(พักสเปน
5 คืน และ โปรตุเกส 2 คืน ระดับ 4 ดาว) |
เตรียมตัวเดินทางครับ
: วันที่ 12 - 21 เมษายน 2555 (ช่วงฤดูใบไม้ผลิต) |
:
จุดนัดหมาย สนามบินสุวรรณภูมิ
ชั้น 4 ประตู 9 เคาน์เตอร์ U สายการบินเตอร์กิช
แอร์ไลน์ เวลา 20.30 น. |
:
อุณหภูมิ |
อากาศหนาวแบบสบาย
เตรียมอุปกรณ์กันหนาวไปด้วยนะครับ |
|
|
โปรแกรมการเดินทาง : ออกเดินทาง |
วันแรก
: กรุงเทพ - ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ |
20.30
น. |
พร้อมกันที่
สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น
4 ประตู 9 เคาน์เตอร์ U สายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์
(TK) เจ้าหน้าที่บริษัทฯ ให้การต้อนรับ อำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทาง |
23.45 น. |
ออกเดินทางไปยัง
นครอิสตันบูล โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์
เที่ยวบินที่ TK61 พร้อมสัมผัสกับสิ่งอำนวยความสะดวกบนเครื่องและการต้อนรับของพนักงานต้อนรับสายการบินเตอร์กิช
แอร์ไลน์ส (หากท่านต้องการสะสมไมล์ สามารถสะสมไมล์ในกลุ่มพันธมิตร
สตาร์ อะลิอันซ์ Star Alliance) |
วันที่สอง
: อิสตันบูล - บาร์เซโลน่า - สวนกูเอล - มหาวิหารซากราด้า
ฟามิเลียร์ |
06.00
น. |
เดินทางถึง
กรุงอิสตันบูล แวะเปลี่ยนเครื่อง
เพื่อจะเดินทางต่อไปประเทศสเปน |
09.35
น. |
ออกเดินทางสู่
สนามบินบาร์เซโลน่า Bacelona
โดย สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน TK1853
มีบริการอาหารบนเครื่องบิน (ใช้เวลาบินประมาณ 3.30
ชั่วโมง) |
12.05
น. |
เดินทางถึง
สนามบินบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน
นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่
กรุงบาร์เซโลน่า Barcelona
เมืองใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศสเปน และเป็นท่าเรือสำคัญที่สุดในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ซึ่งใอดีตที่บริเวณแห่งนี้เคยเป็นสถานีการค้าของชาวกรีกและเป็นอาณานิคมโรมัน
ปัจจุบันบาร์เซโลน่าคือเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมหลากยุคสมัย
มีสวนสาธารณะ และการวางผังเมืองที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว
ชมผลงานก่อสร้างในศิลปะแบบอาร์ตนูโว ที่แสดงความงดงามอย่างมีชีวิตชีวา
โดยฝีมือของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ Antonio Guadi ผู้ที่ทำให้เมืองบาร์เซโลน่า
ได้รับฉายาว่า City of Guadi นำท่านชมบริเวณท่าเรือ
ชม อนุสาวรีย์คริสโตเฟอร์โคลัมบัส
นักเดินเรือผู้ยิ่งใหญ่ที่ออกเดินทางจากบาร์เซโลน่า
ไปพบหมู่เกาะแคริบเบียนและทวีปอเมริกาใน ปี ค.ศ. 1492
จากนั้นนำท่านเข้าชม สวนสาธารณะกูเอล
Guell Park ที่เชิงเขาคาร์เมล ชมวิวที่จุดชมวิวบน
ระเบียงนั่งเล่น Serpentine
Bench ที่ประดับตกแต่งลวดลายด้วยเครื่องกระเบื้องโมเสกนับล้านชิ้น
เป็นสวนลอยฟ้าที่มี เสาโดริก รองรับอย่างสวยงาม
