอกเล่าเรื่องราวเส้นทางการค้าโบราณ
อาหารดี - โรงแรมที่พักระดับ 5 ดาว นั่งรถไฟความเร็วสูง (ไม่ต้องลากกระเป๋าขึ้นรถไฟ)
วันที่ 5 - 10 ธันวาคม และ 28 ธันวาคม - 2 มกราคม 2568 |
|
CGO651-DD : ซีอาน เทศกาลดอกโบตั๋นบาน ลั่วหยาง สุสานทหารดินเผาจิ๋นซี ถ้ำน้ำแข็งหมื่นปี อุทยานหยุนไถ่ซาน ถ้ำหลงเหมิน เจดีย์ห่านป่าใหญ่ โชว์เส้นทางสายไหม (DD)
ชม ดอกโบตั๋นบาน เทศกาลดอกโบตั๋นบานเมืองลั่วหยางที่สวยงามที่สุดในประเทศจีน
ชม สุสานทหารดินเผาจิ๋นซี อันยิ่งใหญ่ และชม ถ้ำผาหลงเหมิน ผาหินแกะสลักมรดกโลก
ชม ถ้ำน้ำแข็งหมื่นปี คล้ายคริสตัลและชม อุทยานหยุนไถซาน อุทยานสวรรค์ที่สวยงามที่สุด
ชม โชว์เส้นทางสายไหม โชว์ที่สวยที่สุดของซีอานที่บอกเล่าเรื่องราวเส้นทางการค้าโบราณ
อาหารดี - โรงแรมที่พักระดับ 5 ดาว นั่งรถไฟความเร็วสูง (ไม่ต้องลากกระเป๋าขึ้นรถไฟ)
วันที่ 12 - 17 เมษายน 2568 |
|
TG-651 : คุนหมิง ต้าหลี่ ลี่เจียง แชงกรีล่า วัดซงจ้านหลิง ภูเขาหิมะมังกรหยก สวนดอกไม้ฮอบบิท เมืองโบราณลี่เจียง (TG)
นั่งรถไฟความเร็วสูง คุนหมิง-แชงกรีล่า เที่ยวสวนดอกไม้ฮอบบิท
นั่งกระเช้าใหญ่ขึ้นภูเขาหิมะมังกรหยก
อาหารดี - โรงแรม 5 ดาว บินการบินไทย - ไม่ลงร้านช้อป
วันที่ 5 10 ธันวาคม, 28 ธันวาคม - 2 มกราคม, 11 - 16 กุมภาพันธ์, 11 - 16 เมษายน 2568 |
|
XIN879-CZ : เส้นทางสายไหม หลานโจว ภูเขาสายรุ้ง จางเย่ ด่านเจียยี่กวน ถ้ำตุนหวง สระน้ำวงพระจันทร์ ถ้ำโมเกาคู ทูรูฟาน ภูเขาหิมะเทียนซาน อูรูมูฉี (CZ)
ชมความมหัศจรรย์ของ ภูเขาสายรุ้ง Rainbow Mountain กับธรรมชาติที่สรรค์สร้าง
ชม ถ้ำตุนหวง ถ้ำหินแกะสลักขนาดใหญ่ที่สุดของจีน ขี่อูฐกลางทะเลทราย
เที่ยวชม ภูเขาหิมะเขาเทียนซาน สถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของซินเจียง (มรดกโลก)
ไม่ลงร้านช้อป - อาหารดี - โรงแรม 5 ดาว บิน CHINA SOUTHERN AIRLINE นั่งสบาย
วันที่ 22 29 มีนาคม, 2 9 เมษายน, 9 16 เมษายน, 30 เมษายน 7 พฤษภาคม 2568 |
|
|
|
FD659-CSX : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่ หมู่บ้านโบราณหวงหลิง ล่องเรือชมแสงสีอู้วนี่โจว ภูเขาหลิงซาน ไหว้พระใหญ่ตงหลิน เมืองจิ่งเต๋อเจิ้น พิพิธภัณฑ์เซรามิค (FD)
เที่ยว หมู่บ้านโบราณหวงหลิง นับเป็นหมู่บ้านสวยที่สุดในเมืองอู้หยวน มณฑลเจียงซี
พักใน หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่ ถ่ายรูปสวยๆแสงสีแสงไฟยามค่ำคืน
นำท่าน ล่องเรือ ชมแสงสียามค่ำคืนอู้วี่โจว พร้อมชมแลนด์มาร์คแห่งใหม่
อาหารดี - โรงแรมระดับ 5 ดาว ไม่ลงร้านช้อป - ไม่ต้องลากกระเป๋าขึ้นรถไฟ
วันที่ 11 - 16 กุมภาพันธ์, 18 - 23 มีนาคม, 22 - 27 เมษายน 2568 |
|
PU-541 : ภูฏาน พาโร ทิมพู ปูนาคา วัดทักซัง พาโรซอง ทิมพูซอง ปูนาคาซอง ซิมโทกาซอง คิชูลาคัง สวนสัตว์ภูฏาน (KB)
เที่ยวครบ 3 เมืองหลัก เมืองพาโร เมืองทิมพู เมืองปูนาคา
