(พักโรงแรมเฉินตู
1 คืน, ทิเบต 3 คืน และ รถไฟ 1 คืน) |
ทิเบต..ดินแดนสวรรค์บนฟ้าที่เรียกขานกันว่า
หลังคาโลก ดินแดนแห่งกงล้อมนตราอันศักดิ์สิทธิ์
สัมผัสบรรยากาศการนั่งรถไฟท่องเที่ยวบนเส้นทางที่สูงที่สุดในโลก
ชมเทือกเขาคุนล้นและดินแดนที่ธรรมชาติสรรค์สร้างเสมือนแดนสวรรค์บนดิน
เส้นทางรถไฟสายทิเบต-ชิงไห่
ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟบนที่ราบสูงที่สูงที่สุดและยาวที่สุดของโลก
สร้างเสร็จเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ 2548 และเริ่มทดลองใช้ในวันที่
1 กรกฎาคม 2549 ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จด้วยดี โดยเส้นทางดังกล่าวเริ่มต้น
จากเมืองซีหนิง (เมืองเอกมณฑลชิงไห่) ถึง เมืองลาซา
(เมืองเอกเขตปกครองตนเองทิเบต) โดยส่วนหนึ่งของเส้นทางที่มีความยาวราว
960 กิโลเมตรได้สร้างอยู่บนความสูงมากกว่า 4,000 เมตรจนถึงสูงสุด
5,072 เมตรเหนือ ระดับน้ำทะเล ที่ส่วนใหญ่เป็นเขตที่ไม่มีผู้คนอาศัยและอากาศหนาวเย็น
|
หมายเหตุ : โปรแกรมนี้ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจและความดัน
หากไม่แน่ใจกรุณาปรึกษาแพทย์ก่อนทำการตัดสินใจและขอให้ท่านศึกษาโปรแกรมให้รอบคอบก่อนทำการจอง |
: มัคคุเทศก์ |
คุณ............ |
:
อุณหภูมิ |
อุณหภูมิ อากาศหนาวครับ |
:
เวลา |
เวลาที่ทิเบต เร็วกว่าประเทศไทย
1 ชั่วโมง |
:
ภาษา |
ภาษาจีนกลางและภาษาท้องถิ่น |
:
ไฟฟ้า |
220 โวลต์ ปลั๊กรูกลม 2 ขา สามารถเสียบชาร์จอุปกรณ์มือถือหรือกล้องถ่ายรูปได้ตามปกติ |
:
หมายเหตุ |
น้ำหนักกระเป๋าเดินทาง ไม่เกิน
15 กิโลกรัมครับ |
เตรียมตัวอย่างไร?....
ก่อนขึ้นเครื่อง
คลิ๊กที่นี่ครับ |
|
โปรแกรมการเดินทาง |
ออกเดินทางวันที่ 12-18 เมษายน
2554 |
วันแรก
: สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ |
23.45
น. |
คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ชั้น 4 บริเวณ สายการบิน AIR CHINA (CA) โดยมีเจ้าหน้าที่จากทางบริษัทฯ
คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกแด่ท่านก่อนออกเดินทาง |
วันที่สอง
: กรุงเทพฯ เฉินตู ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า ศาลเจ้าสามก๊ก |
03.00
น. |
เหิรฟ้าสู่ นครเฉินตู
โดยสายการบิน AIR CHINA เที่ยวบินที่ CA
|
06.30
น. |
ถึง ท่าอากาศยานซวงหลิง
นครเฉินตู เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้วนำท่านบริการอาหารเช้าที่ภัตตาคาร
(มื้อที่ 1) หลังอาหารนำท่านเที่ยวชม ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า
