(พักโรงแรมเมืองมุมไบ
2 คืน และ เมืองออรังกาบัด 2 คืน ระดับ 4 ดาว) |
• ทัวร์ถ้ำอชันตา อินเดีย
• เที่ยวครบ 3 ถ้ำพุทธศิลป์อินเดีย ถ้ำอชันตา ถ้ำเอลโลร่า ถ้ำกัณเหรี
• ขอพรพระพิฆเนศที่ วัดสิทธิวินายัก วัดคู่บ้านคู่เมืองมุมไบที่โด่งดัง
• เที่ยวชมเมืองมุมไบ ชมสถานีรถไฟ Victoria และช้อปปิ้งตลาดคอฟฟอร์ด
• อาหารดี - โรงแรมที่พักดี ระดับ 4 ดาว
• ไม่ลงร้านช้อปร้านยา มีเวลาเที่ยวเต็มที่ ไม่มีขาย Option เสริม ไม่เก็บเงินเพิ่มราคาทัวร์
|

รายละเอียดโปรแกรม |

รางวัลกินรีทอง |

รางวัลบริษัททัวร์มาตรฐาน |

รางวัลบริษัททัวร์มาตรฐาน |

ภาพเขียนในถ้ำอชันตา |

ถ้ำอชันตา เมืองออรังกบาด |

ถ้ำอชันตา เมืองออรังกบาด |

ถ้ำอชันตา เมืองออรังกบาด |

ถ้ำอชันตา เมืองออรังกบาด |

ถ้ำอชันตา เมืองออรังกบาด |

ถ้ำเอลโลรา เมืองออรังกบาด |

ถ้ำเอลโลรา เมืองออรังกบาด |

ถ้ำเอลโลรา (Ellora Caves) |

ถ้ำเอลโลรา (Ellora Caves) |

ป้อมเดาลาตาบัด |

ป้อมเดาลาตาบัด |
|
•
โปรแกรมการเดินทาง (กรุ๊ปละ 10-15 ท่าน) |
• วันที่ 7 - 12 ธันวาคม 2566 (เปิดจองแล้วครับ) |
วันแรก : สนามบินสุวรรณภูมิ - มุมไบ |
18.00 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารชั้น 4 ประตู 10 สายการแอร์อินเดีย เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเดินทาง
20.50 น. ออกเดินทางสู่ เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย โดยสายการบิน Air India (AI-331) ใช้เวลาบิน 4.30 ชั่วโมง
23.50 น. ถึง สนามบินฉัตรปาตีชีวจี (มุมไบ) หรือชื่อเดิม “บอมเบย์” เป็นเมืองศูนย์กลางด้านการพาณิชย์ของอินเดียโอบล้อมด้วยทะเลอาระเบียน มุมไบเป็นที่รู้จักในฐานะเป็นฮอลลิวูดของอินเดียที่เรียกกันว่าบอลลีวูดมีอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อย นำท่านเข้าที่พัก พักผ่อน (พัก The Orchid Hotel Mumbai Vile Parle หรือ Kohinoor Continental ระดับ 4 ดาว) |
วันสอง
: มุมไบ - ถ้ำกัณเหรี - วัดถ้ำช้าง |
07.00
น. บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 1) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ ถ้ำกัณเหรี Kanheri Caves แปลว่าภูเขาหินสีดำ (ปิดทุกวันจันทร์) จัดอยู่ในวรรณอุทยานแห่งชาติสันเจ คานธี (sanjay gandhi national park) เป็นถ้ำทางพระพุทธศาสนาที่มีการสกัดหินและขุดเจาะภูเขาเพื่อนำมาทำเป็นวัด โบสถ์ ศาลา วิหาร และที่พำนักของพระภิกษุสงฆ์ มีจำนวนทั้งหมด 109 ถ้ำ ซึ่งกระจัดกระจายไปตามไหล่เขา ถ้ำเหล่านี้ เริ่มสร้างต้นพุทธศตวรรษที่ 5-14 มี 2 ยุค ยุคแรก พระสายหินยาน นิกาย"ภัทรยานี" (เถรวาท แบบพระไทย, ศรีลังกา) เริ่มมาสร้างก่อนในกลางพุทธศตวรรษที่ 5 ยุคหลังพระสายมหายาน (จีน, ญีปุ่น) มาที่หลังในพุทธศตวรรษที่ 6 ตามคติความเชื่อแล้วสำหรับพระพุทธรูปจะสร้างขึ้นในสายมหายาน ส่วนเถรวาทนิยมสร้างพระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและอัฐิธาตุ
12.00 น. บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 2) หลังอาหารนำท่านนั่งเรือเฟอร์รี่เดินทางไปชม วัดถ้ำช้างหรือฆรปุรี Elephanta Island (ปิดทุกวันจันทร์) ชมเทวสถานเทวาลัยอันอันยิ่งใหญ่อลังการผสมผสานระหว่างศิลปะฮินดูและพุทธ ภายในมีหินแกะสลักเทวรูปต่างๆและพระพุทธรูปขุดเจาะขึ้นในศตวรรษที่ 7 และ 8 ชมงานประติมากรรมชิ้นเอกคือเทวรูปพระศิวะครึ่งองค์ สูง 5 เมตร จากนั้นเดินทางกลับฝั่ง
