โอเชี่ยนสไมล์
ทัวร์ ขอเสนอโปรแกรมนำเที่ยว เกาะเวนิส
(Venice) อันแสนโรแมนติกของประเทศอิตาลี เข้าชม ถ้ำโพสทอยน่า
(Postojna Caverns) ถ้ำที่สวยที่สุดในยุโรปอายุเก่าแก่กว่า
2 ล้านปี เยือน เมืองลุบเบลียน่า (Ljubljana)
เมืองหลวงของสโลวีเนีย นั่งเรือพายสู่เกาะกลางทะเลสาบสุดแสนโรแมนติกที่
เมืองเบลด (Bled) เที่ยว เมืองซาเกรบ
(Zagreb) เมืองหลวงของโครเอเชีย ชมความอลังการของธรรมชาติที่
อุทยานพลิตวิเซ่ (Plitvice National
Park) เที่ยว ซาดาร์ (Zadar) เมืองสปลิท (Split) สตอน
(Ston) เมืองชายทะเลที่งดงามด้วยธรรมชาติและสถาปัตยกรรม เดินเล่นที่
เมืองดูบลอฟนิก (Dubrovnik)
เมืองมรดกโลกที่ได้รับสมญานามว่าไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก
สัมผัสกลิ่นอายของ เมืองซาราเจโว (Sarajevo)
เมืองหลวงแห่งประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา (Bosnia
and Herzegovina) เมืองที่ถูกเลือกโดยนิตยสาร Lonely Planet
ให้ติดอยู่ในสิบอันดับแรกของเมืองท่องเที่ยว โดยทีมงานมัคคุเทศก์ที่ชำนาญงาน
ที่พักแบบมาตรฐานและบริการอาหารเลิศรสครับ |
หมายเหตุ
: สำหรับเพื่อนๆจองทริปทัวร์
ทางเราจะแจ้งเบอร์ไกด์ และการเตรียมตัวเดินทาง ก่อนเดินทาง
5 วันครับ |
|
โปรแกรมการเดินทาง |
วันที่ 10 - 18 สิงหาคม 2558
(ท่านละ 85,900.-บาท...เปิดจองแล้ว) |
วันที่ 22 - 30 สิงหาคม, 4 - 12 กันยายน 2558
(ท่านละ 85,900.-บาท...เปิดจองแล้ว) |
วันที่ 18 - 26 กันยายน, 26 กันยายน - 4 ตุลาคม 2558
(ท่านละ 85,900.-บาท...เปิดจองแล้ว) |
วันแรก
: สนามบินสุวรรณภูมิ |
20.30
น. |
คณะพร้อมกัน สนามบินสุวรรณภูมิ
อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 9 เคาน์เตอร์ U สายการบิน
เตอร์กิชแอร์ไลน์ มีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก |
23.30
น. |
ออกเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล
ประเทศตุรกี โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่
TK 69 (บนเครื่องมีบริการอาหาร 2 รอบ) |
วันที่สอง
: อิสตันบูล เวนิส อิตาลี ล่องเรือเกาะเวนิส จัตุรัสเซนต์มาร์โค
เมสเตร้ |
05.3
น. |
เดินทางถึง กรุงอิสตันบูล
ประเทศตุรกี เปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางต่อไป เมืองเวนิส
ประเทศอิตาลี |
08.10
น. |
ออกเดินทางต่อสู่ กรุงเวนิส
โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 1867 |
09.45
น. |
ถึง สนามบินเวนิส
ประเทศอิตาลี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง)
นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเมืองเวนิส จากนั้นนำเดินทางต่อสู่
ท่าเรือตรอนเคตโต้ (Tronchetto) นำท่าน
ล่องเรือผ่านชมบ้านเรือนของชาวเวนิส
สู่ เกาะเวนิส หรือ เวเนเซีย
(Venezia) ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร
โดยใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน มีสมญานามว่าเป็น "ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก"
มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า
400 แห่ง ขึ้นฝั่งที่บริเวณ ซานมาร์โค
ศูนย์กลางของเกาะเวนิส |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
(มื้อที่ 1) หลังอาหารนำท่านเดินชมความงามของเกาะเวนิส ชม