ซึ่งตั้งอยู่บนเนื้อที่ 600,000 ตารางเมตร ทางตอนเหนือของเมืองเฉินตู
สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1987 ซึ่งใช้เป็นศูนย์เพาะพันธุ์และอนุรักษ์
รวมถึงใช้เป็นสถานที่ศึกษาหมีแพนด้า |
12.00
น. |
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
(มื้อที่ 2) ลิ้มรสเมนู...อาหารสมุนไพรยาจีน หลังอาหารนำท่านชม
อู่โหวฉือ หรือ ศาลเจ้าสามก๊ก
สร้างขึ้นโดยพระบัญชาของกษัตริย์แห่งอาณาจักรเฉิง ปลายราชวงศ์จิ๋น
ประมาณ 1,800 กว่าปีมาแล้ว ภายในศาลเจ้ามีรูปปั้นเล่าปี่
ขงเบ้ง กวนอู เตียวหุย พร้อมทั้ง 14 ทหารเอก และ 14
เสนาบดีเอก ชม สุสานเล่าปี่และมเหสี 2 องค์ |
19.00
น. |
บริการอาหารเย็นที่ภัตตาคาร (มื้อที่
3) หลังอาหารนำท่านเดินทางเข้าที่พัก พักผ่อนกันตามสบาย
(พักที่ GELINPULANTE HOTEL หรือเทียบเท่า 4 ดาว) |
วันที่สาม
: เฉินตู วังแพะเหลือง ทิเบต นครลาซา |
07.00
น. |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่
4) หลังอาหารนำท่านเที่ยวชม วังแพะเหลือง
เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของลัทธิเต๋า
ซึ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน สร้างในสมัยก่อนราชวงศ์โจว
เมื่อ 2,000 ปีมาแล้ว เป็นวังที่ใหญ่ที่สุดของเฉิงตู
มีห้องพักมากมาย แพะเหลืองเป็นแพะที่มีลักษณะรูปร่างทั้ง
12 ราศีในร่างเดียวกัน คือ แพะเหลืองนั้นมีเขาเดียว
มีหูเป็นหนู, มีจมูกเป็นวัว, มีเท้าเป็นเสือ, มีรูปร่างเป็นกระต่าย,
มีเขาเป็นมังกร, มีหางเป็นงู, มีปากเป็นม้า, มีคางเป็นแพะ,
มีคอเป็นลิง, มีตาเป็นไก่, มีท้องเป็นหมา และมีก้นเป็นหมู
ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวจีนนับถือ ท่านสามารถอธิษฐานขอในสิ่งที่ท่านปรารถนาได้
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานเฉินตู |
12.50
น. |
เหินฟ้าสู่ นครลาซา
ทิเบต โดยสายการบิน AIR CHINA เที่ยวบินที่ CA
4412 |
15.00
น. |
ถึง สนามบินก่งก่า
นครลาซา เมืองหลวงของทิเบต เป็นดินแดนสวรรค์บนฟ้าที่เรียกขานกันว่า
หลังคาโลก ตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง
3,650 เมตร ออกซิเจนที่ลาซาจึงค่อนข้างจะบางเบา ปัจจุบันเป็นทิเบตเป็นเขตปกครองตนเองเทียบเท่ามณฑลหนึ่งของประเทศจีน
ในปี ค.ศ. 1951 ทางประเทศจีนได้ใช้กำลังทหารจากเมืองเฉินตูบุกเข้ายึดครองทิเบต
ทำให้องค์ดาไลลามะ ต้องอพยพออกจากทิเบตพร้อมด้วยผู้ติดตามอีกประมาณ
5 หมื่นคนและได้ไปตั้งถิ่นฐานแห่งใหม่ของตนเองในประเทศอินเดียและเนปาล
นำท่านชมดินแดนแห่งหลังคาโลก ท่ามกลางขุนเขาหิมาลัยและธงทิวแห่งมนตราปลิวไสว
เดินทางสู่ นครลาซา ผ่านทิวทัศน์อันงดงามแปลกตา
