|
Premium Trip |
ทริปเดียวเที่ยวครบ 2 เมือง 2 วัฒนธรรม แคชเมียร์ เลห์ ลาดัก
อาหารดี - โรงแรมระดับ 4 ดาว บินสายการบินไทย (สะสมไมล์ได้) และบินภายใน 2 ไฟลท์
ไม่ลงร้านช้อปร้านยา มีเวลาเที่ยวเต็มที่ ไม่มีขาย Option เสริม ไม่เก็บเงินเพิ่มราคาทัวร์ |
คลิ๊ก รายละเอียดโปรแกรม |
คลิ๊ก ใบททท. 11/05028 |
รางวัลกินรีทอง |
รางวัลบริษัททัวร์มาตรฐาน |
วัดมาลายูรู เลห์ลาดัก |
วัดเฮมิส เมืองลาดักห์ |
วัดธิคเซย์ เมืองเลห์ ลาดัก |
เที่ยววัดธิคเซย์ เลห์ ลาดัก |
วัดเฮมิส เมืองลาดักห์ |
พระราชวังเลห์ เมืองเลห์ |
จุดชมวิวถนนที่สูงที่สุดในโลก |
กงล้อมนตรา เลห์ ลาดัก |
เส้นทางสู่เมืองคาร์กิล |
โซนามาร์ค แคชเมียร์ |
ภูเขาหิมะโซนามาร์ค |
หมู่บ้านพาฮาแกม แคชเมียร์ |
หน้าโรงแรมที่พาฮาแกม |
ล่องเรือทะเลสาบดาล |
สวนชาลิมาร์ แคชเมียร์ |
สวนนิชาท แคชเมียร |
|
โปรแกรมการเดินทาง |
วันเดินทาง |
ผู้ใหญ่ |
พักเดี่ยว เพิ่ม |
หมายเหตุ |
11 - 20 ตุลาคม 2567 |
69,995.- |
15,500.- |
กรุ๊ป 16 ท่าน |
ลูกค้าเก่า ลดท่านละ 400.-บาท / สอบถามเพิ่มเติมทางไลน์ @oceansmiletour - ติดต่อเร่งด่วน 093 6468915 (โจ้) |
เดือนกันยายน-ตุลาคม 2567 เป็นช่วงดูใบไม้เปลี่ยนสีระหว่างเส้นทาง อากาศเย็นสบาย |
สำหรับการให้การบริการต่างๆ ชาวอินเดียจะขอทิป ทริปนี้จะรวมค่าทิปต่างๆไว้ให้แล้ว
โปรแกรมนี้ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคหอบหืด โรคปอดและโรคหัวใจ เพราะต้องไปอยู่บนที่ราบสูง 3,500 - 4,000 เมตร
รถเดินทาง ใช้รถ TEMPO TRAVELLER เส้นทางส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูงและภูเขาเส้นทางคดเคี้ยว
|
|
Days |
โปรแกรมทัวร์ |
อาหาร |
Hotel |
1 |
สนามบินสุวรรณภูมิ เดลี กุตุบมีนาร์ RED FORT (TG 323 / 07.35-10.35) |
-/L/D |
เดลี 4 ดาว |
2 |
เดลี - เลห์ ลาดัก - Shanti Stupa ถนนเมนบาซาร์ (6E / 11.15-12.25) |
B/L/D |
เลห์ 4 ดาว |
3 |
เลห์ ลาดัก - Khardung La Pass ถนนที่สูงที่สุดในโลก - นูบร้าวัลเลย์ ขี่อูฐ |
B/L/D |
นูบร้าวัลเลย์ 4 ดาว |
4 |
หุบเขานูบร้า วัดดิสกิต - เลห์ วัดธิคเซย์ วัดเฮมิส |
B/L/D |
เลห์ 4 ดาว |
5 |
เมืองเลห์ - วัดอัลชิ - Sangam View Point วัดลามายูรู - วัดมุลเบก - คาร์กิล |
B/L/D |
คาร์กิล 4 ดาว |
6 |
คาร์กิล เส้นทางถนนโรแมนติก - โซนามาร์ค ศรีนาคา ล่องเรือทะเลสาบดาล |
B/L/D |
ศรีนาคา 4 ดาว |
7 |
ศรีนาคา - พาฮาลแกม Aru Valley |
B/L/D |
พาฮาลแกม 4 ดาว |
8 |
พาฮาลแกม Betaab Valley ศรีนาคา |
B/L/D |
ศรีนาคา 4 ดาว |
9 |
ศรีนาคา สวนชาลิมาร์ สวนนิชาท เดลี (6E / 14.40-16.10)
เดลี สนามบินสุวรรณภูมิ (TG 316 / 23.30-05.35) |
B/L/D |
บนเครื่อง |
10 |
สนามบินสุวรรณภูมิ (05.35) |
- |
|
|
วันแรก
: สนามบินสุวรรณภูมิ เดลี กุตุบมีนาร์ RED FORT |
05.00 น. พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 2 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเดินทางในการเดินทาง
07.35 น. ออกเดินทางสู่ เมืองเดลี โดยสายการบินไทย - TG 323
10.35 น. ถึง Indira Gandhi International Airport (DEL) ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองเดลี ที่ (เวลาอินเดียช้ากว่าไทย 1.30 ชม.)
