|
|
|
|
|
ศรีลังกา |
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ศรีลังกา |
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ศรีลังกา |
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ |
ดอกบัวบูชา
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ เมืองอนุราธปุระ ศรีลังกา |
|
|
ก่อนเดินทาง : ข้อมูลทั่วไปประเทศศรีลังกา |
เมืองหลวงศรีลังกา กรุงโคลัมโบ
(Colombo)
ชื่อประเทศ สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา
วันสำคัญ วันชาติ 4 กุมภาพันธ์
ของทุกปี
เมืองสำคัญ เมืองแคนดี้
(Kandy)
ระบบการปกครอง ปกครองด้วยระบอบสาธารณรัฐภายใต้ประชาธิปไตยแบบรัฐสภา
โดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุขของรัฐและหัวหน้าฝ่ายบริหาร
ภูมิศาสตร์
- มีรูปร่างคล้ายลูกแพร์ ไข่มุก หรือหยดน้ำ มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ
54 ของโลก พื้นที่ 65,610 ตารางกิโลเมตร (เล็กกว่าไทย 8
เท่า)
ภูมิอากาศ เป็นแบบประเทศเขตร้อนชื้น
อุณหภูมิเฉลี่ย 27 องศาเซลเซียสตลอดปี
ประชากร ประชากร 20 ล้านคน
ภาษา ที่ใช้พูดกันคือ สิงหล
ทมิฬและอังกฤษ ภาษาทางราชการคือ สิงหล
ศาสนา ศาสนาพุทธ 69 เปอร์เซ็นต์
ฮินดู 15 เปอร์เซ็นต์ คริสต์ 8 เปอร์เซ็นต์ อิสลาม 8 เปอร์เซ็นต์
เวลา ช้ากว่าไทย 1.30 ชั่วโมง
เงินตรา ศรีลังการูปี (1
รูปี มี 100 เซ็นต์) ธนบัตรมีใบละ 10, 20, 50, 100, 200,
500 และ 1,000 คิดเป็นเงินไทยง่ายๆ 100 รูปี เท่ากับ 35
บาท
พอซอน ฮูดาวา (Poson Udawa)
เป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนมิถุนายน เป็นวันที่พระมหินท์แสดงธรรมให้กับพระจ้าเทวานัมปิยะติสสะที่มหินตาเล
ใกล้กับเมืองอนุราธปุระเป้นครั้งแรก มีประชาชนมาร่วมงานเป็นแสนคนทุกปี
เวลาทำงาน ราชการ 08.30
16.30 น. ร้านค้าส่วนใหญ่เปิด 10.00 18.00 น. ในวันจันทร์ถึงเสาร์
วันอาทิตย์เปิดถึง 14.00 น.
ธนาคาร เปิด 09.00 13.30
น. วันจันทร์ถึงศุกร์ ยกเว้น Seylan Bank เปิด 09.00 20.00
น. และวันเสาร์เปิด 09.00 11.00 น.