นำท่านเดินทางสู่โรงแรมเพื่อให้ท่านพักผ่อนปรับสภาพร่างกาย
|
19.00
น. |
บริการอาหารค่ำที่ภัตตาคาร (มื้อที่
5) หลังอาหารพักผ่อนกันตามสบาย (พักที่ GANG JIAN LASA
HOTEL หรือเทียบเท่า 4 ดาว) |
วันที่สี่
: พระราชวังโปตาลา วัดโจคัง ตลาดแปดเหลี่ยม |
07.00
น. |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่
6) หลังอาหารนำชม พระราชวังโปตาลา
ตั้งอยู่บนยอดเขาแดงซึ่งมีความสูงประมาณ 117
เมตร พระราชวังโปตาลาเป็นอาคารสูง 13 ชั้น ยาว 400 เมตร
กว้าง 350 เมตร มีห้องต่าง ๆ 1,000 ห้อง เริ่มสร้างเมื่อ
ค.ศ.ที่ 7 โดยกษัตริย์ กษัตริย์ซงจั้นกันปู้ (Songtsen
Gampo) แรกเริ่มต้องการเพียงจะสร้างเป็นตำหนักให้แก่มเหสีชาวจีนและชาวเนปาลของพระองค์เอง
ต่อมาทรงใช้เป็นสถานที่ในการศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
จนกระทั่งสมัยเปลี่ยนการปกครองเป็นพระลามะเป็นผู้ปกครองประเทศ
ได้มีการก่อสร้างเพิ่มเติมขึ้นเรื่อย ในสมัยของดาไลลามะที่
5 ประมาณ ปี ค.ศ. 1645 - 1693 พระราชวังโปตาลา ได้เป็นพระราชวังฤดูหนาว
ภายในพระราชวังได้แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ สีขาวเป็นส่วนของสังฆาวาส
เป็นส่วนของพระราชวัง, สีแดงเป็นส่วนพุทธาวาสสำหรับใช้ทำกิจของสงฆ์และบรรจุพระศพขององค์ดาไลลามะ
และส่วนเชื่อมที่เป็นสีเหลืองใช้สำหรับเก็บพระไตรปิฎก
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ร้านยาธิเบต
ซึ่งมียาต่างๆให้ท่านได้เลือกซื้อมากมาย |
12.00
น. |
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
(มื้อที่ 7) หลังอาหารนำชม วัดโจคัง
(Jokhang Temple) ภาษาจีนเรียก วัดต้าเจ้าซื่อ
เป็นวัดที่ถือว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจและศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวทิเบต
วัดโจคังสร้างในสมัยของกษัตริย์ซงจ้านกันปู้ (อยู่ในปีค.ศ.620-649)
เพื่อไว้เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปที่มเหสี ชาติจีนและเนปาล
ที่นำเข้ามายังทิเบต ศิลปะการก่อสร้างมีจุดเด่นตรงที่นำเอาศิลปะของ
4 ชาติมาผสมกันคือ ทิเบต จีน เนปาลและอินเดีย นอกจากนี้พระพุทธรูปที่พระนางเหวินเฉิง
นำมาจากประเทศจีน ซึ่งได้รับการกราบไหว้และยอมรับกันอย่างมากว่าศักดิ์สิทธิ์ที่สุด
แม้แต่พวกขบวนการเรดการ์ดหรือกองทัพแดงของจีนที่ทำลายทุกอย่างในสมัยการปฏิวัติวัฒนธรรมในประเทศจีน
ก็ยังไม่กล้าแตะต้องพระพุทธรูปองค์นี้ จากนั้นให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าพื้นมืองนานาชนิดที่
ถนนแปดเหลี่ยม ที่ล้อมรอบวัดโจคัง