12.00 น. บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (1) หลังอาหารนำท่านชม กุตุบมีนาร์ Qutub Minar (มรดกโลก) สัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงนิวเดลี New Delhi ได้รับสถานะมรดกโลกเมื่อ พ.ศ. 2536 เป็นหอสูงที่สร้างด้วยหินทรายแดงและหินอ่อนเป็นทรงเสาสูงปลายฐานกว้าง 14 เมตร ส่วนชั้นบนสุดยอดกว้าง 2.7 เมตร มีความสูง 72.5 เมตร หอสูงแห่งนี้สร้างขึ้นโดย ท่านกุตุบอุดดิน ไอบาค Qutubuddin Aibak ได้แรงบันดาลใจที่จะสร้างหอให้สูงกว่าหอสูงแห่งเมืองแยม (Minaret of Jam) ในอัฟกานิสถานซึ่งสูง 65 เมตร รอบๆ ผนังด้านนอกของหอมีการสลักลวดลายแบบอิสลามและถ้อยคำจากพระคัมภีร์กุรอาน จากนั้นนท่านชม พระราชวังป้อมแดง Red Fort (มรดกโลก ปิดทุกวันจันทร์) สร้างโดยจักรพรรดิ Shah Jahan ในปี ค.ศ. 1638 ออกแบบโดย Ustad Ahmad Lahori ผู้ออกแบบทัชมาฮาล สร้างกำแพงหินทรายสีแดงขนาดใหญ่ที่มีความสูง 33 เมตร อดีตเคยเป็นที่พักของจักรพรรดิโมกุล ป้อมแดงเป็นป้อมปราการประวัติศาสตร์ในเมืองเดลี (มรดกโลกที่รับรองโดยยูเนสโกปี 2007) 15 สิงหาคม พ.ศ. 2478 นายกรัฐมนตรีคนแรกของอินเดีย Jawaharlal Nehru ได้ชักธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาที่ป้อมเพื่อฉลองการประกาศอิสรภาพจากอังกฤษ
19.00 น. บริการอาหารค่ำที่โรงแรม (2) หลังอาหารพักผ่อน (พัก ITC Welcom Hotel หรือระดับ 4 ดาว) |
วันที่สอง
: เดลี เลห์ - Shanti Stupa - ถนนเมนบาซาร์ |
07.00
น. บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (3) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ สนามบินเดลี
11.15 น. ออกเดินทางสู่ เมืองเลห์ (Leh) โดยสายการบิน IndiGo -6E 2583 (หรือสายการบินภายในประเทศอินเดีย)
12.25 น. ถึง Kushok Bakula Rimpochee Airport (IXL) เมืองเลห์ อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 3,500 เมตร ตั้งอยู่ตอนเหนือของประเทศอินเดีย ซึ่งประกอบไปด้วย สองเมืองหลักๆที่นักท่องเที่ยวนิยม คือ Srinagar (ศรีนาการ์) และ Leh (เลห์) นำท่านบริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (4) หลังอาหารนำท่านเดินทางเข้าที่พัก พักผ่อนเพื่อปรับร่างกาย จากนั้นนำท่านชมบรรยากาศของเมืองเลห์จากมุมสูงกันที่ เจดีย์สันติภาพ Shanti Stupa เป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นโดยองค์กรพุทธศาสนิกชนญี่ปุ่น และนำท่านช้อปปิ้งที่ ถนนเมนบาซาร์
19.00 น. บริการอาหารเย็นที่โรงแรม (5) หลังอาหารพักผ่อนตามอัธยาศัย (พัก Hotel Tsokar Retreat หรือระดับ 4 ดาว)
|
วันที่สาม
: เลห์ ลาดัก - Khardung La Pass ถนนที่สูงที่สุดในโลก - นูบร้าวัลเลย์ ขี่อูฐ |
07.00 น. บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (6) หลังอาหารออกเดินทางสู่ หุบเขานูบร้าวัลเลย์ ระหว่างทางสัมผัสความยิ่งใหญ่ของเทือกเขาคาราโครัมและเทือกเขาหิมาลัยที่โอบล้อมเมืองลาดัก ชม เส้นทางรถยนต์ที่สูงที่สุดในโลก Khardung La Pass สูง 5,602 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล จากจุดนี้เราสามารถมองเห็นเทือกเขาคาราโครัมในประเทศปากีสถานได้