สะพานถอนหายใจ (Bridge of Sighs) ที่มีเรื่องราวน่าสนใจในอดีต
เมื่อนักโทษที่เดินออกจากห้องพิพากษาไปสู่คุกจะได้มีโอกาสเห็นแสงสว่างและโลกภายนอกเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเดินผ่านช่องหน้าต่างที่สะพานนี้
ซึ่งเชื่อมต่อกับวังดอดจ์ (Doges Palace) อันเป็นสถานที่พำนักของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต
ซึ่งนักโทษชื่อดังที่เคยเดินผ่านสะพานนี้มาเเล้วคือ คาสโนว่านั่นเอง
นำท่านถ่ายรูปบริเวณ จัตุรัสซานมาร์โค
(St.Marks Square) ที่นโปเลียนเคยกล่าวไว้ว่า เป็นห้องนั่งเล่นที่สวยที่สุดในยุโรป
จัตุรัสถูกล้อมรอบด้วยอาเขตอันงดงาม รวมทั้ง โบสถ์ซานมาร์โค
(St.Marks Bacilica) ที่มีโดมใหญ่ 5 โดม ตามแบบศิลปะไบแซนไทน์
จากนั้นอิสระให้ท่านได้มีเวลาเที่ยวชมเกาะอันแสนโรแมนติก เช่น
เพื่อชมมนต์เสน่ห์แห่งนครเวนิส, เข้าชมโบสถ์ซานมาร์โค, เลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกตามอัธยาศัย
อาทิเช่น เครื่องแก้วมูราโน่,หน้ากากเวนิส หรือนั่งจิบกาแฟในร้าน
จากนั้นนำท่านล่องเรือกลับขึ้นสู่ฝั่งเมสเตร้ |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำที่ภัตตาคาร
(มื้อที่ 2) หลังอาหารนำท่านเดินทางเข้าที่พัก พักผ่อนกันตามอัธยาศัย
(พัก VILLA BRAIDA หรือเทียบเท่า) |
วันที่สาม
: สโลวีเนีย ถ้ำโพสทอยน่า เมืองเบลด - เมืองลุบเบลียน่า |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
(มื้อที่ 3) หลังอาหารนำท่านเดินทางเข้าสู่ ประเทศสโลวีเนีย
(Slovenia) ท่านจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์ทุ่งหญ้าสลับภูเขา
บ้านเรือนแถบชานเมืองในระหว่างการเดินทางสู่ ถ้ำโพสทอยน่า
(Postojna Caverns) ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของ เมืองโพสทอยน่า
(Postojna) ที่เปิดให้บริการมากว่า 188 ปี นำท่านเข้าชมความงามของ
ถ้ำโพสทอยน่า ถ้ำที่สวยที่สุดในยุโรป
ซึ่งมีอายุเก่าแก่กว่า 2 ล้านปี เป็นถ้ำที่มีความยาวถึง 27
กิโลเมตร เข้าชมภายในถ้ำโดยขบวนรถรางไฟฟ้าของทางถ้ำ (ใช้เวลาประมาณ
15-20 นาที) ซึ่งได้เปิดให้บริการในปี 1884 อุณหภูมิภายในถ้ำโดยเฉลี่ย
8-10 องศาเซลเซียส ทำให้มีหินงอกหินย้อย นำท่านผ่านลำธาร เขื่อนเก็บน้ำใต้ดิน
ชมหินงอกหินย้อยหลากหลายแบบและสีสันสวยงามสุดพรรณนา ภายในถ้ำยังมีห้องต่างๆ
มากมาย ลดหลั่นเป็นชั้นๆ ท่านจะได้ชมความงามอันยิ่งใหญ่ภายในถ้ำแห่งนี้
ที่ธรรมชาติได้สรรสร้างมานานกว่าล้านปี จากนั้นนำท่านชมความแปลกของ
ปลามนุษย์ (Human fish) หรือ Olm สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในถ้ำ
ผิวสีเนื้อคล้ายมนุษย์ ลำตัวยาวคล้ายงู มีแขนและขา ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี
ค.ศ.1768 และอาศัยอยู่ในที่มืด |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
(มื้อที่ 4) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองเบลด
(Bled) เมืองแห่งโบสถ์กลางทะเลสาบสุดแสนโรแมนติกท่ามกลางหุบเขาจูเลียน
แอลป์ (Julian Alps) ทะเลสาบ เบลดเกิดจากการละลายตัวของธารน้ำแข็งจากภูเขาจูเลียนแอลป์
นำท่าน นั่งเรือสู่เกาะกลางทะเลสาบเบลด
ซึ่งเป็นที่ตั้งของโบสถ์พระแม่มารี (Assumption of Mary) ของเหล่านักแสวงบุญ
ตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ชม โบสถ์และหอคอยกลางทะเลสาบ
