เดินทาง ไปวันอาทิตย์-กลับวันจันทร์ ( กลับถึง กทม. 22.00 น.)
เดินทาง ไปวันศุกร์-กลับวันเสาร์ (กลับถึงกทม. 20.30 น.)

07.00 น.   บริการอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองปูนาคา (Punakha) ระยะทางประมาณ 75 กิโลเมตร แวะชม โดชูล่าพาส (DochuLa Pass) ที่ระดับความสูง 3,150 เมตร ให้ท่านชม สถูป 108 องค์ ที่ถูกโดยราชินีองค์ที่ 1 ในพระเจ้าจิกมี่ซิงเก วังชุก กษัตริย์องค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์วังชุก เพื่อเป็นการขอบคุณพระสวามีและบุตรชายในการชนะสงครามและเดินทางกลับมาอย่างปลอดภัย และสถานที่นี้ในวันที่อากาศแจ่มใสท่านสามารถมองเห็นวิวของเทือกเขาหิมาลัยที่งดงาม รวมถึง ยอดเขากังก้าพุนซุม (Gangkhar Phuensum) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก (ที่ยังไม่มีผู้ใดสามารถปีนขึ้นไปได้) ซึ่งสูงถึง 7,500 เมตร แวะชิมชากาแฟและขนมว่างท่ามกลางบรรยากาศแสนสวยสุดแสนโรแมนติค จากนั้นนำเดินทางสู่เมืองหลวงเก่า ปูนาคา (Punakha) ที่มีภูมิประเทศสูงจากระดับน้ำทะเล 1,300 เมตร และมีอากาศที่อบอุ่นกว่าเมืองทิมพู ด้วยเหตุนี้กษัตริย์ภูฏานและสมเด็จพระสังฆราชจะทรงเสด็จแปรพระราชฐานมาปูนาคาในฤดูหนาว
12.00 น.   บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่าเดินทางสู่ หมู่บ้านโลเบซ่า (Lobesa) ที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ได้ตกแต่งผนังอาคารบ้านเรือนด้วยรูปอวัยวะเพศชายตามความเชื่อเรื่องสิริมงคลแห่งการป้องกันสิ่งชั่วร้ายและพลังของการให้กำเนิดชีวิต เพลิดเพลินชมท้องทุ่งนากลางหุบเขา นำท่านชม วัดชิมิลาคัง (Chimi Lhakhang) วัดนี้ได้ถูกค้นพบในปี 1499 โดยพระงาหวัง ชอคเยล ชาวภูฏานนิยมมาไหว้ขอพรในเรื่องครอบครัว อาทิ ขอพรให้ประสบความสำเร็จในเรื่องความรัก ขอพรให้ลูกหรือมาให้พระตั้งชื่อให้ลูก จากนั้นนำท่านชม จุดชมวิวแม่น้ำโพและแม่น้ำโม แม่น้ำสองสายที่ไหลมาบรรจบกันและมีป้อมปูนาคาซองตั้งตระหง่านอยู่ระหว่างแม่น้ำสองสาย เป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมากๆ นำท่านเที่ยวชม ปูนาคาซอง (Punakha Dzong) ป้อมปราการประจำเมืองปูนาคา ซึ่งสร้างขึ้นในปี 1637 โดยฉับดรุง งาวังนัมเกล โดยตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำโพ(แม่น้ำพ่อ) และแม่น้ำโม(แม่น้ำแม่) ปัจจุบันเป็นพระราชวังฤดูหนาวของพระสังฆราช ป้อมปราการแห่งนี้ถูกภัยธรรมชาติทำลายหลายครั้ง คือมีไฟไหม้และน้ำท่วม แต่ได้รับการบูรณะอย่างต่อเนื่อง
19.00 น.   บริการอาหารเย็นที่โรงแรม หลังอาหารพักผ่อนตามอัธยาศัย (พัก Zhingkham resort )

