ปราสาทตาพรหมเกล ปีที่สร้าง : สร้างในปี ต้นพุทธศตวรรษที่ 18 รัชสมัย : รัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ศิลปะ : เป็นศิลปะแบบบายน ศาสนา : ศาสนาพุทธนิกายมหายาน ปราสาทตาพรหมเกล ตั้งอยู่ตรงข้ามกับมหาปราสาทนครวัด เป็นปราสาทปรางค์เดียวสร้างด้วยหินทราย สูงประมาณ 12 เมตร เป็นอโรคยศาลาหรือศาลาแห่งความไร้โรคหรือโรงพยาบาลในสมัยโบราณ เป็นหนึ่งในจำนวนอโรคยศาลาทั้ง 102 แห่ง ที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทรงเล็งเห็นความทุกข์ยากของประชาชนที่มีความเจ็บป่วย ดังที่เคยตรัสไว้ว่าความเจ็บป่วยของประชาชนก็เหมือนความเจ็บป่วยของพระองค์ การเยี่ยมชมปราสาทตาพรหมเกลจึงได้เห็นถึงความเป็นโรงพยาบาลชุมชนของขอมโบราณ
ปราสาทปักษีจำกรง ปีที่สร้าง : สร้างในปลายพุทธศตวรรษที่ 15 (พ.ศ. 1471) รัชสมัย : รัชสมัยของพระเจ้าหรรษวรมันที่ 1 และบูรณะในรัชสมัยของพระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 2 ศิลปะ : เป็นศิลปะแบบบาแคงและเกาะแกร์ ศาสนา : ศาสนาฮินดู ไศวนิกาย ปราสาทปักษีจำกรง มีรูปทรงปิรามิด ความเป็นมามีนิทานพื้นบ้านเล่าขานเรื่องของพญานกได้นำเอาโอรสของพระราชา ซึ่งตกอยู่ในอันตรายระหว่างการแย่งชิงราชสมบัติมาเลี้ยงจนเติมใหญ่จึงกลับมาชิงราชบัลลังก์คืนได้ในภายหลัง และเมื่อปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์จึงได้ทรงสร้างปราสาทนี้เป็นการทดแทนบุญคุณของพญานก ส่วนศิลาจารึกในปราสาทจารึกว่าสร้างในสมัยพระเจ้าหรรษวรมันที่ 1 และมีการบูรณะในรัชสมัยของพระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 2 เมื่อพระองค์เสด็จมาจากเมืองเกาะแกร์ มาสร้างและบูรณะเมืองพระนครขึ้นเป็นราชธานี ตัวปราสาทปักษีจำกรงมีฐานเป็นศิลาแลงสี่เหลี่ยมย่อมุม ศิลาแลงมีลักษณะดีไม่มีรูพรุน สูงจากพื้น 27 เมตร มีฐาน 4 ชั้น ชั้นแรกสูง 15 เมตร มีบันไดทางขึ้นปราสาททั้ง 4 ทิศ บันไดค่อนข้างสูงชัน ตัวปรางค์ประธานมีทางขึ้นทางเดียวคือทิศตะวันออก อีก 3 ประตู 3 ทิศนั้นเป็นประตูหลอก เสาประดับกรอบประตูและทับหลังทั้งสี่ด้าน ทำให้หินทราย สลักภาพลวดลายสวยงาม ลวดลายที่กรอบประตูและทับหลัง เป็นเทพนมบนกลีบดอกบัว ทับหลังสลักรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ บริเวณผนังปราสาทสลักเป็นรูปนางอัปสร และที่กรอบประตูด้านข้างมีอักษรภาษาสันสกฤตจารึกเรื่องราวประวัติการสร้างปราสาท
ปราสาทเบย ปีที่สร้าง : สร้างในปีพุทธศตวรรษที่ 15 รัชสมัย : รัชสมัยของพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 ศิลปะ : เป็นศิลปะแบบบาแค็ง ศาสนา : ศานาฮินดู ไศวนิกาย ปราสาทเบย เบย มีความหมายว่า 3 ปราสาทเบยหมายถึงปราสาท 3 หลัง สร้างขึ้นจากอิฐโดยการนำเรียงกัน อยู่ในแนวเหนือ-ใต้ บนฐานมีขนาดกว้าง 10 เมตร ยาว 24 เมตร สันนิษฐานว่าปราสาทเบยนี้สร้างไม่เสร็จ จนกระทั่งได้รับการบูรณะจากฝรั่งเศสในปี พ.ศ. 1960 ภายในปรางค์ประธานมีแท่นศิวลึงค์ตั้งอยู่ ที่ทับหลังของปรางค์ประธานมีภาพสลักพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ การก่อสร้างปราสาทในสมัยก่อนยุคบายน คือสมัยบาปวน คลังบันทายสรี และนครวัด นิยมใช้อิฐมาสร้างเป็นปราสาท นักโบราณคดียังไม่เข้าใจว่าการสร้างปราสาทด้วยอิฐนั้นมีการใช้อิฐที่เผาแล้วมาเรียงก่อรูปขึ้น หรือใช้อิฐที่ยังไม่เผามาเรียงเมื่อก่อรูปทรงปราสาทแล้วจึงเผา แต่ส่วนใหญ่เชื่อว่าใช้อิฐที่เผาแล้วมาเรียงกันและใช้กาวยางจากส่วนผสมของวัสดุธรรมชาติหลายชนิด เช่นน้ำผึ้ง น้ำตาลโตนด จอมปลวก ฯลฯ มาเชื่อมต่อกัน ซึ่งอาจเป็นได้ เพราะหากนำอิฐที่ยังไม่เผามาก่อสร้างอาจทำให้ปราสาทยุบตัว หรือทำให้ปราสาทเอียงได้ ปราสาทนี้ไม่ค่อยเป็นที่สนใจเที่ยวชม เพราะเป็นปราสาทเล็กๆ อยู่ริมถนนทางผ่านเข้าไปยังประตูเมืองพระนคทิศใต้ก่อนถึงปราสาทบายน
ISB104-TG : ปากีสถานเหนือ - ซินเจียงใต้ คาราโครัมไฮเวย์ เส้นทางสายไหมโบราณ อิสลามาบัด ตักศิลา สการ์ดู กิวกิต ฮุนซ่า คัชการ์ ทะเลสาบไป๋ซาหู ถนนผานหลง ซีอาน วันเดินทาง 10 - 19 ตุลาคม 2568 เที่ยว 2 ประเทศ ปากีสถานเหนือ สการ์ดู กิวกิต ฮุนซ่า ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี เที่ยว ซินเจียงใต้ เมืองคัชการ์ ทะเลสาบไป๋ซาหู เมืองทัชเท่อร์กาน ด่านคุนจีราพ
Hotline 0-936468915, 0-823656241 ใบอนุญาตเลขที่ 11/05028