|
19.00
น. |
บริการอาหารค่ำที่ภัตตาคาร (มื้อที่
8) หลังอาหารพักผ่อนกันตามสบาย (พักที่ GANGJIAN HOTEL
หรือระดับ 4 ดาว) |
วันที่ห้า
: วัดเซร่า -
ตำหนักนอร์บุหลิงฆา - วัดเดรปุง |
07.00
น. |
บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
(มื้อที่ 9) หลังอาหารนำท่านชม วัดเซรา
(Sera Monastery) ภาษาจีนเรียก ซึราซื่อ ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาตาติปูและสร้างขึ้นบนพื้นที่ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของกระท่อมที่พระชองฆาปา
ศึกษาธรรมะปฎิบัติกรรมฐาน สร้างโดยศิษย์รูปหนึ่งของชองฆาปา
(Tsong Khapa) เมื่อปี ค.ศ. 1419 (ชองฆาปา มีอายุอยู่ระหว่างปี
ค.ศ. 1357-1416 เป็นผู้ก่อตั้งพุทธศาสนา นิกายคุณธรรม
หรือ นิกายหมวกเหลือง ตามประวัติเล่ากันว่า ชองฆาปา
ก็คือพระอาจารย์ขององค์ ดาไลลามะที่ 1) อารามแห่งนี้เคยมีพระจำวัดอยู่ถึงเกือบ
5,000 รูป เป็นอารามที่รู้จักกันดีทั่วทิเบต ปัจจุบันมีพระจำวัดอยู่ประมาณ
300 รูป จากนั้นนำชม ตำหนักนอร์บุหลิงฆา
อันเป็นพระราชวังฤดูร้อนคู่กันกับพระราชวังฤดูหนาวโปตาลา
(นอร์บุหลิงฆา แปลว่า สวนอัญมณี) สร้างขึ้นในช่วงหลังศตวรรษที่
18 โดยดาไลลามะที่ 7 และดาไลลามะองค์อื่นๆ ได้สร้างต่อเติมขึ้นมาเรื่อย
ๆ ชมบัลลังก์เทวราชและงานจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับประสบการณชีวิตในแง่มุมต่าง
ๆ จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งของฝากที่ ร้านหินทิเบต
หินนำโชค ความเจริญรุ่งเรือง และสุขภาพดี |
12.00
น. |
บริการอาหารอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร
(มื้อที่ 10) หลังอาหารนำท่านเที่ยวชม วัดเดรปุง
ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองลาซา วัดเดรปุง
(ภาษาจีนเรียก ชื่อ ปังซื่อ) คำว่า Drepung นั้นมาจากคำว่า
Juekang ในภาษาทิเบต แปลว่า พระพุทธเจ้า
อารามแห่งนี้สร้างใน ค.ศ. 1416 โดยลูกศิษย์ของซองฆาปา
เช่นกัน ในอดีตอารามนี้เป็นศูนย์กลางการเคลื่อนไหวทางการเมืองเป็นเวลานาน
ที่นี่เป็นพระตำหนักขององค์ดาไลลามะก่อนที่ตำหนักโปตาลาสร้างเสร็จ
สถูปบรรจุพระศพของดาไลลามะองค์ที่ 2 , 3 , 4 ตั้งอยู่ในอารามแห่งนี้ด้วย
เชื่อกันว่าอารามเดรปุงน่าจะเป็นอารามขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในยุคที่รุ่งเรืองถึงขีดสุด
ทางด้านล่างของพื้นที่อารามเป็นกุฏิสงฆ์ อาคารเก็บของและอาคารใช้สอยอื่นๆ
ด้านบนเป็นที่ตั้งของหอสวดมนต์หลายหอ ซึ่งหอสวดมนต์เรียกว่า
ดูฆางส์ ภายในหอสวดมีพระพุทธรูปและภาพวาดบนผืนผ้าแบบทิเบต