บริการอาหารค่ำที่โรงแรม (มื้อที่ 3) หลังอาหารพักผ่อน (พัก The Orchid Hotel Mumbai Vile Parle หรือ Kohinoor Continental ระดับ 4 ดาว)
|
วันที่สาม : เมืองออรังกาบัด – หมู่ถ้ำเอลโลร่า – ป้อมเดาลาตาบัด - ทัชมาฮาลน้อย (บีบีกา มาคบารา) |
05.00 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบินเมืองมุมไบ
07.05 น. ออกเดินทางโดยสายการบิน Air India (AI-499) สู่ เมืองออรังกาบัด
08.10 น. เดินทางถึง Aurangabad Airport นำท่านบริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 4) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ หมู่ถ้ำเอลโลร่า (ระยะทาง 30 กม. ถ้ำปิดทุกวันอังคาร) ผ่านชม ป้อมเดาลาตาบัด (ถ่ายรูปด้านนอก) เดาลาตาบัด แปลว่า เมืองแห่งความมั่งคั่ง เป็นป้อมในศตวรรษที่ 14 ป้อมปราการโบราณถูกโอบล้อมด้วยภูเขาดัลคีรี เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางคาราวาน ตำนานเล่าว่าเมืองนี้สร้างขึ้นโดยดันการ์ เมื่อ ค.ศ.1203 หลังจากถูกสุลต่านเดลีชาวมุสลิมอลาอุดดินคิลจิยึดได้ใน ค.ศ.1294 เดวากิรีกลายเป็นเมืองสำคัญในสมัยของสุลต่านมูฮัมมัดดินตุ๊คลัคในปีค.ศ.1327 พระองค์ทรงตั้งเป็นเมืองหลวง ชม หมู่ถ้ำเอลโลร่า ซึ่งประกอบไปด้วยงานศิลป์ของสามศาสนาที่อยู่รวมกัน ชมความงามที่ยิ่งใหญ่ของถ้ำ 34 ถ้ำ ถ้ำหมายเลข 1–12 เป็นวัดถ้ำในพุทธศาสนา ถ้ำหมายเลข 14-16 เป็นเทวาลัยถ้ำในศาสนาฮินดู ถ้ำ 30-32 เป็นวิหารถ้ำในศาสนาเชน ถ้ำเอลโลร่าได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปีค.ศ.1983
12.00 น. บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (5) หลังอาหารนำท่านเที่ยวชม บีบีกา มาคบารา (ทัชมาฮาลน้อย) เป็นสถานที่ฝังพระศพของจักรพรรดินี ราบิยะ อุด-ดูรานี (Rabia ud-Durani) หรือดิลราส บานู เบกุม (Dilras Banu Begum) ซึ่งสร้างขึ้นด้วยหินอ่อนในแบบสถาปัตยกรรมโมกุลโดยเจ้าชายอะซาม ชาห์ (Azam Shah) พระราชโอรสของจักรพรรดิออรังเซ็บ ในระหว่างปี 1651 ถึง 1661 เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พระมารดาของตน สุสานแห่งนี้สร้างเลียนแบบทัชมาฮาลแต่มีขนาดเล็กกว่า
19.00 น. บริการอาหารค่ำที่โรงแรม (มื้อที่ 6) หลังอาหารพักผ่อน (พักที่โรงแรม The Fern Residency, Aurangabad ระดับ 4 ดาว)
|
วันที่สี่ : เมืองออรังกาบัด – หมู่ถ้ำอชันตา |
07.00 น. บริการอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่ 7) หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ หมู่ถ้ำอชันตา (ระยะทาง 93 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 2.30 ชั่วโมง ถ้ำปิดทุกวันจันทร์) ถ้ำอชันตา ประติมากรรมทางพุทธศาสนาที่งดงามและเก่าแก่ที่สุดในโลก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปีค.ศ.1983 ชมความงดงามและอลังการของสถาปัตยกรรมที่ถูกสร้างขึ้นจากความศรัทธาในพระพุทธศาสนา โดยขุดเจาะภูเขาเป็นสังฆรามขนาดใหญ่แบบศิลปะคุปตะและหลังคุปตะอันวิจิตร ถ้ำอชันตาประกอบไปด้วยถ้ำ 30 ถ้ำ มีอายุกว่า 2,000 ปี เป็นพุทธสถานที่สร้างจากการสกัดหน้าผาหินเข้าไปในภูเขาเหนือแม่น้ำวโฆระ แต่เดิมเป็นศูนย์กลางสำนักปฏิบัติของเหล่าพระสงฆ์ในพุทธศาสนาราวพุทธศตวรรษที่ 7-13 ก่อนถูกทอดทิ้งให้รกร้างกลางป่าจึงรอดพ้นจากการทำลายล้างจากกองทัพผู้รุกราน จนมาถูกค้นพบอีกครั้งโดยบังเอิญจากนายทหารอังกฤษในศตวรรษที่ 19 ภายในถ้ำท่านจะได้ชมงานแกะสลักเสาอันงดงามและวิจิตรบรรจง รวมถึงพระพุทธรูปและเจดีย์ศิลาที่สกัดและตกแต่งขึ้นจากหินเนื้อเดียวกันกับพื้นผนังถ้ำยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังอายุกว่า 1,200 ปี มีความงดงามสมบูรณ์ด้วยเทคนิคการเขียนภาพสามมิติ ภาพสีเฟรสโก้อันน่าอัศจรรย์ ถ้ำอชันตาเป็นถ้ำที่ผสมผสานระหว่างศิลปะแบบพุทธและฮินดู
12.00 น. บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (8) หลังอาหารนำท่านเที่ยวชมสถาปัตยกรรมของถ้ำอชันตามึถึง 30 ถ้ำ แต่ละถ้ำมีความแตกต่างกัน เช่น ถ้ำที่ 1 เป็นถ้ำเกี่ยวกับชาดกและพุทธประวัติ ถ้ำเบอร์ 2 เป็นถ้ำของฝ่ายมหายานมีชื่อเสียงด้านภาพวาด ส่วนใหญ่เป็นภาพดอกบัว ถ้ำเบอร์ 4 มีความกว้างใหญ่ที่สุดในบรรดาถ้ำทั้งหมด ด้านหน้ามีรูปแกะสลักพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร อีกทั้งพระพุทธรูปปางประทับยืน ถ้ำเบอร์ 6 มีพระพุทธรูปปางแสดงปฐมเทศนาที่มีพระสรีระแตกต่างจากถ้ำอื่น มีเวลาเที่ยวชมจนถึงถ้ำสุดท้าย จากนั้นนำท่านเดินทางกลับเมืองออรังกาบัด
19.00 น. บริการอาหารค่ำที่โรงแรม (มื้อที่ 9) หลังอาหารพักผ่อน (พักที่โรงแรม The Fern Residency, Aurangabad ระดับ 4 ดาว)
|
วันที่ห้า : เมืองออรังกาบัด - มุมไบ - วัดสิทธิวินายัก - ตลาดคอฟฟอร์ด สถานีรถไฟ Victoria Terminus |
06.00 น. นำท่านเดินทางสู่ Aurangabad Airport (จัดอาหารกล่อง มื้อที่ 10)
08.45 น. ออกเดินทางโดยสายการบิน Air India (AI-400)
09.55 น. ถึง สนามบินฉัตรปาตีชีวจี (มุมไบ) นำท่านเที่ยวชมเมืองมุมไบ เมืองที่มีกลิ่นอายของความเป็นตะวันตกอย่างเต็มเปี่ยม มีสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่มีความเป็นตะวันตกอยู่หลาย นำท่านชม วัดสิทธิวินายัก (วัดพระพิฆเนศ) วัดคู่บ้านคู่เมืองมุมไบเป็นวัดที่ นักแสดง นักการเมือง นักธุรกิจ ผู้มีชื่อเสียงในอินเดียให้ความศรัทธาเป็นอย่างมาก ชาวอินเดียมีความเชื่อว่าครั้งหนึ่งในชีวิตหากมีโอกาสก็จะต้องเดินทางมาสักการะพระสิทธิวินายัก อวตารปางหนึ่งของพระพิฆเนศอธิษฐานขอพรจากท่านดังใจต้องการ (เข้าสักการะแบบกรุ๊ป VIP ไม่ต้องไปเข้าคิวรอ)
12.00 น. บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร (มื้อที่ 11) หลังอาหารนำท่านถ่ายรูปกับ ประตูชัย Gateway of India สัญลักษณ์ของ เมืองมุมไบ นำท่านช้อปปิ้งที่ ตลาดคอฟฟอร์ด ตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านชม Victoria Terminus หรือสถานีรถไฟฉัตรปตี ศิวาจี สถานีรถไฟกลางเมืองมุมไบซึ่งตั้งชื่อตามพระนางวิคตอเรีย เป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ได้รับการออกแบบโดย Mr. F.W. Stevens สถาปนิกชาวอังกฤษ ต่อมาสถานีรถไฟแห่งนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย
19.00 น. บริการอาหารค่ำที่โรงแรม (มื้อที่ 12) หลังอาหารเดินทางสู่ สนามบินเมืองมุมไบ |
วันที่หก : สนามบินสุวรรณภูมิ |
01.50 น. ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน Air India (AI-330)
07.45 น. ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
|