ชมปาติมากรรม มังกรโมเสก Mosaic Dragon ไต่คลานบนบันได้น้ำพุอันเป็นขวัญใจของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
นำท่านเดินทางสู่ มหาวิหารซากราด้า
ฟามิเลีย Sagrada Familia สัญลักษณ์แห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สูงใหญ่ถึง
170 เมตร ออกแบบก่อสร้างอย่างสวยงามแปลกตาตั้งแต่ปี
ค.ศ. 1882 โดย เกาดี้ ซึ่งท่านใช้เวลาทำงานอยู่นานถึง
43 ปี นำท่านชมทิวทัศน์รอบตัวเมืองบาร์เซโลน่า บนยอดเขา
มองต์จูอิค Mont Juic |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำ
ณ ภัตตาคารอาหาจีน (พักโรงแรม Pere IV Hotel หรือระดับ
4 ดาว) |
วันที่สาม
: บาร์เซโลน่า - ช้อปปิ้ง - ซาราโกซ่า - ซานตามาเรียเดอร์ฟิลลาร์ |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ถนนช้อปปิ้งสายใหญ่ของบาร์เซโลน่า
ถนนลารัมบลา La Rambla ย่านที่มีชื่อเสียงที่สุดของบาร์เซโลน่า
เป็นถนนสายเล็กๆ ที่มีความยาวเพียง 1.2 กิโลเมตร แต่มีสีสันเสน่ห์น่าประทับใจทั้งกลางวันและกลางคืน
ให้ท่านได้ช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าและเสื้อผ้าแบรนด์เนมทั้ง
H&M, ZARA, Beneton, Topshop หรือจะช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำซึ่งมี
Shop ตั้งอยู่มากมายบนถนน Passeig
De Gracia ไม่ไกลจากถนนลารัมบลานัก ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้า
อาทิ Louis Vuitton, Chanel, Gucci, Lowe |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน
ณ ภัตตาคารอาหารจีน หลังอาหารนำท่านออกเดินทางสู่
เมืองซาราโกซ่า Zaragoza
(ระยะทาง 310 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3.50 ชั่วโมง)
ซึ่งเป็นเมืองหลักของอาณาจักรอารากอน อยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสเปน
ริมฝั่งแม่น้ำเอโบรและแควสาขาอวยร์บาและกาเยโก ในหุบเขาตอนกลางมีภูมิทัศน์ที่หลากหลาย
ทั้งทะเลทราย ป่าหนาทึบ ทุ่งหญ้า ไปจนถึงทิวเขา ระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันหลากหลาย
ถึง เมืองซาราโกซ่า นำท่าน
เข้าชม วิหารแม่พระแห่งเสาศักดิ์สิทธิ์ Basilica
of Our Lady of The Pillar หรือที่รู้จักในนาม
ซานตามาเรียเดอร์ฟิลลาร์ |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำที่ภัตตาคารภายในโรงแรม
พัก โรงแรม Hotel Goya Zaragoza หรือระดับ 4 ดาว |
วันที่สี่
: เซโกเบีย - สะพานส่งน้ำโรมัน - ปราสาทอัลกาซาร์
- มาดริด |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองเซโกเบีย
Segovia (ระยะทาง 409 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง
4.30 ชั่วโมง) เป็นเมืองหลักของจังหวัดเซโกเบีย ตั้งอยู่บริเวณจุดบรรจบระหว่างแม่น้ำเอเรสมา
Eresma กับแม่น้ำกลาโมเรส Clamores ที่ตีนเขากวาดาร์รามา
Sierra De Guadarrama
โดยขณะที่อยู่ภายใต้การปกครองของชาวโรมันและชาวมัวร์ |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน
ณ ภัตตาคาร (เมนูหมูหันเซโกเบีย อันเลื่องชื่อ) หลังอาหารนำท่านชม
มหาวิหารแห่งเมืองเซโกเบีย
Segovia Cathedral และ สะพานส่งน้ำโรมัน
Roman Aquaduct นำชมเขตเมืองเก่าล้อมรอบด้วยกำแพงที่สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่
8 จากนั้นนำท่าน เข้าชม ปราสาทแห่งเซโกเบีย
หรือ ปราสาทอัลกาซาร์
(คำว่าอัลกาซาร์) ในภาษาอาระบิคแปลว่าปราสาท
หลายคนเรียกปราสาทแห่งนี้ว่าปราสาทแห่งเทพนิยายเพราะความสวยสง่างามที่มองเห็นได้จากภายนอก
ตั้งอยู่บนชะง่อนผาสูงที่แม่น้ำสองสายไหลมาบรรจบกัน
สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 13 แล้วได้รับการต่อเติมในศตวรรษที่
15 และ 16 มีลักษณะเหมาะแก่การตั้งรับข้าศึกในอดีต
เพราะมีทั้งช่องขนาดใหญ่ใช้สำหรับติดตั้งอาวุธและมีช่องสำหรับเทน้ำเดือดเพื่อทำลายกองทัพข้าศึกที่เข้าประชิดกำแพงเมือง
ภายในปราสาทเป็นได้จัดเป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับแสดงแสนยานุภาพของอาวุธในสมัยกลาง
รวมถึงเครื่องใช้ในอดีต และในปี ค.ศ. 1975 ยูเนสโก้ได้ขึ้นทะเบียนให้
เมืองเซโกเบียเป็นมรดกโลกทางศิลปวัฒนธรรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงแมดริด
Madrid เมืองหลวงของประเทศสเปน (ระยะทาง 92
กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง) ตั้งอยู่ใจกลางแหลมไอบีเรียน
ในระดับความสูง 650 เมตร เป็นมหานครอันทันสมัยล้ำยุค
ที่ซึ่งกษัตริย์ฟิลลิปที่ 2 ได้ทรงย้ายที่ประทับจากเมืองโทเลโดมาไว้ที่นี่
และประกาศให้แมดดริดขึ้นเป็นเมืองหลวงใหม่ของพระองค์
แมดริดได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
และสูงสุดแห่งหนึ่งในยุโรป |
เย็น |
บริการอาหารค่ำที่ภัตตาคารอาหารจีน
(พัก โรงแรม Abba Hotel หรือระดับ 4 ดาว) |
วันที่ห้า
: โทเลโด - มหาวิหารโทเลโด - มาดริด - พระราชวังหลวง |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองโทเลโด
Toledo (ระยะทาง 70 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง
45 นาที) อดีตเมืองหลวงเก่าของสเปนตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่
13 เป็นเมืองแห่งศูนย์กลางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของสเปน
ชื่อเมืองหมายถึงการผสมผสานของ 3 วัฒนธรรม คริสเตียน,
อิสลาม และฮีบรู ตัวเมืองตั้งอยู่บนหน้าผาสูงและล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำตาโค
Tajo ซึ่งเหมาะแก่การป้องกันการรุกรานจากข้าศึก นำท่านเที่ยวชม
สะพานแบบโรมันดั้งเดิม (ปูเอนเต
เด อัลกานตารา) บนเนินเขาท่านจะเห็นกัสตีโย
เด ซาน เซร์บานโด ป้อมปราการขนาดใหญ่ที่ชาวโรมันสร้างขึ้นเพื่อปกปักษ์รักษาเมือง
แล้วเข้าสู่เขตเมืองเก่าโดยผ่าน ประตูเมืองปูเอร์ตา
เด บิซากรา 1 ในประตูเมืองที่มีความสำคัญที่สุด
ชื่นชมกับความแตกต่างของสถาปัตยกรรมแบบอารบิค, มูเดซาร์