ซึ่งเรียกว่า ธังกา จากนั้นทำท่าน
ชมภาพวาดถังข่า หรือทังกา ซึ่งภาพวาดถังข่าเป็นภาพลายปักบนผ้าไหมหรือกระดาษ
ที่แสดงถึงขนบทำเนียมประเพณีของชาวทิเบต |
19.00
น. |
บริการอาหารค่ำที่ภัตตาคาร (มื้อที่
11) หลังอาหารนำท่านเข้าพัก พักผ่อนกันตามสบาย |
วันที่หก
: ซีหนิง - หลานโจว
อนุสาวรีย์มารดาแม่น้ำเหลือง สะพานจงซาน คุนหมิง |
05.30
น. |
บริการอาหารเช้า (มื้อที่ 12)
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่สถานีรถไฟ ขบวน
K918 นำท่านขึ้น รถไฟขบวนท่องเที่ยวสุดหรูสายหลังคาโลก
(เมืองจีน) พักผ่อนบนรถไฟ (พักตู้นอน ห้องละ 4 คน 4
เตียง) |
หมายเหตุ
: บนรถไฟมีการควบคุมระดับออกซิเจนให้เหมือนกับอากาศปกติทั่วไป
มีหมอและห้องพยาบาลบริการ |
07.20
น. |
ขบวนรถไฟออกจากสถานี ข้ามสะพานแม่น้ำลาซาและอำลาพระราชวังโปตาลา
อันเป็นสัญลักษณ์ของทิเบตและวัดเดรปุงที่อยู่เชิงเขา
ก่อนลอดอุโมงค์หยังปาจิ่ง ยาว 42.5 กิโลเมตร |
11.23
น. |
รถไฟจอดให้ชมวิวในบริเวณ ทะเลสาบนัมซัว
(สูงจากระดับน้ำทะเล 4,800 เมตร พื้นน้ำกว้าง
400 ตารางกม.) เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่มีระดับน้ำทะเลสูงสุดของโลก
ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำสาละวิน ทะเลสาบตั้งอยู่ในใจกลางทุ่งหญ้าเชียงถัง
มีสัตว์ป่าหลากหลายชนิดวิ่งอยู่บริเวณทะเลสาบ เช่น จามรี
ลา ละมั่ง แพะเหลือง เสือดาวหิมะ ถ่ายรูปกับวิวทิวทัศน์สวยๆของทะเลสาป
ทุ่งหญ้าและภูเขาหิมะ |
12.00
น. |
บริการอาหารกลางวันบนรถไฟ (มื้อที่
13) รถไฟวิ่งผ่านอำเภอน่าจวี่ ผ่าน ทุ่งหญ้าเชียงถัง
พื้นที่กว่า 6 แสนตารางกิโลเมตร และวิวทิวทัศน์ของภูเขาหิมะติด
ๆ กันยึดยาวไปตามเส้นทางรถไฟ |
12.28
น. |
รถไฟผ่าน เขาถังกู่ระ
อันยิ่งใหญ่มโหฬาร ชม กาเซียร์เจียงเกินตี๋หรู
อยู่บนเขาเก๋อราตันตุง ยาว 14 กิโลเมตร ในช่องเขาถังกู่ระ
กาเซียร์สายนี้เป็นธารน้ำแข็งใหญ่สุดของเอเชีย เป็นต้นกำเนิดแม่น้ำแยงซีเกียง
ช่องเขาแห่งนี้เป็นเส้นแบ่งเขตระหว่างทิเบตกับมณฑลชิงไห่
|
13.50
น. |
รถไฟผ่าน แม่น้ำโทงเทียน
(4,500 เมตร) ซี่งเป็นแม่น้ำลือชื่อสุดในเรื่องไซอิ๋ว
พระถังซำจั๋งเดินทางไปเชิญพระไตรปิฎกจากประเทศอินเดียผ่านที่นี่
เป็นแม่น้ำสายแรกตอนบนแยงซีเกียง |
16.50
น. |
รถไฟวิ่งผ่าน สวนอนุรักษ์สัตย์เขอเขอซีลี่
เป็นสวนอนุรักษ์สัตว์ป่าที่มีพื้นที่กว้างสุด
มีระดับน้ำทะเลสูงสุดและมีสัตว์มากที่สุดของจีน มีเนื้อที่
8.3 ตารางกิโลเมตร สูงจากระดับน้ำทะเล 5,000 เมตรขึ้นไป
อากาศหนาวตลอดทั้งปี มีสัตว์ชนิดต่าง ๆ มากถึงกว่า 230
ชนิด (ชาวทิเบตถือเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของจามรีป่า ลาป่า