เทศกาลสำคัญ เพราเฮรา (Perahera)
หรือเทศกาลแห่งพระเขี้ยวแก้ว จัดขึ้นในเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคมของทุกปีเพื่อขอพรขอฝน
มีช้างร่วมขบวนกว่า 100 เชือก ประชาชนเดินพาเหรด 1,000 คน
เต้นรำ รำคบไฟ
ไฟฟ้า ระบบ 220-240 โวลต์
50 ไซเคิล ปลั๊กไฟเป็นแบบขากลม 3 ขา ควรมี Adapter ติดตัวไปด้วย
วีซ่า คนไทยเข้าศรีลังกาโดยไม่ต้องทำ
วีซ่า และสามารถอยู่ได้นานถึง 30 วัน รวมทั้งขอต่อ ได้ถึง
90 วัน
ศุลกากร อนุญาตให้นำเข้าเหล้าได้คนละไม่เกิน
2 ลิตร ไวน์ 2 ขวด บุหรี่ 200 มวน ซิการ์ 50 มวน น้ำหอมตามความเหมาะสม
หากมีเงินสดเกิน 10,000 USD
โทรศัพท์ อัตราค่าโทรศัพท์ทางไกลมีอัตราค่อนข้างแพง
หมายเลขโทรศัพท์ที่จำเป็น
ตำรวจ 01-433333
ดับเพลิง รถพยาบาล 01-422222
อุบัติเหตุช่วยเหลือ 01-691111
เวลาบินเครื่องบิน 073-2677 , 073-2377
ศูนย์นักท่องเที่ยว 01-437571 , 01-437059-60
ตรวจคนเข้าเมือง วีซ่า 01-597510-3
รถไฟ 01435838
แท็กซี่ 01-688688
การเดินทางไปศรีลังกา เดินทางโดยเครื่องบิน
มี 5 สายการบิน บินจากกรุงเทพฯไปยังกรุงโคลัมโบ วันละ 2
5 เที่ยวบิน คือ การบินไทย สิงคโปร์แอร์ไลน์ส มาเลเซียนแอร์ไลน์ส
คาเธ่ย์แปซิฟิค ศรีลังกาแอร์ไลน์ส ใช้เวลาบินประมาณ 3 ชั่วโมง |
วันที่ 1 : กรุงเทพฯ
- โคลัมโบ - เมืองเนคอมโบ |
21.00
น. ออกเดินทางสู่ นครโคลัมโบ
โดยสายการบิน SRI LANKAN AIRLINES |
22.50
น. ถึง สนามบินดารานายเก ออกเดินทางต่อไปยัง
เมืองเนคอมโบ เข้าพักโรงแรม
CLUB DOLPHIN HOTEL (เวลาท้องถิ่นของศรีลังกาช้ากว่าประเทศไทยประมาณ
1.30 ชั่วโมง) |
เครื่องบินศรีลังกา |
อาหารบนเครื่อง |
สนามบินดารานายเก ศรีลังกา |
แลกเงินสนามบินดารานายเก |
โรงแรมศรีลังกาเมืองเนคอมโบ |
โรงแรมศรีลังกาเมืองเนคอมโบ
|
โรงแรมศรีลังกาเมืองเนคอมโบ |
โรงแรมศรีลังกาเมืองเนคอมโบ
|
วันที่ 2 : เมืองเนคอมโบ - เมืองอนุราธปุระ
เจดีย์รุวันเวลิชายะ เจดีย์ถูปาราม เจดีย์เชตวัน เจดีย์อภัยคีรี |
หลังจากตื่นเช้ามาชมบรรยากาศชายทะเลหน้าที่พัก
CLUB DOLPHIN HOTEL |
ห้องอาหารโรงแรมศรีลังกา |
ห้องอาหารโรงแรมศรีลังกา |
โรงแรมศรีลังกาเมืองเนคอมโบ |
โรงแรมศรีลังกาเมืองเนคอมโบ |
จบรายการอาหารเช้า
ก็เดินทางสู่ เมืองอนุราธปุระ (เมืองมรดกโลก)
นครหลวงแห่งแรกของศรีลังกา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง |
เดินทางสู่เมืองอนุราธปุระ |
แวะพักระหว่างทาง |
แวะพักระหว่างทาง |
วัดอิสุรุมุณิยะ ศรีลังกา |
แวะพักระหว่างทาง