07.00 น.   บริการอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารเดินทางสู่ เมืองนบกัง หมู่บ้านเก่าแก่สมัยศตวรรษที่ 18 เชื่อว่าสมเด็จพระสังฆราชรูปที่ 9 ของภูฏานเสด็จมานั่งสมาธิที่นี่ นำชม วิหารตาโล (Talo Monastry) เป็นวัดในศตวรรษที่ 18 อยู่บนเนินเขาสูง 2,800 เมตร จากนั้นเดินทางสู่ เมืองตองสา Trongsa แวะ เพเลล่า (Pelela Pass) ชมเทือกเขาหิมาลัยและยอดเขาจุมมาลฮารี (Jhomolhari) ที่สูง 7,314 เมตร ชม เจดีย์ Chendebji Chorten สร้างมานานหลายศตวรรษ เพื่อสยบปีศาจร้ายที่ก่อกวนความสงบในแถบนี้
12.00 น.   บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคารเมืองตองสา เมืองนี้เป็นต้นราชวงศ์วังชุก ซึ่งเป็นราชวงศ์ที่ปกครองประเทศภูฏานมาจนถึงปัจจุบัน ชม ตองสา ซอง (Trongsa Dzong) ซึ่งทอดตัวยาวไปตามไหล่เขาเป็นวังและป้อมที่ยาวที่สุดและสวยที่สุดของภูฏานภายในป้อมมีวัดมากกว่า 23 วัด สร้างในปี 1648 ตองสาซองเคยเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ในรัชการที่ 1 และ 2 และกษัตริย์ทุกพระองค์ของภูฏานต้องมารับการราชาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ ชม ต้าซอง (Ta Dzong) เป็นหอสังเกตการณ์ เพื่อป้องกันกบฏภายใน ปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์
19.00 น.   บริการอาหารเย็นที่โรงแรม หลังอาหารพักผ่อน (พัก Viewpoint Resort)

07.00 น.   บริการอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารออกเดินทางสู่ เมืองบุมทัง (Bumthang) ระยะทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง หุบเขาบุมทัง ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนาในภูฏาน ด้วยท่านคุรุริมโปเช ได้สร้างวัดจำนวนมากที่ในหุบเขาแห่งนี้ ผู้คนยังคงดำเนินชีวิตเหมือนอดีตโดยมีศรัทธาในพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ชม วัดจัมเบย์ (Jambay Lhakhang) วัดเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของภูฏาน อายุ1,400 ปี ซึ่งกษัตริย์ซงจ้านก้านปู้ โปรดให้สร้างวัดขึ้น 108 แห่ง เพื่อตอกหมุดสะกดอวัยวะ 108 จุดของยักษ์ จุดที่สร้างวัดจัมเบย์สร้างตรงเข่าซ้ายของยักษ์ จากนั้นชม วัดกูร์เจย์ (Kurjey Lhakhang) ว่ากันว่าสร้างเพื่อสยบปีศาจร้ายในแถบภูเขาหิมาลัย ชม วัดแทมชิง (Tamshing Monastery) เป็นสถานที่ศึกษาและโรงเรียนสอนธรรมะที่เก่าแก่ที่สุด
12.00 น.   บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านชม จาการ์ซอง (Jakar Dzong) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของหุบเขา Thangbi Valley ตั้งสูงเด่นอยู่บนเขาล้อมรอบด้วยป่าสน ซองนี้สร้างเป็นสำนักสงฆ์ในปี 1549 ปัจจุบันก็เหมือนซองทั่วไปที่มีทั้งที่ทำการรัฐบาลและส่วนของศาสนจักรตั้งอยู่ในซอง
19.00 น.   บริการอาหารเย็นที่โรงแรม หลังอาหารพักผ่อน (พัก Ugyenling Hotel)

07.00 น.   บริการอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารออกเดินทางสู่ เมืองผอบจิกะ (Phobjika) ระยะทางประมาณ 5.30 ชั่วโมง เมืองผอบจิกาเป็นที่ยอมรับว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดเมืองหนึ่งของภูฏาน เป็นเมืองในหุบเขาที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันงดงาม ที่นี่ยังเป็นบ้านของนกกระเรียนคอดำ (Black necked crane) ซึ่งอพยพหนีหนาวมาจากทางเหนือ ระหว่างทางท่านจะได้เห็นวิวทิวทัศน์อันงดงามของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นป่าสน ป่าดึกดำบรรพ์
12.00 น.   บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านชม ศูนย์ข้อมูลนกกระเรียนคอดำ (Cran Information Center) เนื่องจากว่าในช่วงปลายเดือนตุลาคม-มีนาคม นกกะเรียนคอดำจะอพยพหนีหนาวจากที่ราบสูงทิเบตมาที่นี่เป็นจำนวนมาก เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ของผู้สนใจการดูนกจึงมีการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลนกกระเรียนคอดำนี้ขึ้นมา ชม โรงงานทอพรมพื้นเมือง นำท่านชม วัดกังเต (Gangtey Gompa) วัดนี้เป็นวันนิกายนิงมาปาที่ใหญ่ที่สุดในภูฎาน ผู้ก่อตั้งอารามกังเต คือท่านเปมา ทรินเล หลานปู่ของท่านเปมา ลิงปะ พระอริยบุคคลผู้โด่งดังในนิกายญิงมาปะของภูฎาน
19.00 น.   บริการอาหารเย็นที่โรงแรม หลังอาหารพักผ่อน (พัก Dewachen Hotel)