และละมั่งป่า) นั่งรถไฟผ่านสะพานลอยฟ้า
ส่วนข้างล่างเป็นช่องวิ่งของสัตว์ท้องถิ่น บนรถไฟท่านสามารถมองเห็นสัตว์ต่างๆมากมาย
ชมวิวธรรมชาติของธารน้ำแข็งระหว่างทาง |
18.15
น. |
รถไฟ ลอดอุโมงค์เขาคุนลุ้น
มีความยาว 1,686 เมตร สูงจากระดับน้ำทะเล 4,648
เมตร จากนั้นขบวนรถเลาะเลียบเขาเทวดาคุนลุ้น ท่านจะมองเห็นภูเขาหิมะยู่ซู
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเขาคุนลุ้น (ด้านซ้ายมือของรถไฟ)
ยอดเขาแห่งนี้เป็นสถานที่ตั้งสำนักคุนลุ้น |
19.00
น. |
บริการอาหารค่ำบนรถไฟ (มื้อที่
14) จากนั้นรถไฟผ่าน เมืองเก๋อเอร์มู่
ผ่าน ทะเลสาบชิงไห่ เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดของจีน
ผ่าน เขาสุริยันจันทรา ชมทิวทัศน์อันงดงามสองข้างทางรถไฟ |
วันที่เจ็ด
: ซีหนิง เฉินตู ช้อปปิ้งถนนคนเดิน - โชว์เปลี่ยนหน้ากาก |
07.40
น. |
ถึง เมืองซีหนิง
เมืองหลวงมณฑลชิงไห่ ที่มีขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่บนที่ราบสูงทิเบตที่มีความสูงเฉลี่ยกว่า
3,000 เมตร มีประชากรเบาบางเพียงประมาณ 5 ล้านคน มีภูมิประเทศเป็นภูเขาและที่ราบสูง
เสน่ห์ของชิงไห่คือความรกร้างห่างไกลและความเป็นอยู่ของชนเผ่าเร่ร่อน
นำท่านสู่โรงแรมพร้อมบริการอาหารเช้า (มื้อที่ 15) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่
ท่าอากาศยานซีหนิง |
11.30
น. |
เหินฟ้ากลับสู่ เมืองเฉินตู
โดยสายการบิน AIR CHINA เที่ยวบินที่ CA 4206
(บนเครื่องมีบริการอาหาร) |
13.30
น. |
ถึง สนามบินเมืองเฉินตู
นำท่านแวะซื้อยาแก้น้ำร้อนลวกเป่าฟู่หลิง
ยาบัวหิมะ ยาประจำบ้านที่มีชื่อเสียง จากนั้นท่านจะได้ชม
การสาธิตการนวดเท้า จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ย่าน
Walking Street หรือ ถนนคนเดิน ของเสฉวน ซึ่งเป็นย่านขายสินค้าของวัยรุ่น
Brand Name และขายสินค้าทันสมัย ให้ท่านช้อปปิ้งซื้อของฝากกลับบ้านกันตามอัธยาศัย
|
19.00
น. |
บริการอาหารค่ำที่ภัตตาคาร (มื้อที่
16) หลังอาหารนำท่านชม โชว์เปลี่ยนหน้ากาก
ที่ใช้ศิลปะพร้อมความสามารถในการเปลี่ยนหน้ากากแต่ละฉากภายในเสี้ยววินาที
โดยที่ไม่สามารถจับตาได้ทัน เป็นการแสดงที่สงวนและสืบทอดกันมาภายในตระกูลหลายชั่วอายุคน
ไม่ถ่ายทอดให้บุคคลภายนอกทั่วไป |
00.20
น. |
ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯโดยสายการบิน
AIR CHINA เที่ยวบินที่ CA
.. |
02.00
น. |
ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ
กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพทุกท่าน |