เส้นทางสู่เมืองอนุราธปุระ |
|
|
แวะพักระหว่างทาง
เส้นทางสู่เมืองอนุราธปุระ ศรีลังกา |
|
|
ถึง
เมืองอนุราธปุระ แวะทานอาหารกลางวันกันที่โรงแรม
สำหรับรายการเที่ยวศรีลังกาภาคบ่าย เที่ยวชมเมืองมรดกโลก
เมืองเก่าอนุราธปุระ เมืองหลวงแห่งแรกของศรีลังกา
เที่ยว วัดอิสุรุมุณิยะ วัดที่สร้างโดยสร้างโดยพระเจ้าเทวานัมปิยติสสะซึ่งเป็นพระสหายของพระเจ้าอโศกมหาราช
เมื่อ 2 พันกว่าปีมาแล้ว ภายในวัดมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆที่จัดเก็บรูปประติมากรรมต่างๆเอาไว้
ชม รูปสลักหินคู่รัก The Lover
ซึ่งเป็นรูปแห่งตำนานรักของเจ้าชายสาลิยะ พระราชโอรสของพระเจ้าทุฎฐคามณี
ที่ทรงสละราชบังลังก์เพราะความรักที่มีต่อหญิงในวรรณะต่ำและเป็นรูปที่รัฐบาลศรีลังกาได้นำไปตีพิมพ์เป็นดวงตราไปรษณีย์มาแล้ว
จากนั้นก็มานมัสการ ต้นพระศรีมหาโพธิ์
ที่นำกิ่งมาจากพุทธคยา ประเทศอินเดีย เพราะเชื่อกันว่าพระนางเถรีสังฆมิตตา
พระราชธิกาของพระเจ้าอโศกมหาราชทรงผนวชเป็นภิกษุณี เป็นผู้นำหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นนี้มาจากพุทธคยา
ประเทศอินเดีย มาปลูกไว้ที่เมืองอนุราชปุระ ในปีพ.ศ. 235
จากนั้นก็มาเที่ยวชม เมืองเก่าอนุราธปุระ
นมัสการ เจดีย์รุวันเวลิ หรือ สุวรรณมาลิกเจดีย์
เป็นเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ มีขนาดกว้าง 100 เมตร สูง
100 เมตร และนมัสการ เจดีย์ถูปาราม
เป็นเจดีย์ทางพุทธศาสนาองค์แรกที่สร้างขึ้นในเกาะลังกา โดยพระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ
ทรงสร้างขึ้นในราว พ.ศ. 300 และเป็นที่ประดิษฐานพระรากขวัญเบื้องขวา
(กระดูกไหปลาร้า) ซึ่งมีอยู่แห่งเดียวในโลก นมัสการ เจดีย์เชตวัน
เป็นพระเจดีย์องค์ใหญ่สร้างด้วยอิฐทั้งองค์ สร้างในสมัยพระเจ้ามหาเสนะ
ครองราช พ.ศ. 819 846 เป็นเจดีย์ มีความสูง 122 เมตร และชม
เจดีย์อภัยคีรี เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่และมีความสำคัญมาก
ตั้งอยู่ในวัดอภัยคีรีวิหาร สร้างโดยพระเจ้าวัฏฏคามณีอภัย
เมื่อราว 2,100 ปีมาแล้ว สูง 113 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง
110 เมตร |
วัดอิสุรุมุณิยะ ศรีลังกา |
เจดีย์รุวันเวลิ ศรีลังกา |
รอบเจดีย์รุวันเวลิ ศรีลังกา |
โลหะปราสาท เมืองอนุราธปุระ
|
เจดีย์ถูปาราม เมืองอนุราธปุระ |
มูนสโตน เมืองเก่าอนุราธปุระ |
อ่างเก็บน้ำติสสะ ศรีลังกา |
เจดีย์อภัยคีรี เมืองอนุราธปุระ
|
วัดอิสุรุมุณิยะ
เมืองอนุราธปุระ ศรีลังกา |
|
|
รูปสลักหินคู่รัก