โกธิคและเรอเนสซองส์ นำท่านเข้าชมความงามของ มหาวิหารโทเลโด
Toledo Cathedral สถาปัตยกรรมแบบโกธิกที่ยิ่งใหญ่สวยงามแห่งหนึ่งของโลก
ใช้เวลาสร้างยาวนานแต่เดิมชาวมุสลิมใช้เป็นสุเหร่า
ต่อมาได้ก่อสร้างรูปทรงแบบโกธิคในปี 1226 และเพิ่มศิลปะแบบมูเดฆาร์
บาร็อค และนีโอคลาสสิค จนเสร็จสมบูรณ์ในอีก 300 ปีถัดมา
ภายในมหาวิหารมีการตกแต่งอย่างงดงามวิจิตรด้วยไม้แกะสลักและภาพสลักหินอ่อน
อีกด้านหนึ่งท่านจะเห็นอัลคาซาร์ เป็นผลงานของสถาปนิกระดับสุดยอดในสมัยศตวรรษที่
16 จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปบริเวณ จุดชมวิว เพื่อชมทิวทัศน์ของเมืองโทเลโดในมุมสูง |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวันที่โรงแรม
หลังอาหารออกเดินทางเข้าสู่ กรุงมาดริด
เพื่อเข้าชม พระราชวังหลวง
Royal Palace ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำแมนซานาเรส
มีความสวยงามโอ่อ่าอลังการไม่แพ้พระราชวังอื่นๆ ในทวีปยุโรป
พระราชวังหลวงแห่งนี้ถูกสร้างด้วยหินทั้งหลัง โดยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและอิตาเลียน
ประกอบด้วยห้องต่าง ๆ กว่า 2,830 ห้อง ซึ่งนอกจากจะมีการตกแต่งอย่างงดงามแล้ว
ยังเป็นที่เก็บภาพเขียนชิ้นสำคัญที่วาดโดยศิลปินในยุคนั้น
รวมทั้งสิ่งของมีค่าต่าง ๆ อาทิ พัดโบราณ, นาฬิกา,
หนังสือ, เครื่องใช้, อาวุธ นำท่านชม อุทยานหลวง
ที่มีการเปลี่ยนพันธุ์ไม้ทุกฤดูกาลดอกไม้งดงามตลอดปี
นำท่านเดินทางเข้าชม ฟลาซ่าสเปน
ชม อนุสาวรีย์เซอร์แวนเตส
กวีเอกชาวสเปนที่ตั้งอยู่เหนืออนุสาวรีย์ดอนกิโฆเต้
ในสวนสาธารณะ (ในกรณีที่พระราชวังหลวงปิด ซึ่งทางพะราชวังจะไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ทางคณะฯ จะจัดให้ท่านได้เข้าชม พระราชวังอรานคูเอซ
Placio Real De Aranjuez แทน ซึ่งพระราชวังดังกล่าวเป็นอดีตพระราชวังฤดูร้อนของกษัตริย์สเปน
สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้า Philip ที่สอง) ผ่านชม
น้ำพุไซเบเลส Cibeles Fountain
ที่สร้างอุทิศให้แก่เทพธิดาไซเบลีน ใช้เป็นสถานที่เฉลิมฉลองในเทศกาลต่างๆของเมือง
และอาคารสวยงามใกล้ๆ กันคือ ที่ทำการไปรษณีย์ ผ่านชม
ประตูชัยอาคาล่า Puera De Alcala
ที่สร้างถวายพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จากนั้นนำท่านชม
พลาซ่ามายอร์ Plaza Mayor
ใกล้เขตปูเอต้าเดลซอล หรือประตูพระอาทิตย์ จัตุรัสใจกลางเมือง
นอกจากจะเป็นจุดนับกิโลเมตรแรกของสเปนแล้ว (กิโลเมตรที่ศูนย์)
ยังเป็นศูนย์กลางรถไฟใต้ดิน และรถเมล์ทุกสาย และยังเป็นจุดตัดของถนนสายสำคัญของเมืองที่หนาแน่นด้วยร้านค้ามากมาย
และห้างสรรพสินค้าใหญ่อีกด้วย นำท่าน แวะถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์หมีกับต้นมาโดรนา
สัญลักษณ์ของเมือง จากนั้นอิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำ
ณ ภัตตาคารอาหารจีน (พัก โรงแรม Abba Hotel หรือระดับ
4 ดาว) |
วันที่หก