จากท่าเรือจะต้องเดินขึ้นบันไดไปอีก 99 ขั้น ซึ่งประเพณีท้องถิ่นคู่สมรสฝ่ายชายจะต้องอุ้มฝ่ายหญิงขึ้นบันได
99 ขั้นนี้ จากนั้นนำท่านสู่ เมืองลุบเบลียน่า
(Ljubljana) เมืองหลวงของประเทศสโลวีเนีย (Slovenia)
สัมผัสบรรยากาศเมืองหลวงที่ยังคงให้ท่านได้เห็นร่องรอยของสถาปัตยกรรมโบราณ
อิทธิพลของศิลปะสไตล์บาโรก |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำที่ภัตตาคาร
(มื้อที่ 5) หลังอาหารนำท่านเดินทางเข้าที่พัก พักผ่อนกันตามอัธยาศัย
(พัก PLAZA HOTEL หรือเทียบเท่า) |
วันที่สี่
: เมืองลุบเบลียน่า - โครเอเชีย เมืองซาเกร็บ อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
(มื้อที่ 6) หลังอาหารนำท่านชม เมืองลุบเบลียน่า
(Ljubljana) ชมสะพานมังกรที่ทอดข้ามแม่น้ำลุบเบลียยานิก้า
แวะถ่ายรูปกับสถานที่สำคัญต่างๆภายในเมืองเช่น ศาลาว่าการเมือง
มหาวิหารเซนต์ นิโคลัส ชม ปราสาทเมืองเก่า
(Old town castle) ซึ่งตั้งอยู่บนเนินสูง โดยนั่งรถรางขึ้นสู่เนินเขา
ซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองได้อย่างชัดเจน ปราสาทแห่งนี้สร้างในสมัยศตวรรษที่
11 ในศิลปะสไตล์บาโรกและได้ทำการบูรณะใหม่ในปี 1990 โดยได้บูรณะหอสูงในลักษณะสถาปัตยกรรมแบบโกธิค
ณ จุดนี้ท่านสามารถชมวิวทิวทัศน์โดยรอบของเมืองลุบเบลียน่าได้ในระยะไกล
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซาเกร็บ
(Zagreb) เมืองหลวงของโครเอเชีย ดินแดนแห่งทะเลเอเดรียติค
ซึ่งมีความเก่าแก่แฝงด้วยเสน่ห์และมนต์ขลัง ซาเกรบเป็นเมืองแห่งศิลปวัฒนธรรมและเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่
11 |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
(มื้อที่ 7) หลังอาหารนำท่านเข้าชม มหาวิหารเซนต์สตีเฟน
(St. Stephen Cathedral) ซึ่งมียอดแหลมทรงกลวยคู่บนยอดวิหารตกแต่งอย่างงดงาม
มหาวิหารนี้ก็ได้รับการบูรณะใหม่อีกหลายครั้ง จนกระทั่งรูปร่างมหาวิหารงดงามในรูปแบบนิโอ-โกธิค
นำท่านสู่ เขต Upper Town แวะถ่ายรูปกับ
วิหารเซนต์มาร์ก (St. Marks Church)
ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่าซาเกรบ สร้างขึ้นในราวศตวรรษที่
13 หลังคามุงด้วยกระเบื้องสีต่างๆ ซึ่งเป็นรูปตราสัญลักษณ์ของซาเกรบ
โครเอเชีย สโลวีเนีย และ ดัลมาเชีย ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นประเทศเดียวกัน
(อดีตยูโกสลาเวีย) นำท่านชม โบสถ์เซนต์แคทเธอรีน
(St. Catherine) โบสถ์แบบบาโรกสีขาวน่าประทับใจ นำท่านชมจุดชมวิวที่ท่านสามารถเห็นกรุงซาเกรบที่หลังคาอาคารเป็นสีแดงอิฐทั้งเมือง
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติพริตวิเซ่
(Plitvice National Park) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ
อุทยานนี้มีพื้นที่ประมาณ 295 ตารางกิโลเมตร มีทะเลสาบสีเธอร์คอยซ์ถึง
16 แห่งที่มีความงดงามแตกต่างกัน |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำที่ภัตตาคาร
(มื้อที่ 8) หลังอาหารนำท่านเดินทางเข้าที่พัก พักผ่อนกันตามสบาย
(พัก JEZERO HOTEL หรือเทียบเท่า โรงแรมที่พักตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติพริตวิเซ่) |
วันที่ห้า
: อุทยานพริตวิเซ่ เมืองซาดาร์ |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