The Lover วัดอิสุรุมุณิยะ
เมืองอนุราธปุระ ศรีลังกา |
|
|
ต้นพระศรีมหาโพธิ์
เมืองอนุราธปุระ ศรีลังกา |
|
|
ต้นพระศรีมหาโพธิ์
เมืองอนุราธปุระ ศรีลังกา |
|
|
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ศรีลังกา |
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ศรีลังกา
|
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ศรีลังกา
|
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ศรีลังกา
|
เจดีย์รุวันเวลิ
เมืองเก่าอนุราธปุระ ประเทศศรีลังกา |
|
|
เจดีย์ถูปาราม
เมืองเก่าอนุราธปุระ ประเทศศรีลังกา |
|
|
เจดีย์ถูปาราม ศรีลังกา |
โลหะปราสาท เมืองอนุราธปุระ |
เมืองอนุราธปุระ ศรีลังกา |
เจดีย์รุวันเวลิ เมืองอนุราธปุระ |
เที่ยวเมืองเก่า "อนุราธปุระ มรดกโลกศรีลังกา"
อนุราธปุระ (Anuradhapura)
ราชธานีแห่งแรกของศรีลังกา อยู่ทางตอนเหนือของประเทศห่างจากกรุงโคลอมโบ
206 กิโลเมตร ในปีพุทธศักราชที่ 1 พระเจ้าวิชัยจากแคว้นคุชราต
ประเทศอินเดียได้แผ่อาณาเขตครองแผ่นดินศรีลังกาเป็นครั้งแรกที่เมืองตัมพปัณณิ
ทรงรวบรวมแว่นแคว้นน้อยใหญ่ ส่งอำมาตย์อนุราธและปุโรหิตอุปติสสะ
ไปสร้างเมืองอันมีชื่อเดียวกับท่านทั้งสองคืออนุราธคาม และอุปติสสคาม
พระเจ้าวิชัยทรงครองราชย์ได้ไม่นานก็สิ้นรัชกาล แต่เนื่องจากพระองค์ไม่มีพระโอรสสืบทอด
อุปติสสะจึงสถาปนาตนเองขึ้นเป็นกษัตริย์ และต่อมาได้อัญเชิญ
เจ้าชายปัณฑุวาสุเทพ ราชนัดดาในพระเจ้าวิชัยขึ้นครองราชย์สืบต่อ
ณ เมืองอุปติสสคาม
ครั้นถึงรัชกาลที่ 5 พระเจ้าปัณฑุกาภัย ทรงเลือกเอาเมืองอนุราธปุระขึ้นเป็นราชธานีและสร้างความรุ่งเรืองต่อเนื่องยาวนานถึง
1,500 ปี กษัตริย์ทุกพระองค์ทรงตั้งพระทัยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาควบคู่ไปกับการสร้างเมืองเสมือนดังบรมราชานุสรณ์
ด้วยเหตุนี้อนุราธปุระจึงได้ชื่อว่า เป็นพิพิธภัณฑ์ของพระมหาเจดีย์และปราสาทราชวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
พระศรีมหาโพธิ์ ต้นไม้แทนการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
พระนางสังฆมิตตาเถรี พระราชธิดาของพระเจ้าอโศกมหาราช นำกิ่งต้นโพธิ์ซึ่งตอนมาจากต้นโพธิ์ที่พุทธคยา
สถานที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ในประเทศอินเดีย นำมาถวายพระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ
และทรงปลูกในสวนเมฆวัน นับแต่นั้นมาอาณาบริเวณนี้ได้รับการยกย่องเป็นแผ่นดินแห่งความศักดิ์สิทธิ์และมีคุณค่าต่อชีวิตชาวศรีลังกาเป็นต้นมา