07.00 น.   บริการอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารนำท่านชม วังดรี โพดราง ซอง (Wangdi Phodrang Dzong) ป้อมปราการที่ได้รับการบูรณะหลังจากเกิดไฟไหม้ใหญ่ที่โดดเด่นเป็นสง่าอยู่บนหน้าผาสูง ณ จุดบรรจบของลำน้ำปูนาซังชูและลำน้ำดัง
12.00 น.   บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านเดินทางกลับเมืองทิมพู แวะพักผ่อนอิริยาบท ดื่มชากาแฟ ชมวิวเทือกเขาหิมาลัย โดชูล่าพาส (DochuLa Pass) จากนั้นออกเดินทางไปชม ซิมโทกาซอง (Simtokha Dzong) ซึ่งเป็นซองที่เก่าแก่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศ สร้างขึ้นในสมัยรวมชาติ ใช้เป็นโรงเรียนสอนภาษา“ซองคา”ซึ่งเป็นภาษาประจำชาติ และใช้เป็นโรงเรียนสอนศาสนาสำหรับสามเณรลามะ ชมความเก่าแก่ของวัด สักการะพระพุทธรูปและพระโพธิสัตว์ภายในโบสถ์
19.00 น.   บริการอาหารเย็นที่โรงแรม หลังอาหารพักผ่อน (พัก Puntsho Pelri Hotel)

07.00 น.   บริการอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารให้ท่าน แต่งชุดประจำชาติภูฏาน คือ"ชุดโก" สำหรับผู้ชาย และ"ชุดคีร่า" สำหรับผู้หญิง ทางบริษัทได้จัดเตรียมชุดไว้สำหรับทุกท่าน ฟรี นำท่านชมวิวบนเนินเขา Kuenselphodrang เหนือตัวเมืองในจุดที่มีฮวงจุ้ยดีที่สุดในประเทศภูฏาน พร้อมนมัสการพระพุทธรูปหล่อสัมริดประทับนั่งกลางแจ้ง Big Buddha สูง 51.50 เมตร องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเกิดขึ้นมาจากการรวมพลังของชาวพุทธจากทั่วโลก โดยได้ต้นแบบมาจากพระพุทธรูปที่พุทธคยา
12.00 น.   บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร The Zone หลังอาหารนำท่านชม เมมโมเรียลโชเตน (Memorial Chorten) เป็นมหาสถูปที่สร้างขึ้นในปี 1974 ตามแนวพระราชดำริของพระเจ้าจิกมี ดอร์จิ วังชุก กษัตริย์องค์ที่ 3 แห่งราชวงค์วังชุก ซึ่งเสด็จสวรรคตในปี 1972 สร้างขึ้นเพื่อสันติสุขและความรุ่งเรืองของโลก ชม สถานอนุรักษ์สัตว์ประจำชาติของภูฏาน ที่เรียกว่า ทาคิน (Takin) ซึ่งปัจจุบันหาดูได้ยากมาก จากนั้นเดินทางกลับสู่ เมืองพาโร
19.00 น.   บริการอาหารเย็นที่โรงแรม หลังอาหารพักผ่อน (พัก Hotel Olathang)