: คอร์โดบา - สุเหร่าเมซกีต้า - เซวิลญ่า - ระบำฟลาเมนโก้ |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองคอร์โดบา
Cordoba (ระยะทาง 397 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง
4 ชั่วโมง) เมืองคอร์โดบา ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดัลกีเบีย
เป็นเมืองศูนย์กลางของวัฒนธรรมมุสลิม องค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้เป็น
เมืองมรดกโลก เมืองนี้เป็นเมืองในระบบกาหลิบที่มีความเจริญรุ่งเรืองที่สุดของยุโรปในศตวรรษที่
10 มีการสร้างมหาวิทยาลัยเน้นการเรียนรู้ด้านวรรณกรรม,
วิทยาศาสตร์, ปรัชญาและการแพทย์ |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน
ณ ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านเข้าชม สุเหร่าเมซกีต้า
เป็นสุเหร่าที่มีขนาดใหญ่โตและออกแบบอย่างวิจิตรด้วยการใช้เสาหินจำนวนมากถึง
850 ต้น ต่อยอดเสาด้วยโครงสร้างคานโค้งแบบศิลปะโรมัน
ผสมกับลวดลายแบบมัวริช ที่เป็นอิทธิพลของชาวมุสลิม
ซึ่งประดับด้วยเครื่องกระเบื้องเคลือบ อิฐ และหินฉลุลาย
ทั่วทั้งอาคาร ด้านในสุดของมัสยิดจะสร้าง มีหรับ
ที่เป็นเครื่องหมายแสดงทิศทางของเมืองเมกกะ ต่อมาเมื่อชาวคริสต์เข้ามายึดครองเมืองคอร์โดบา
จึงได้มีการสร้างโบสถ์ขึ้นที่บริเวณกึ่งกลางของมัสยิด
และสร้างหอระฆังสูง 93 เมตร ขึ้นในบริเวณสวนส้มและลานน้ำพุ
แต่ยังคงรักษารูปแบบดั้งเดิมของชาวมุสลิมและคริสเตียนเอาไว้รวมกันอย่างสมบูรณ์แบบ
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเซวิลญ่า
Seville (ระยะทาง 142 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง
1.30 ชั่วโมง) ซึ่งตั้งอยู่ในแคว้นอันดาลูเซีย เป็นเมืองที่มีมรดกทางวัฒนธรรมมากมาย
เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความเขียวขจีพื้นที่โล่งสวนสาธารณะและสวนดอกไม้งานเทศกาลที่จัดขึ้นในเมืองเซบีญ่าได้รับการกล่าวขานมากที่สุด
เนื่องจากเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวามากที่สุดในแคว้นอัลดาลูเซีย
เมืองนี้เคยอยู่ภายใต้การปกครองของแขกมัวร์มานานกว่า
800 ปี จึงได้รับอิทธิพลศิลปะแบบแขกมัวร์ค่อนข้างมาก |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำ
พร้อมชม โชว์ระบำฟลามิงโก้ เลื่องชื่อของสเปน Palacio
Del Embrujo (พัก โรงแรม Hotel TRH Alcora หรือระดับ
4 ดาว) |
วันที่เจ็ด
: เซวิลญ่า - หอคอยฆีรัลดา - ฟารู่ (โปรตุเกส) |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
หลังอาหารนำท่านเข้าชม ปลาซาเดเอสปาญา
Plaza De Espanga ชมกลุ่มอาคารรูปครึ่งวงกลมซึ่งรวมความเป็นสถาปัตยกรรมแบบสเปนที่เรียงต่อกันต่อกันเป็นแนวยาว
แต่ละซุ้มโค้งประตูมีตราประจำจังหวัดไล่เรียงตามตัวอักษร
ฝั่งตรงข้ามเป็นอุทยานมาเรีย ลุยซ่า ซึ่งเคยเป็นราชอุทยานที่ร่มรื่นงดงามตระการตาและแฝงความโรแมนติก
จากนั้นนำท่านเข้าชม มหาวิหารแห่งเมืองเซวิลญ่า
ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามรองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่กรุงโรม
และเซนต์ปอลที่ลอนดอน และใหญ่ที่สุดในสเปน สร้างด้วยศิลปะแบบโกธิค
ภายในตกแต่งได้อย่างวิจิตรตระการตา สร้างขึ้นแทนที่ตั้งของสุเหร่าเดิม
โดยต้องการให้ยิ่งใหญ่แบบไม่มีใครเทียบเทียมได้ ในห้องเก็บทรัพย์สมบัติล้ำค่า
มีทั้งภาพเขียน, เครื่องใช้ในพิธีของศาสนาที่ทำมาจากทองคำและเงินล้วนแต่ประเมินค่ามิได้
ตอนกลางโบสถ์จะมี สุสานของคริสโตเฟอร์
โคลัมบัส ซึ่งสร้างอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติยศ
ชมและถ่ายรูปกับ หอคอยฆีรัลดา
Giralda Tower หอศักดิ์สิทธิ์ฆีรัลดาแห่งนี้เป็นหอคอยที่สร้างขึ้นโดยชาวมุสลิมเป็นตึกทรงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสูง
93 เมตร ติดกันกับมหาวิหารเป็นลานส้มและน้ำพุเพื่อใช้ในพิธีชำระร่างกายของอิสลาม |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน
ณ ภัตตาคารอาหารจีน หลังอาหารนำท่านเดินทางเลียบเมืองชายทะเลริมฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกสู่
เมืองฟารู่ Faro (ระยะทาง
236 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง) เป็นเมืองศูนย์กลางการบริการจัดการของเขตอัลการวึ
ซึ่งเป็นเขตทางตอนใต้ของโปรตุเกส เมืองนี้เป็นอีกเมืองท่าของชาวมัวร์
ซึ่งต่อมาได้ถูกกษัตริย์ อฟองโซ ที่ 3 ครอบครองในปี
ค.ศ. 1249 จนถึง ค.ศ. 1596 ในช่วงสงครามครูเสด เอิร์ลแห่งซัสเซ็กซ์
ของอังกฤษได้เข้ามาครอบครองเมืองนี้ ให้ท่านได้ช้อปปิ้งใน
Outlet ขนาดใหญ่ของเมืองฟารู่ Jumbo Outlet ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการซื้อของฝากและเสื้อผ้าแบรนด์เนม
อาทิ Zara, Mango จากนั้นนำท่าน นั่งรถไฟชมเมือง
City Train เพื่อชมความงดงามของบ้านเรือนในเมืองฟารู่
พร้อมแวะให้ท่านได้ถ่ายรูปกับทัศนียภาพของเมืองที่ตั้งริมฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก |
เย็น |
บริการอาหารค่ำที่โรงแรม
(Sea Food) (พัก โรงแรม Faro Hotel หรือระดับ 4 ดาว) |
วันที่แปด
: ฟารู่ - ซาเกรส - ลิสบอน |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองซาเกรส
Sagres (ระยะทาง 91 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง
1.15 ชั่วโมง) เมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้สุดของทวีปยุโรป
โดยมีแหลมที่อยู่ริมสุดทวีปคือ แหลมเซ็นต์วินเซนต์
ซึ่งในศตวรรษที่ 15 เจ้าชายเฮนรี เดอะนาวิเกเตอร์
ได้ทรงจัดตั้งโรงเรียนเพื่อทำการสอนการออกเรือเดินทะเล
นำท่านชมประภาคารที่ตั้งอยู่ ณ ปลายแหลม คาร์โบเดอร์เซ็นต์วินเซนต์
Cabo De Saovicente ซึ่งเป็นประภาคารที่มีความสำคัญมาก
ตั้งแต่สมัยการเดินเรือของคริสโตเฟอร์โคลัมบัส วาสโกดากามา
และนักเดินเรือชื่อก้องโลกอีกหลายคน นำท่านเข้าชมป้อมปราการแห่งเมืองซาเกรส