(มื้อที่ 9) หลังอาหารนำท่านเข้าชมความงามของ อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่
(Plitvice National Park) นำท่านล่องเรือข้ามทะเลสาบ
Jezero Kozjak ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานแห่งนี้
อีกทั้งยังเป็นทะเลสาบที่เชื่อมระหว่างอุทยานตอนล่างขึ้นสู่ทะเลสาบชั้นบนของอุทยาน
เพลิดเพลินกับธรรมชาติอันงดงามและความอลังการของ Lower Lake
ที่ประกอบด้วยทะเลสาบ Milanovac, Gavanovac และ Kaluderovac
เป็นต้น เดินชมทะเลสาบต่างๆ ตามทางเดินสะพานไม้ที่เชื่อมแต่ละทะเลสาบเข้าด้วยกัน
ชม Veliki Slip ชมน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานมีความสูงถึง
70 เมตร |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
(มื้อที่ 10) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองซาดาร์
(Zadar) เมืองที่มีประวัติศาสตร์มากว่า 3,000 ปีและเป็นเมืองท่าสำคัญของทะเลเอเดรียติค
ที่มีบทบาทมาตั้งแต่สมัยโรมันจนถึงปัจจุบัน นำท่านถ่ายรูปกับโบสถ์สำคัญประจำเมือง
โบสถ์อนาสตาเชีย (The Cathedral of
St. Anastasia) เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่
5-6 ในยุคโรมาเนสก์ เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในแคว้นดัลมัลเชีย
นำท่านชมบริเวณด้านนอกโบสถ์เซนต์ โดแนท ซึ่งเป็นโบสถ์สำคัญประจำเมืองอีกแห่งหนี่ง
ชม โรมันฟอรัมหรือย่านชุมชนของโรมัน
เมื่อสองพันปีก่อนที่นักโบราณคดีได้ใช้ความอุตสาหะในการขุดค้นพบหลักฐานสำคัญต่างๆ
ทั้งที่อยู่อาศัยชาวโรมัน |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำที่ภัตตาคาร
(มื้อที่ 11) หลังอาหารนำท่านเดินทางเข้าที่พัก พักผ่อนกันตามอัธยาศัย
(พัก KOLOVARE HOTEL หรือเทียบเท่า) |
วันที่หก
: เมืองซาดาร์ - เมืองสปลิท เมืองสตอน ชิมหอยนางรม - เมืองดูบลอฟนิค |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
(มื้อที่ 12) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองสปลิท
(Split) เมืองใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเมืองซาเกรบ ซึ่งอยู่ในแคว้นดัลเมเชีย
อันเป็นต้นกำเนิดของสุนัขพันธุ์ดัลมาเชี่ยนที่โด่งดัง เที่ยวชมเมืองสปริท
ที่สร้างรายล้อมพระราชวังดิโอคลีเธี่ยน นำท่านชม
ย่านPeople Square ศูนย์กลางทางธุรกิจและการบริหาร
นำท่านเข้าชม พระราชวังดิโอคลีเธี่ยน
(Diocletian Palace) องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศให้เป็นมรดกโลกในปี
ค.ศ.1979 สร้างขึ้นจากพระประสงค์ของจักรพรรดิ์ดิโอคลีเธี่ยนแห่งโรมัน
ซึ่งต้องการสร้างพระราชวังสำหรับบั้นปลายชีวิตของพระองค์ ภายในพระราชวังประกอบด้วย
วิหารจูปิเตอร์ (Catacombes) สุสานใต้ดินที่มีชื่อเสียงและวิหารต่างๆ
นำท่านชมห้องโถงกลางซึ่งมีทางเดินที่เชื่อมต่อสู่ห้องอื่นๆ
ชมลาน Peristyle ซึ่งล้อมด้วยเสาหินแกรนิต 3 ด้านและเชื่อมต่อด้วยโค้งเสาที่ตกแต่งด้วยช่อดอกไม้สลักอย่างวิจิตรสวยงามชมยอดระฆังแห่งวิหาร
(The Cathedral Belfry) แท่นบูชาของเซนต์โดมินัสและเซนต์สตาดิอุส
ซึ่งอยู่ภายในวิหาร |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
(มื้อที่ 13) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองสตอน
(Ston) เมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารทะเลรสเลิศ
เนื่องจากภายในเมืองนั้นมีฟาร์มเลี้ยงหอยนางรมที่มีชื่อเสียง
โดยท่านจะได้ชิมหอยนางรมสดๆจากฟาร์ม ซึ่งเมืองสตอนเป็นเมืองที่เปรียบเสมือนตัวแทนของประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมยุคกลางคือกำแพงเมืองโบราณ
ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อล้อมรอบเมือง โดยกำแพงโบราณแห่งนี้ใช้เวลาในการก่อสร้างกำแพงนี้ประมาณ
200 ปี มีความยาวมากกว่า 5.5 กิโลเมตร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่
เมืองดูบรอฟนิค (Dubrovnik) โดยเดินทางเรียบชายฝั่งทะเลเอเดรียติก
ผ่านบรรยากาศริมชายฝั่งทะเลที่มีบ้านเรือนหลังคากระเบื้องสีแสดสลับตามแนวชายฝั่ง
โดยเมืองดูบรอฟนิคได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองเก่าที่สวยที่สุดในยุโรป
สมญานาม "ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก"
เป็นเมืองที่มีอำนาจทางทะเลตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 และมีความเจริญรุ่งเรืองทางการค้า
จึงได้สร้างความยิ่งใหญ่ให้โดดเด่น ด้วยการตกแต่งพระราชวัง
สร้างโบสถ์ วิหาร จัตุรัส น้ำพุ และบ้านเรือนต่างๆ และได้รับการบูรณะและปรับเปลี่ยนอย่างงดงามตามยุคสมัย |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำที่ภัตตาคาร
(มื้อที่ 14) หลังอาหารนำท่านเดินทางเข้าที่พัก พักผ่อนกันตามอัธยาศัย
(พัก ARISTON HOTEL หรือเทียบเท่า) |
วันที่เจ็ด
: เมืองดูบลอฟนิค เมืองโมสตาร์ ประเทศบอสเนีย |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
(มื้อที่ 15) หลังอาหารนำท่านชมเสน่ห์ของ เขตเมืองเก่า
(Old Town) ของเมืองดูบลอฟนิค ซึ่งองค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี
ค.ศ. 1979 ชมทัศนียภาพของตัวเมืองเก่ามีป้อมปราการโบราณความยาว
190 เมตรล้อมรอบ นำท่านเดินลอดประตู Pile Gate ที่มีรูปปั้นของนักบุญ
เซนต์เบลส นักบุญประจำเมืองเพื่อเข้าสู่ใจกลางเมืองเก่า ชม
น้ำพุ Onofrio ซึ่งเป็นตั้งเป็นเกียรติแก่ของสถาปนิกผู้สร้างน้ำพุแห่งนี้
นำท่านเข้าชม The Cathedral Treasury
หนึ่งในโบสถ์เก่าแก่ที่สะสมโบราณวัตถุของพ่อค้าวาณิชที่ได้ทำการค้าขายกับชาวเวนิชในอดีต
นำท่านถ่ายรูปกับ หอนาฬิกาโบราณ (Bell Tower Clock) จากนั้นนำท่านเข้าชม
พระราชวังเรคเตอร์ (Rector's Palace)
พระราชวังที่สร้างขึ้นโดยผสมผสานศิลปะทั้งแบบโกธิค,
เรเนซองส์และบาโร๊ค ได้เวลานำท่านแวะชมและถ่ายรูปกับ
สปอนซา พาเลส (Sponza Palace) สร้างขึ้นโดยศิลปะแบบโกธิค
เรเนซองส์ ในสมัยศตวรรษที่ 15 ปัจจุบันได้ใช้เป็นที่จัดเก็บเอกสารและสำนักงานส่วนราชการ
นำท่านเดินผ่านถนนสตราดัน ถนนสายหลักยาวกว่า 398 เมตร ที่สองข้างทางรายล้อมไปด้วยอาคารสไตล์โรมัน
โกธิค และร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านไอศครีม ร้านขายของที่ระลึกต่างๆ
มากมาย อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
(มื้อที่ 16) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ ประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
(Bosnia and Herzegovina) เพื่อนำท่านเดินทางสู่ เมืองโมสตาร์
(Mostar) เมืองมรดกโลกที่แสนงดงามและมากด้วยมนต์เสน่ห์
เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างหุบเขาของเฮเซโกวีน่า มีแม่น้ำเนเรตว่า
(Neretva) ไหลผ่านใจกลางเมืองและยังเป็นเมืองที่มีแสงแดดมากที่สุดในยุโรป
นําท่านชม สะพานโบราณ (Old Bridge)
หรือ สตารี มอสต์ (Stari Most) ที่โดดเด่นและเป็นสัญลักษณ์ของเมือง
ชมย่านเมืองเก่า ชมเหล่าอาคารบ้านเรือนซึ่งส่วนใหญ่ล้วนสร้างขึ้นในแบบสถาปัตยกรรมแบบพรี-ออตโตมัน
ออตโตมันตะวันออก เมดิเตอร์เรเนียนและยุโรปตะวันตก |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำที่ภัตตาคาร
(มื้อที่ 17) หลังอาหารนำท่านเดินทางเข้าที่พัก พักผ่อนกันตามอัธยาศัย
(พัก BRISTOL HOTEL หรือเทียบเท่า) |
วันที่แปด
: เมืองโมสตาร์ เมืองซาราเจโว - อุโมงค์หนีภัย - สนามบิน
อิสตันบูล |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
(มื้อที่ 18) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองซาราเจโว
(Sarajevo) เมืองหลวงแห่งประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
(Bosnia and Herzegovina) เมืองที่มีเรื่องราวความเป็นมาและประวัติศาสตร์อย่างมากมาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงสงครามยูโกสลาเวีย แต่ในปัจจุบันเมืองแห่งนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองที่มีความปลอดภัยมากที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป
ซึ่งในปี 2011 2012 เมืองซาราเจโวถูกเลือกโดยนิตยสาร Lonely
Planet ให้ติดอยู่ในสิบอันดับแรกของเมืองที่ท่านต้องเดินทางมาท่องเที่ยว
และนอกจากนี้ในปี 2014 กรุงซาราเจโวเป็นเมืองเดียวที่อยู่นอกสหภาพยุโรปที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงในการที่จะได้เป็น
European Capital of culture in 2014 |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
(มื้อที่ 19) หลังอาหารนำท่านชม ย่านเมืองเก่าซาราเยโว
(Stari Grad) ย่านที่มีสถาปัตยกรรมหลากหลายสไตล์ นำท่านเข้าชมความงดงาม
The Sacred Heart Cathedral เป็นมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวินา
เป็นที่ประจำตำแหน่งของพระราชาคณะของเมือง นำท่านชม สะพานลาติน
(Latin Bridge) ซึ่งเป็นจุดที่อาร์ค ดยุค ฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์
(Franz Ferdinand) รัชทายาท แห่งราชวงศ์ออสเตรียถูกลอบปลงพระชนม์
โดยชาวซาราเยโวนายหนึ่ง จนกลายเป็นชนวนเหตุในการเกิดสงครามโลกครั้งที่
1 ชม อุโมงค์หนีภัย (Sarajevo Tunnel)
อุโมงค์ที่สร้างขึ้นในช่วงเกิดสงครามบอสเนีย สร้างโดยประชาชนชาวซาราเยโวเพื่อปกป้องและตัดขาดจากกองกำลังเซอร์เบีย
และสามารถนำอาหาร ข้าวของ และความช่วยเหลือจากนานาชาติโดยผ่านทางอุโมงค์นี้ |
16.30
น. |
นำคณะเดินทางสู่ สนามบินซาราเจโว
เพื่อทำการเช็คอินสัมภาระ |
20.35
น. |
ออกเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล
โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 1026 |
23.30
น. |
เดินทางถึง สนามบินอตาร์เติร์ก
กรุงอิสตันบูล เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง |
วันที่เก้า
:
สนามบินสุวรรณภูมิ |
00.40
น. |
ออกเดินทางสู่ กรุงเทพ
โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 068 |
14.15
น. |
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ
โดยสวัสดิภาพทุกท่าน |