12.00 น. บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคารระหว่างทาง (7) หลังอาหารนำท่านเดินทางไปยัง หุบเขานูบราวัลเลย์หรือหุบเขาแห่งดอกไม้ ทางเหนือของเมืองเลย์ ชมดอกไม้นานาพันธุ์ เช่นดอกแอปเปิ้ล สวนแอปริคอต และนกนานาชนิด เส้นทางนี้เป็นเส้นทางลัดเลาะหุบเขา จากนั้นนำท่านสนุกสนานกับการ ขี่อูฐ ที่ทะเลทรายบนเทือกเขาหิมาลัย นูบร้าวัลเล่ย์ อยู่ความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณสองพันกว่าเมตร (รวมค่าขี่อูฐแล้ว)
19.00 น. บริการอาหารเย็นที่โรงแรม (8) หลังอาหารพักผ่อนกันตามสบาย (พัก Grand Nubra / Karmain Hotel) |
วันที่สี่ : หุบเขานูบร้า วัดดิสกิต - เลห์ วัดธิคเซย์ วัดเฮมิส |
07.00 น. บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (9) หลังอาหารนำท่านชม วัดดิสกิต ตั้งอยู่บนเนินเขาเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม วัดดิสกิต เป็นวัดที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในหุบเขานูบร้า ภายในประดิษฐานพระศรีอาริยเมตไตรยขนาดใหญ่
12.00 น. บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (10) หลังอาหารนำท่านเดินทางกลับเมืองเลห์ นำท่านเที่ยวชม วัดธิคเซย์ Thiksey Monastery วัดลามะนิกายหมวกเหลือง หรือ นิกายเกลุกปะ (Gelukpa) ซึ่งดาไลลามะองค์ปัจจุบันได้นับถือนิกายนี้เช่นกัน วัดธิคเซย์ (โปตาลาน้อยแห่งลาดักห์) ตั้งอยู่ห่างจากเมืองเลห์ไปทางทิศใต้ประมาณ 17 กิโลเมตร เป็นพระอารามใหญ่ประดิษฐานอยู่บนยอดเขา รูปทรงของวัดมีความคล้ายคลึงกับพระราชวังโปตาลา (Potala Palace) จนได้รับฉายาว่า Mini Potala จากนั้นนำท่านเที่ยวชม วัดเฮมิส (Hemis Gompa) วัดลามะนิกายหมวกแดง หรือ นิกายนิงห์มาปา ซึ่งเป็นนิกายดั้งเดิมของศาสนาพุทธสายทิเบต ท่านปัทมสัมภวะ (Padmasambhava) หรือที่ชาวทิเบตเรียกว่า คุรุรินโปเช (Kuru Rinpoche) ซึ่งเป็นภิกษุรูปแรกที่เดินทางจากอินเดีย เมื่อปี พ.ศ. 1350 ที่ได้นำศาสนาพุทธเข้ามาเผยแพร่ในทิเบตและเป็นผู้ให้กำเนิดนิกายหมวกแดง ซึ่งได้รับการยอมรับนับถือจากชาวทิเบตอย่างกว้างขวาง วัดเฮมิส ตั้งอยู่ห่างจากเมืองเลห์ประมาณ 45 กิโลเมตร เลาะเลียบแม่น้ำสินธุลงไปทางใต้ เป็นวัดโบราณที่สำคัญและใหญ่ที่สุดในดาลักห์ ถูกสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 17 โดยพระเจ้าเซงกี โดยกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของลาดักห์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ศาสนาพุทธในอินเดียล่ม
19.00 น. บริการอาหารเย็นที่โรงแรม (11) หลังอาหารพักผ่อนตามอัธยาศัย (พัก Hotel Tsokar Retreat หรือระดับ 4 ดาว) |
วันที่ห้า
: เมืองเลห์ - Sangam View Point วัดลามายูรู - วัดมุลเบก - คาร์กิล |