พระศรีมหาโพธิ์อยู่สูงจากพื้นดินขึ้นไป 9 ศอก มีกำแพงล้อมถึง
4 ชั้น มีเจ้าหน้าที่ในชุดขาวผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเพื่ออารักขา
มิให้เกิดเหตุเหมือนเช่นที่เคยเกิดในพุทธคยา ชั้นในสุดล้อมด้วยลูกกรงทองคำ
344 ต้น ด้วยเหตุที่เป็นต้นไม้อายุยืนที่สุดในโลกถึง 2,000
กว่าปี ได้รับการดูแลอย่างดีจากผู้เชี่ยวชาญ มีเสาเหล็กค้ำไว้ถึง
3 ต้น เพื่อกันกิ่งห้อยตกหรือฉีกขาดอันอาจเป็นอันตรายถึงลำต้น
เดิมเชื่อว่าปลูกในพื้นราบและต่อมาได้นำดินถมจนสูงกว่าบริเวณใกล้เคียงถึง
9 ศอก คาดว่าส่วนที่โผล่พ้นดินคือส่วนกลางของลำต้น แต่ไม่มีใครกล้าขุดพิสูจน์เพราะเกรงกระทบกระเทือน
บริเวณโดยรอบมีต้นโพธิ์น้อยใหญ่เรียงรายลดหลั่นกันไปนับได้
45 ต้น อันมีที่มาจากต้นดั้งเดิมนั่นเอง ในอดีตเคยมีการเพาะแจกจ่ายที่อัญเชิญมาบ้านเราเห็นได้แก่ที่วัดโพธิ์
วัดมหาธาตุ-ท่าพระจันทร์ วัดสระเกศ และที่วัดอัปสรสวรรค์
หากในปัจจุบันถูกควบคุมห้ามนำออกเว้นเสียแต่ได้รับอนุญาตจากกรมพฤกษาศาสตร์ของศรีลังกาเท่านั้น
ส่วนรูปปูนปั้นในตู้กระจกด้านหน้าทางเข้า ถ่ายทอดความเป็นมาของหน่อโพธิ์
พระนางสังฆมิตตาเถรีผู้ทรงเลื่อมใสศรัทธา เสด็จออกผนวช และทรงบำเพ็ญเพียรจนได้เป็นพระอรหันต์ในที่สุด
พระมหาเจดีย์รุวันเวลิ (Ruvanvalisaya
Dagaba) หรือที่คนไทยรู้จักอีกชื่อว่า พระมหาเจดีย์สุวรรณมาลิก
สร้างขึ้นในปี พ.ศ.382-406 สถูปสีขาวสูงใหญ่ถึง 300 ฟุต
เส้นรอบวง 942 ฟุต สร้างในรัชสมัยพระเจ้าทุฏฐคามณีกษัตริย์องค์ที่
14 ของศรีลังกา ซึ่งภายในมีรูปปั้นยืนพนมมืออยู่ในซุ้มประตูเชื่อกันว่าเป็นพระราชานุสาวรีย์ของพระองค์
บริเวณรอบกำแพงฐานพระเจดีย์มีประติมากรรมรูปช้าง 336 เชือก
หันหน้าออกรอบองค์เจดีย์ พระมหาเจดีย์รุวันเวลิ สร้างขึ้นเพื่อฉลองชัยชนะที่มีต่อพระยาเอฬทมิฬ
ออกแบบก่อสร้างโดยพระอินทคุตตะ ซึ่งเป็นพระอรหันต์ในครั้งพุทธกาล
ตามตำนานเล่าว่าได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพุทธองค์ไว้ในมหาสถูปแห่งนี้ด้วย
พระมหาเจดีย์อภัยคีรี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า
อะเบกิริยา สถูปแห่งนี้สร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ.454 โดยพระเจ้าคชพาหุ
เคยมีพระสงฆ์จำพรรษาถึง 1,500 รูป ความสูงเดิม 370 ฟุต (113
เมตร) ปัจจุบันส่วนปลายยอดหักทำลายไปบางส่วน องค์พระวิหารนั้นสร้างโดยพระเจ้าวัฏฏคามณีอภัย
ถวายแด่พระติสสะมหาเถระ มีเรื่องเล่าถึงสาเหตุเพื่อระลึกเมื่อครั้งที่พระองค์ทรงเพลี่ยงพล้ำแก่ข้าศึกล่าทัพมาถึงบริเวณนี้