อาหารดี - โรงแรมที่พักมาตรฐานรัฐบาล
วันที่ 6 - 10 ธันวาคม, 29 ธันวาคม - 2 มกราคม 2568 |
|
INDIA877 : อินเดีย เนปาล พุทธคยา ราชคฤห์ กุสินารา ลุมพินี สาวัตถี ล่องเรือ สารนาท พารานสี (TG)
เที่ยวครบ 4 สังเวชนียสถาน พุทธคยา กุสินารา ลุมพินี สาวัตถี พาราณสี
ชม ล่องเรือแม่น้ำคงคา เที่ยวชม วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี
พักโรงแรม 4 ดาว - มีอาหารไทย - มีพระวิทยากร - บินการบินไทย
วันที่ 8 - 15 ธันวาคม, 28 ธันวาคม - 4 มกราคม, 9 - 16 กุมภาพันธ์ 2568
|
|
|
|
Pune636-6E : ถ้ำอชันตา ถ้ำเอลโลร่า เมืองออรังกาบัด ชมถ้ำพุทธศิลป์อินเดีย ขอพรพระพิฆเนศ เมืองปูเน่ (6E)
เที่ยว 2 ถ้ำพุทธศิลป์ ถ้ำอชันตา ถ้ำเอลโลร่า
ไหว้พระพิฆเนศ เมืองปูเน่
พักโรงแรม 4 ดาว - อาหารดี - บินตรงเมืองปูเน่
วันที่ 18 - 23 ธันวาคม, 15 20 มกราคม, 12 17 กุมภาพันธ์, 2 7 เมษายน 2568 : ราคา 34,995.-บาท |
|
Pune635-6E : ไหว้พระพิฆเนศ 9 วัด เมืองปูเน่ เมืองต้นกำเนิดพระพิฆเนศ (6E)
เที่ยว 2 ถ้ำพุทธศิลป์ ถ้ำอชันตา ถ้ำเอลโลร่า
ไหว้พระพิฆเนศ เมืองปูเน่
พักโรงแรม 4 ดาว - อาหารดี - บินตรงเมืองปูเน่
วันที่ 15 20 มกราคม, 12 17 กุมภาพันธ์, 2 7 เมษายน 2568 : ราคา 37,995.-บาท |
|
DEL864-AI : แคชเมียร์ ดอกทิวลิปบาน ทัชมาฮาล พระราชวังอัคราฟอร์ด ศรีนาคา พาฮาลแกม Aru Valley สวนชาลิมาร์ กุลมาร์ค โซนามาร์ค ล่องทะเลสาบดาล (AI)
เที่ยวชม ทัชมาฮาล 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ชม อัคราฟอร์ท Agra Fort พระราชวังเก่าแก่ของราชวงศ์โมกุล
เที่ยวครบ 4 สถานที่หลัก พาฮาลแกรม, กุลมาร์ค, โซนามาร์ค และ เมืองศรีนาคา
ชม เทศกาลดอกทิวลิปบาน ปีละครั้ง (เฉพาะเดือนเมษายน)
อาหารดี - โรงแรมดีระดับ 4-5 ดาว 6 คืน / เดินทางสะดวกสบายโดย Air India (Full-Service)
วันที่ 6 - 13 เม.ย., 12 - 19 เม.ย., 13 - 20 เมษายน 2568 : ราคา 56,995.-บาท |
|
DEL189-AI : แคชเมียร์ ดอกทิวลิปบาน ทัชมาฮาล พระราชวังอัคราฟอร์ด ชัยปุระ นครสีชมพู ศรีนาคา พาฮาลแกม Aru Valley สวนชาลิมาร์ กุลมาร์ค โซนามาร์ค ล่องทะเลสาบดาล (AI)
เที่ยวชม ทัชมาฮาล 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ชม อัคราฟอร์ท Agra Fort พระราชวังเก่าแก่ของราชวงศ์โมกุล
ชม เมืองชัยปุระ นครสีชมพู เมืองแห่งอารยธรรมราชบุตร
เที่ยวครบ 4 สถานที่หลัก พาฮาลแกรม, กุลมาร์ค, โซนามาร์ค และ เมืองศรีนาคา
ชม เทศกาลดอกทิวลิปบาน ปีละครั้ง (เฉพาะเดือนเมษายน)
วันที่ 6 - 15 เมษายน 2568 : ราคา 66,995.-บาท |
|
|
สอบถามทัวร์เพิ่มเติม
ID Line Office : @oceansmiletour
คุณเล็ก โทร.082-3656241 ID Line : lekocean2
คุณโจ้ โทร.093-6468915 ID Line : oceansmile
รับทำกรุ๊ปเหมา เที่ยวส่วนตัว ดูงาน
ประเทศจีน (ทุกเมือง) อินเดีย (ทุกเมือง)
เนปาล ภูฏาน บาหลี ศรีลังกา ลาว กัมพูชา เวียดนาม พม่า |
|
| |
|