07.00 น. บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (12) หลังอาหารนำท่านชม หมู่บ้านอัลชิ (Alchi) เที่ยวชม วัดอัลชิ (Alchi Monastery) ซึ่งสร้างในปี ค.ศ. 1020-1035 เป็นวัดที่เก่าแก่วัดหนึ่ง ชมศิลปกรรมการแกะสลักไม้ทั้งภายในและภายนอกตึกอาคารเป็นช่างศิลป์จากแคชเมียร์และธิเบต มีภาพจิตรกรรมฝาผนังโบราณอันทรงคุณค่า แวะชม Sangam View Point จุดชมวิวแม่น้ำสองสี ของแม่น้ำสินธุและแม่น้ำซันสการ์มาบรรจบกัน จากนั้นเดินทางสู่ วัดลามายูรู (Lamayuru Gomba) เส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางที่มีทิวทัศน์สวยงามตลอดเส้นทาง ตลอดสองข้างทางและภูเขาหิมะที่มีรูปทางแปลกตาตลอดสองข้างทาง จัดเป็นเส้นทางที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุด
12.00 น. บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (13) หลังอาหารนำท่านเที่ยวชม วัดลามายูรู (Lamayuru Gomba) เป็นวัดในพระพุทธศาสนานิกายหมวกแดง ตั้งอยู่บนหุบเขาสูงระดับความสูง 3,390 เมตร จากที่วัดสามารถมองเห็นหุบเขาและหมู่บ้านลามายูรูได้อย่างชัดเจน วัดลามายูรูมีอีกชื่อหนึ่งว่า ยุงตรุง ทาปาลิง กอมปา (Yungdrung Tharpaling Gompa) ตามตำนานเล่าว่า เมื่อครั้งพระอรหันต์นิมากุง จาริกผ่านมาถึงที่นี่เมื่อหลายร้อยปีก่อน ซึ่งบริเวณนี้ยังเป็นทะเลสาบอยู่ ท่านพระอรหันต์นิมากุงได้ทำนายว่าจะมีวัด ณ สถานที่นี้ ท่านจึงได้ตั้งเสาธงมนตราไว้พร้อมกับแผ่กุศลทานด้วยการโปรยเมล็ดข้าวโพดแด่ดวงวิญญาณของนาคที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบ ต่อมาเมล็ดข้าวโพดกลับงอกงามขึ้นเป็นรูปเครื่องหมายสวัสติกะ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคาร์กิล เมืองที่อยู่ระหว่างทางเลห์ ลาดัก-แคชเมียร์ ชมเส้นทางเลียบหิมาลัย เส้นทางลัดเลาะตามหุบเขา ลำธาร ป่าสนเมืองหนาว แวะให้ท่านถ่ายรูปกับ Moon land ดินแดนโลกพระจันทร์ ที่แปลกตา และนำท่านชม วัดมุลเบก (Mulbekh Monastery) นำท่านนมัสการพระศรีอริยเมตตรัยที่เกะสลักกับหน้าผาองค์ใหญ่มาก ถึง เมืองคาร์กิล ให้ท่านได้เดินเล่นชมบรรยากาศยามเย็น ย่านตลาดสินค้าพื้นเมือง กันตามอัธยาศัย
19.00 น. บริการอาหารเย็นที่โรงแรม (14) หลังอาหารพักผ่อนตามสบาย (พัก The Kargil / Zojila Residency Hotel หรือระดับเดียวกัน) |
วันที่หก
: คาร์กิล เส้นทางถนนโรแมนติก - โซนามาร์ค ศรีนาคา ล่องเรือสิคารา |
07.00 น. บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (15) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ โซนามาร์ค แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามของกราเซียร์น้ำแข็ง เส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางที่มีทิวทัศน์สวยตลอดเส้นทาง สองข้างทางมีภูเขาหิมะที่มีรูปทางแปลกตา จัดเป็นเส้นทางที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดเส้นหนึ่ง ให้ท่านถ่ายรูปกับวิวทิวทัศน์ระหว่างทาง