แต่ได้สติจากพระภิกษุรูปหนึ่ง จึงเกิดมานะเข้ารบอีกครั้งจนได้ชัยชนะ
ส่วนองค์พระเจดีย์ได้รับการบูรณะอยู่แต่ยังไม่เสร็จ ชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลาซึ่งยาวนาน
2,000 กว่าปี
ถูปารามเจดีย์ (Thuparamaya) เจดีย์แห่งแรกของศรีลังกา
เป็นเจดีย์ขนาดเล็กและเก่าแก่ที่สุด สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ
ผู้ทรงเลื่อมใสในพุทธศาสนาและเป็นองค์อุปถัมภ์ ความสำคัญของเจดีย์นี้สร้างเพื่อบรรจุพระบรมธาตุรากขวัญ
(กระดูกไหปลาร้า) ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและเป็นสถานที่ทำสังคายนาครั้งแรกของศรีลังกาหรือเป็นครั้งที่
4 ของโลกในปี พ.ศ. 236 มีพระมหินทเถระ เป็นประธานและเหล่าพระภิกษุสงฆ์ซึ่งสำเร็จเป็นพระอรหันต์มากถึง
68,000 องค์เข้าร่วมสังคายนา ต่อมาได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์อีก
2 ครั้งคือระหว่างปี พ.ศ. 424-434 โดยพระเจ้าลัญชติสสะ และปี
พ.ศ. 1151-1161 โดยพระเจ้าอัคโพธิ ที่ 2
พระมหาเจดีย์เชตวัน (Jetavana Dagaba)
สร้างขึ้นโดยพระเจ้ามหาเสนะ (พ.ศ. 819-846) ด้านหน้าประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์อยู่ภายในห้องกระจก
อวุกนะ (Awukana) พุทธสถานแห่งนี้สร้างขึ้นในราวปี
พ.ศ. 1043 พระพุทธรูปทรงยืน พระหัตถ์ขวาแนบลำตัวพระหัตถ์ซ้ายตั้งขึ้นโดยตั้งสันพระกรซึ่งต่างกับที่เราเคยเห็นส่วนใหญ่
ตัวองค์พระนั้นสูงใหญ่ถึง 30 เมตร สร้างขึ้นจากหินบนเขา
ซึ่งคำว่า อวุกนะ นั้นแปลว่า สุดของหิน พระพุทธรูปองค์นี้จึงสลักจากส่วนปลายสุดของเขาหิน
รูปสลักหินคู่รัก The Lover
วัดอิสุรุมุณิยะ สันนิษฐานว่าเป็นภาพสลักแสดงเรื่องราวของเจ้าชายสาลิยะ
(Sallya) โอรสของพระเจ้าทุฏฐคามณี (พ.ศ. 382-406) ทรงสละราชบัลลังก์ด้วยไม่อาจตัดความรักที่มีต่อหญิงวรรณะต่ำ |
เมืองเก่าอนุราธปุระ
ประเทศศรีลังกา |
|
|
เจดีย์อภัยคีรี
เมืองเก่าอนุราธปุระ ประเทศศรีลังกา |
|
|
อ่างเก็บน้ำติสสะ ศรีลังกา |
อ่างเก็บน้ำติสสะ ศรีลังกา |
อ่างเก็บน้ำติสสะ ศรีลังกา |
เจดีย์อภัยคีรี เมืองอนุราธปุระ |
เจดีย์อภัยคีรี เมืองอนุราธปุระ |
เจดีย์อภัยคีรี เมืองอนุราธปุระ |
เที่ยวเมืองเก่าอนุราธปุระ |
อภัยคีรีเจดีย์ ศรีลังกา |
ห้องนอนที่โรงแรมเมืองอนุราธปุระ |
โรงแรมศรีลังกา
เมืองอนุราธปุระ ศรีลังกา |
|
|
โรงแรมเมืองอนุราธปุระ |
โรงแรมเมืองอนุราธปุระ |
โรงแรมเมืองอนุราธปุระ |
โรงแรมเมืองอนุราธปุระ |
|