07.00 น.   บริการอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารนำท่านเดินทางขึ้นสู่ วัดทักซัง (Taktshang Goemba) หรือ รังเสือ (Tiger Nest) ซึ่งตั้งอยู่บนหน้าผาสูง 900 เมตร วัดทักซังเป็นสถานที่แสวงบุญที่ชาวภูฏานเลื่อมใสศรัทธากันมากที่สุด นำท่านเดินขึ้นสู่ยอดเขาจากระดับน้ำ 2,300 เมตรสู่ยอดเขา 3,100 เมตร ใช้เวลาประมาณ 2.30 - 3 ชั่วโมง (สำหรับท่านสนใจขี่ม้าติดต่อกับไกด์ท้องถิ่นได้ครับ ไม่รวมในรายการทัวร์)
12.00 น.   บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคารบนยอดเขา Takshang cafe หลังอาหารนำท่านไปนมัสการพระพุทธรูปและรูปของคุรุรินโปเช่ ซึ่งชาวภูฏานถือว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ จากนั้นนำท่านมาเที่ยวในตัวเมืองพาโร ช้อปปิ้ง
19.00 น.   บริการอาหารเย็นที่โรงแรม หลังอาหารพักผ่อน (พัก Hotel Olathang)

วันที่เก้า : พิพิธภัณฑ์ภูฏาน - พาโรซอง - วัดคิชูลาคัง - สนามบินสุวรรณภูมิ

07.00 น.   บริการอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารนำท่านชม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (National Museum of Bhutan) ซึ่งในอดีตเคยเป็นหอสังเกตการณ์ หรือ ตาซอง (Ta Dzong) ให้แก่พาโร ริงปุง ซอง แต่ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี ค.ศ. 1968 มีทั้งหมด 6 ชั้น พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นที่เก็บรวมรวม ภาพพระบฏ อาวุธ เหรียญกษาปณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ไม้สอย สัตว์ป่าแถบเทือกเขาหิมาลัย ตลอดจน ดวงตราไปรษณีย์ที่สวยงามมากมายหลายรูปแบบ จากนั้นนำท่านชม พาโรริงปุงซอง (Paro Ringpung Dzong) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1646 โดยฉับดรุง งาวัง นัมเกล ถูกสร้างบนพื้นที่ ที่เด่นตระหง่านอยู่ในหุบเขาพาโร ทางเข้าตัวซองจะมีสะพานไม้ที่สวยงามพาดผ่านแม่น้ำเพื่อเข้าสู่ตัวซอง ปัจจุบันพาโรซองเป็นทั้งสถานที่สำหรับส่วนบริหารเมืองพาโรและส่วนที่เป็นวัด ซึ่งมีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ประมาณ 200 รูป และยังเป็นสถานที่หนึ่งที่เคยใช้ถ่ายทำภาพยนต์ เรื่อง The Little Buddha (การเข้าไปในป้อมหรือซองทุกแห่งจะต้องแต่งกายสุภาพเรียบร้อย ไม่เป็นชุดสั้น ไม่ใส่เสื้อยืดแขนสั้น ไม่กางร่ม และไม่สวมหมวก ส่วนชาวภูฏานทุกคนจะต้องสวมชุดประจำชาติ)
12.00 น.   บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคารบนยอดเขา หลังอาหารนำท่านเที่ยวชม คิชูลาคัง (Kyichu Lhakhang) หรือ วัดคิชู วัดเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของภูฏาน อายุ1,300 ปี สร้างในสมัยที่ภูฏานยังเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของทิเบต ซึ่งกษัตริย์ซงจ้านก้านปู้โปรดให้สร้างวัดขึ้น 108 แห่ง เพื่อตอกหมุดสะกดอวัยวะ108 จุดของยักษ์ตนหนึ่งซึ่งนอนแผ่ขวางกั้นการประกาศพระธรรมบนเทีอกเขาหิมาลัย โดยที่พระองค์ทรงมุ่งหมายที่จะให้สัจธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าเผยแผ่ไปทั่วดินแดนแห่งนี้ จุดที่สร้างวัดคิชูเป็นเท้าซ้ายของยักษ์ (อีกวัดหนึ่งในภูฏานอยู่ที่เมืองบุมทัง วัดจัมเบย์สร้างตรงเข่าซ้ายของยักษ์) ชมวิวกว้างไกลของเทือกเขาหิมาลัย มองเห็นยอดเขาจูโมฮารี ที่สูงที่สุดในภูฏาน 7,340เมตร (จูโมฮารีจะเห็นได้เมื่อฟ้าเปิดอากาศใส) จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินพาโร
16.20 น.   ออกเดินทางกลับกรุงเทพ โดยสายการบินดรุ๊กแอร์ (บนเครื่องมีบริการอาหาร)
22.00 น.   เดินทางกลับถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