12.00 น. บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (16) หลังอาหารให้ท่านได้ถ่ายรูปของวิวทิวทัศน์สวยๆของโซนามาร์ค จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองศรีนาคา (ระยะทาง 80 กม.) เมืองศรีนาคมตั้งอยู่ในหุบเขาแคชเมียร์ ที่ระดับความสูง 1,730 เมตร ได้เชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งทะเลสาบ สายน้ำ สวนดอกไม้และงานศิลปะ จากนั้นนำท่าน ล่องเรือสิคารา (เรือพายแบบแคชเมียร์) ชมบรรยากาศยามเย็นของทะเลสาบดาลและทัศนียภาพของเทือกเขาที่ล้อมรอบทะเลสาบดาล (ใช้เวลาในการล่องเรือ 1 ชม. นั่งลำละ 2 ท่าน)
19.00 น. บริการอาหารค่ำที่โรงแรม (17) หลังอาหารพักผ่อนกันตามสบาย (พัก Hotel Paisley Palace / Solar Residency Hotel หรือระดับ 4 ดาว) |
เที่ยวโซนามาร์ค
ช่วงหน้าหนาว ปลายเดือนมกราคม-มีนาคม โซนามาร์คปิดนะครับ เพราะถนนปกคลุมด้วยหิมะ
ช่วงใบไม้ผลิต เดือนเมษายน โซนามาร์คปกคลุมด้วยลานน้ำแข็ง รถสามารถเข้าได้ (ช่วงสวยที่สุด)
ช่วงใบไม้ผลิต เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน โซนามาร์ค น้ำแข็งเริ่มละลาย บนยอดเขายังมีหิมะปกคลุม
ช่วงฤดูร้อน เดือนกรกฎาคม-กันยายน โซนามาร์ค จะมีแต่ทุ่งหญ้าสีเขียว บนยอดเขายังมีหิมะปกคลุมอยู่เล็กน้อย
ช่วงใบไม้ร่วง เดือนตุลาคม-ปลายเดือนธันวาคม ทุ่งหญ้าที่โซนามาร์คเริ่มแห้ง อากาศหนาวครับ
|
วันที่เจ็ด
: ศรีนาคา - พาฮาลแกม Aru Valley |
07.00
น. บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (18) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เบตาบแวลลี่ (Betaab Valley) ซึ่งเดิมเรียกว่าหุบเขาฮาจัน หุบเขานี้ได้รับชื่อมาจากภาพยนตร์เบตาบ (1983) ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จเรื่องแรกในชีวิตของดีโอล-อมริตา ซิงห์ หุบเขานี้สวยงามด้วยภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ ลำธารและสนามหญ้าขนาดใหญ่ที่ได้รับการดูแลอย่างดี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของเมืองพาฮาลแกม (Pahalgam)
12.00 น. บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (19) หลังอาหารนำท่านออกเดินทางกลับเมืองศรีนาคา
19.00 น. บริการอาหารค่ำที่โรงแรม (20) หลังอาหารพักผ่อนกันตามสบาย (พัก Hotel Green Heights, Pahalgam หรือระดับ 4 ดาว)
|
วันที่แปด : พาฮาลแกม Betaab Valley ศรีนาคา |
07.00 น. บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (21) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองพาฮาลแกม หรือ เมืองหุบเขาแกะ ที่มีความสูง 2,130 เมตร (ระหว่างเส้นทางในช่วงเดือนเมษายนท่านจะได้สัมผัสกับทุ่งดอกมัสตาดสีเหลืองขนาดใหญ่ ทุ่งดอกทิวลิปป่าและวิวทิวทัศน์อันสวยงามระหว่างทาง) นำท่านชม อารูแวลลี่ (Aru Valley) เที่ยวชมหมู่บ้านเล็กๆกลางหุบเขาล้อมรอบไปด้วยภูเขาสูงและแม่น้ำ Lidder ที่ไหลผ่าน มีวิวทิวทัศน์สวยงามและอากาศหนาวเย็นตลอดปี ให้ท่านได้พักผ่อนถ่ายรูปกับวิวสวยๆในหมู่บ้าน อารูแวลลี่เป็นสถานที่นิยมมาถ่ายทำภาพยนต์ของอินเดีย