Algarve Gortress ที่ตั้งตระหง่านบนหน้าผาริมฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวันที่ในโรงแรม
หลังอาหารนำท่านเดินทางผ่านเส้นทางมอเตอร์เวย์สายสำคัญที่จะได้เพลิดเพลินกับภาพชีวิตชนบท
ชาวไร่ ชาวสวน และป่าคอร์ค Cock ที่ใช้เปลือกทำจุกขวด
เข้าสู่ เมืองลิสบอน Lisbon
(ระยะทาง 270 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง)
เมืองหลวงของโปรตุเกสตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเตจู้ Tejo
ลินบอนเป็นเมืองที่มีประวัติยาวนานกว่า 800 ปี จึงมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ
แต่เคยประสบอุบัติเหตุแผ่นดินไหวในศตวรรษที่ 17 จึงทำให้อาคารเก่าแก่โบราณได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
ผู้นำคนสำคัญของเมืองในสมัยนั้น คือ มาร์คิส ดือ ปองปาล
Marquis De Pombal ได้เริ่มต้นบูรณะและจัดวางผังเมืองเมืองลิสบอนใหม่ให้ทันสมัยจึงได้เกิดการสร้างถนนและอาคารสมัยใหม่
กลายเป็นเมืองลิสบอนที่สวยงามมีเอกลักษณ์เป็นของตนเองจนถึงปัจจุบัน |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำที่ภัตตาคารอาหารจีน
(พักโรงแรม Hotel Acores Lisbon หรือระดับ 4 ดาว) |
วันที่เก้า
: หอคอยเบเล็ง - มหาวิหารเจอโรนิโม - ลิสบอน |
เช้า |
บริการอาหารเช้าที่โรงแรม
หลังอาหารนำท่านชม อนุสาวรีย์ดิสคัฟเวอรี่
สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1960 เพื่อฉลองครบ 500
ปี แห่งการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายเฮนรี่ เดอะเนวิเกเตอร์
นำท่านเข้าชม หอคอยเบเล็ง Belem
Tower เดิมสร้างไว้กลางน้ำเพื่อเป็นป้อมรักษาการณ์ดูแลการเดินเรือเข้าออก
เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินเรือออกไปสำรวจและค้นพบโลกของ
วาสโก ดากามา นักเดินเรือชาวโปรตุเกส และนำท่านชม
มหาวิหารเจอโรนิโม ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่
วาสโก ดากามา จัดเป็นผลงานอันเยี่ยมยอดของงานสถาปัตยกรรมที่เรียกกันว่ามานูเอลไลน์
Manueline ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 70 ปี และได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ว่าให้เป็น
มรดกโลก ลองชิมขนมทาร์ตคัสตาร์ด
Nata De Pastis ในร้านขนมเก่าแก่ที่ให้บริการมากว่าสองร้อยปี
ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ สนามบินลิสบอน |
14.10
น. |
ออกเดินทางจากลิสบอนสู่กรุงอิสตันบูล
โดยเที่ยวบินที่ TK 1760 (ใช้เวลาบิน 4.30 ชั่วโมง)
บริการอาหาร เครื่องดื่ม และพักผ่อนบนเครื่องบิน |
20.40
น. |
เดินทางมาถึง
กรุงอิสตันบูล แวะเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ |
23.40 |
ออกเดินทางกลับสู่
กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ TK 060 (ใช้เวลาบิน 9 ชั่วโมง) |
วันที่สิบ
: กรุงเทพมหานคร |
13.40
น. |
ถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
โดยสวัสดิภาพ |