หวุงเต่า
เมืองชายทะเลอันแสนสงบ
ที่ตั้ง
อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ห่างจากโฮจิมินห์
125 กิโลเมตร
การเดินทาง
มีรถโดยสารจากโฮจิมินห์ซิตี้ออกเดินทางทุกวัน สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
สถานีตรงข้ามตลาดบินถั่น (Ben Thanh Market)
ในศตวรรษที่
15 ซึ่งเป็นช่วงที่เรือของพ่อค้าชาวโปรตุเกสได้มาทอดสมออยู่ในอ่าวหวุงเต่า
นอกจากนี้สมัยที่อยู่ใต้อำนาจของฝรั่งเศสอ่าวนี้มีชื่อว่า
อ่างแซงต์จ๊าคส์ (Cap Saint Jacques) เป็นที่พักตากอากาศชายทะเลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
เมืองท่าชายฝั่งและศูนย์กลางทางเศรษฐกิจแห่งนี้เป็นเขตอุตสาหกรรมก๊าชธรรมชาติและน้ำมันที่กำลังเติมโตของเวียดนาม
หาดถุ่ยวัน
(Thuy Van) เป็นหาดที่มีความงดงามและมีความยาวถึง
7 กิโลเมตร ไปตามชายฝั่งทะเลตะวันออก ถุ่ยวัน ได้รับความนิยมมากในหมู่ชาวพื้นเมืองและมีคนค่อนข้างหนาแน่นในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
ถัดจากหาดทรายเข้าไปมีวัดและเจดีย์ในพุทธศาสนาอยู่กว่า 100
แห่ง ที่ที่ไม่ควรพลาดเลยคือ ลางกาอง (Lang Ca Ong) หรือวัดปลาวาฬ
บนถนนฮวางฮวาทาม (Hoang Hoa Tham Avenue) วัดนี้สร้างในปี
พ.ศ. 2454 เพื่ออุทิศให้กับลัทธิปลาวาฬ กลุ่มคนที่มาสถานที่นี้มากที่สุดคือชาวประมงซึ่งนับถือปลาวาฬในฐานนะที่เป็นผู้ช่วยชีวิตจากอันตรายในทะเลลึก
โครงกระดูกปราวาฬที่ขึ้นมาเกยหาดแถบนี้ถูกเก็บไว้ในหีบใบใหญ่
บางโครงมีความยาวถึง 4 เมตร และบางโครงมาอายุตั้งแต่ปี พ.ศ.
2411
ชาวเวียดนามรับเอาลัทธิปลาวาฬมาจากคนที่อยู่ในอาณาจักรจามปา
ผู้ซึ่งบูชาเทพเจ้าปลาวาฬ ทุกๆ ปีในวันที่ 16 ของเดือน 8 ตามจันทรคติ
ชาวประมงจำมาชุมนุมกันที่วัดนี้เพื่อเซ่นสังเวยปลาวาฬ มีเกร็ดย่อยๆ
นับพันเรื่องในนิทานพื้นบ้านของชาวเวียดนามที่เกี่ยวกับปลาวาฬ
วิลล่าบลองเช่
(Villa Blanche หรือ วิลล่าขาว)
ตั้งอยู่
ในบริเวณอันงดงามบนไหล่เขานุยเลิน สำหรับพบ้านพักตากอากาศแห่งนี้มีลักษณะโดดเด่นมาก
ตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ ที่สามารถมองเห็นเมืองได้เป็นอย่างดี
และเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์อันตระการตาหรือหวุงเต่าอีกด้วย วิลล่านี้สร้างโดยผู้ปกครองชาวฝรั่งเศส
ซึ่งมักจะเรียกกันว่าผู้สำเร็จราชการ พระเจ้าแถงห์ไท (Thanh
Thai) เคยประทับอยู่ที่นี่ระหว่างปี พ.ศ. 2450 2459 จนกระทั่งพระองค์ถูกเนรเทศออกไปพร้อมกับพระเจ้ายวุยเติน
(Duy Tan) โอรสของพระองค์ไปประทับอยู่บนเกาะรียูเนี่ยน (Reunion
Island) ต่อมาวิลล่าแห่งนี้ได้กลายเป็นที่พักริมฝั่งทะเลของประธานาธิบดีเวียตนามใต้
2 คน คือ เยียม และเทียว
ถนนเลียบชายฝั่งทะเลทางตะวันตกเฉียงใต้ของคาบสมุทร ที่เดิมเรียกกันว่ารูทเดอลาปะติทคอร์นิช
(Route de la Petite Corniche) จะทอดตัวคดเคี้ยวไปตามความสูงต่ำของภูเขานุยเลิน
ถัดไปคุณจะพบรูปปั้นพระเยซูสูง 30 เมตร ยืนทอดพระเนตรไปทางมหาสมุทรแปซิฟิก
ตรงจุดใต้สุดของคาบสมุทรรูปหั้นนี้สร้างขึ้นโดยชาวอเมริกันใน
ปี พ.ศ. 2514
สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง
ตามหลักฐานทางวิชาการกล่าวว่าดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงในสมัยโบราณเคยเป็นอาณาเขตของกัมพูชา
มีภูมิประเทศเป็นหนองบึง และป่าไม้ ก่อนที่ชาวอาณานิคมพวกแรกที่เข้ามาทางทะเลจะมาถึงในศตวรรษที่
16 ในสมัยที่อยู่ใต้การปกครองของขุนพลตระกูลเหวียนนั้น ได้มีการปรับปรุงสภาพหนองบึงผืนใหญ่
และสร้างเครือข่ายลำคลองเล็กๆ มากมาย จนปลายศาตวรรษที่ 18
ได้มีการขุดคลองใหญ่ขึ้น 2 สาย คือ คลองไทฮวา (Thai Hoa) ซึ่งเชื่อมเมืองร้ากยา
(Rach Gia) กับเมืองลองเสวียน (Long Xuyen) และคลองวิงห์เต
(Vinh Te) ซึ่งเชื่อมเมืองเจาด๊ก (Chau Doc)
ล่องเรือสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง
ที่ตั้ง
:
อยู่บริเวณปากแม่น้ำโขงทางทิศใต้ของโฮจิมินห์ซิตี้
นักท่องเที่ยวควรเลือกซื้อแพ็คเก็จแบบวันเดย์ทัวร์จะสะดวกกว่า
การล่องเรือท่องเที่ยวบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง แนะนำให้ไปเที่ยวจังหวัดเตียงยาง
(Tien Giang) ซึ่งเป็นเขตปลูกข้าวที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ
หมี่โถ
(My Tho) เมืองเอกของจังหวัดซึ่งมีประชากรราว 90,000 คน ตั้งอยู่บนฝั่งซ้ายของแม่น้ำมีโอ
อันเป็นสาขาเหนือสุดของแม่น้ำโขง เมืองนี้ตั้งขึ้นช่วงทศวรรษที่
1680 โดยผู้ลี้ภัยทางการเมืองจากไต้หวันและโฮจิมินห์ซิตี้
สามารถเดินทางมาเมืองนี้ได้อย่างสะดวกสบายโดยรถประจำทางใช้เวลาประมาณ
1 ชั่วโมงครึ่ง หรือโดยทางเรือซึ่งจะกินเวลาประมาณ 6 ชั่วโมง
ลงเรือที่ท่าเรือของเมืองหมี่โถ เพื่อจะเดินทางไปท่องเที่ยวชมความหลากหลายของชีวภาพของเกาะต่างๆ
ที่อยู่กลางแม่น้ำโขง คนท้องถิ่นเรียกว่า แม่น้ำเตียน ซึ่งจะมีไกด์บรรยายทันทีเมื่อเรือออกจากฝั่งแล่นผ่านเกาะต่างๆ
ในแม่น้ำ โดยบรรยายถึงประวัติความเป็นมาของแต่ละเกาะ วัฒนธรรม
ประเพณี อาชีพ การดำรงชีวิต ความเป็นอยู่ของชาวบ้านบนเกาะ
จากฝั่งเมืองหมี่โถประมาณ
30 นาที จะถึงเกาะยูนิครอน เป็นเกาะขนาดใหญ่กลางแม่น้ำโขง
มีความกว้างประมาณ 1 กิโลเมตร และมีความยาวประมาณ 11 กิโลเมตร
มีผู้คนอาศัยอยู่ อาชีพหลักของคนบนเกาะนี้คือการเกษตรปลุกผลไม้ต่างๆ
เช่น ลำไย กล้วยไข่ ละมุด เงาะ มะละกอ สัปปะรด มะพร้าว มีจุดสาธิต
แสดงผลผลิตและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของชาวบ้าน มีผลิตภัณฑ์ลูกอมกะทิและผลไม้อบแห้งต่างๆ
และหัตถกรรมพื้นบ้าน ที่ทำจากต้นมะพร้าวอายุกว่า 100 ปี มีการบริการน้ำส้มคั้นผสมน้ำผึ้ง
และเหล้าดองสมุนไพรให้บริการนักท่องเที่ยวพร้อมฟังดนตรีบรรเลงพื้นเมืองด้วย |