12.00 น. บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (22) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เบตาบแวลลี่ (Betaab Valley) ซึ่งเดิมเรียกว่าหุบเขาฮาจัน หุบเขานี้ได้รับชื่อมาจากภาพยนตร์เบตาบ (1983) ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จเรื่องแรกในชีวิตของดีโอล-อมริตา ซิงห์ หุบเขานี้สวยงามด้วยภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ ลำธารและสนามหญ้าขนาดใหญ่ที่ได้รับการดูแลอย่างดี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของเมืองพาฮาลแกม (Pahalgam) จากนั้นนำท่านออกเดินทางกลับเมืองศรีนาคา
19.00 น. บริการอาหารค่ำที่โรงแรม (23) หลังอาหารพักผ่อนกันตามสบาย (พัก Hotel Paisley Palace / Solar Residency Hotel หรือระดับ 4 ดาว)
|
เที่ยวพาฮาลแกม สวยตลอดปี
พาฮาลแกม มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ 2 หุบเขา คือ อารูแวลลี่ (Aru Valley) และ เบตาบแวลลี่ (Betaab Valley)
ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม วิวทิวทัศน์สวย บนยอดเขาปกคลุมด้วยหิมะ
ช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม วิวทิวทัศน์สวย ระหว่างทางมีทุ่งดอกมัสตาร์ดสีเหลือง
ช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน จะเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าสีเขียว อากาศเย็นสบาย
ช่วงใบไม้ร่วง เดือนกันยายน-ตุลาคม ทุ่งหญ้าเปลี่ยนสีออกเหลือง ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี อากาศเย็นสบาย
|
วันที่เก้า : ศรีนาคา สวนชาลิมาร์ สวนนิชาท เดลี สนามบินสุวรรณภูมิ |
07.00 น. บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (24) หลังอาหารนำท่านเดินทางไปชม สวนชาลิมาร์ (Shalimar Garden) เป็นสวนดอกไม้ที่สร้างขึ้นสมัยราชวงศ์โมกุล ก่อสร้างโดยจักรพรรดิซาฮังคีร์เพื่อพระมเหสีพระนางนูรชาฮาน และเมืองศรีนาคาเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการจัดสวนตามแบบสมัยของราชวงศ์โมกุล เนื่องจากภูมิอากาศเย็นสบายเหมาะสมในการเจริญเติบโตของต้นไม้ดอกไม้ จึงกลายเป็นที่ประทับพักผ่อนของกษัตริย์ราชวงศ์โมกุลในอดีต ชมต้นเมเปิลอายุกว่า 400 ปี ต้นปอปลาร์ และดอกไม้นานาชนิดตามฤดูกาล จากนั้นนำท่านชม สวนนิชาท (สวนแห่งความสุข) มีวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบที่งดงามริมทะเลสาบดาล จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินศรีนาคา
11.30 น. บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (25)
14.40 น. ออกเดินทางสู่ เมืองเดลี โดยสายการบิน IndiGo - 6E 2305 (หรือสายการบินภายในประเทศอินเดีย)
16.10 น. เดินทางถึง สนามบินเดลี นำท่านนำท่านช้อปปิ้งของฝากที่ ถนนคนเดิน มีร้านกาแฟ ร้านผลิตภัณฑ์แบรนด์หิมาลายา ร้านของฝากต่างๆมากมาย
19.00 น. บริการอาหารค่ำที่ภัตตาคาร (26) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ สนามบินเดลี
23.30 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย - TG 316
|
วันที่สิบ : สามบินสุวรรณภูมิ |
05.35 น. ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ |