ชาชักสตูล |
ท่าเรือปากบารา |
เดินทางสู่เกาะตะรุเตา |
เกาะตะรุเตา |
เกาะตะรุเตา |
เกาะตะรุเตา |
หมู่เกาะตะรุเตา |
หมู่เกาะตะรุเตา |
สตูลโรแมนติกกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย |
|
|
คลิป
ชาชัก สตูล ... สตูลโรแมนติกกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย |
|
|
เที่ยวสตูล แสนสุขใจ : ป่าสวย ทะเลใส หลากหลายวัฒนธรรม
เมืองสตูล..เมืองพระและอิสลาม
มัสยิดมำบัง : ศาสนสถานคู่เมืองสตูลที่มีอยู่ด้วยกันหลายแห่งตามความเชื่อและความศรัทธา
โดยมีศาสนสถานที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นก่อสร้างในรูปแบบของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่สีขาวงดงามตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบหินอ่อน
และมียอดเสาโดมสูงตระหง่านตรงใจกลางเมือง เป็นสถานที่สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของประชาชนส่วนใหญ่ที่นับถือศาสนาอิสลาม
วัดชนาธิปเฉลิม : เป็นวัดที่เป็นศูนย์รวมน้ำใจชาวพุทธศาสนาอยู่เคียงคู่จังหวัดสตูลมานานกว่า
100 ปี สตูลยังมีชุมชนชาวจีนและคริสต์ศาสนิกชนอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขมายาวนาน
การเดินทาง : มัสยิดมำบังและวัดชนาธิปเฉลิม อยู่ตรงใจกลางเมืองสตูล
สามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวก
สุขใจเมื่อได้ชิม
ลีลา..ชักชา ที่ร้าน..ชาชัก
เตย์ ตาเระ Tea Tarik เป็นอีกชื่อหนึ่งที่หมายความว่า ชาชัก
ซึ่งเป็นที่มาของชักชาในคาบสมุทรมลายู ซึ่งไม่ทราบแน่ชัดว่าก่อกำเนิดมาจากประเทศใด
แต่เป็นที่นิยมในประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซียและภาคใต้ของไทย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดสตูล ที่มีร้านชาชักชื่อดังหลายแห่ง
ซึ่งมีกระบวนการการชงชาที่แตกต่างจากที่อื่นๆ
การดื่มชาถือเป็นเรื่องสำคัญและมีความละเอียดอ่อน เกี่ยวข้องโยงใยกับประเพณีและวัฒนธรรมของมนุษย์ในหลากหลายเชื้อชาติ
จนบางประเทศถือว่า การชงชาเป็นประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ ปัจจุบัน
ชาเป็นที่นิยมดื่มควบคู่กับการดื่มกาแฟ หรือเครื่องดื่มอื่นๆ
วิธีการชงชาจะใส่ส่วนผสมลงในกระบอกชงชา ซึ่งมีอยู่ 2 กระบอก
แล้วเทกลับไปกลับมาระหว่างกระบอกในเมือซ้ายและขวา ผสมกับการโชว์ลีลาการเทชาจากที่สูงลงที่ต่ำอย่างไม่ขาดสาย
จนได้ที่เนื้อชาจะเข้ากันดีและมีกลิ่นหอมกรุ่นจึงจะเทใส่แก้วเสิรฟพร้อมโรตี
ไปกินโรตี
ที่นี่..สตูล
โรตี เป็นอาหารยอดฮิตที่สามารถกินได้ทุกมื้ออาหาร
ทั้งเช้า สาย บ่าย ค่ำ ด้วยกลิ่นอายความนุ่มชุ่มฉ่ำของเนื้อแป้งที่นวดเคล้าเข้าด้วยกัน
ตามสูตรห่อหุ้มด้วยแผ่นแป้งหอมกรุ่นคลุกเคล้ากลิ่นเนยหวานละมุนชวนรับประทาน
มีหลากหลายเวอร์ชั่นให้เลือกสรรชิม เช่น โรตีมะตะบะ โรตีตบ
โรตีกล้วยหอม โรตีทิชชู และอีกเยอะแยะมากมาย
แหล่งรับประทานโรตีสตูล : เช้า-เที่ยง ร้านอาชิป ไรตี ถ.บุรีวานิช,
เย็น-ดึก ร้านกัมปงและร้านขอบคุณ ถ.ตำมะหงอุทิศ อ.เมือง จ.สตูล
ขนมบุหงา..เมื่อบุหงาไม่ได้เป็นเพียงชื่อของดอกไม้
เมื่อพูดถึงบุหงา หลายท่านจะนึกถึงดอกไม้ แต่สำหรับที่สตูลแล้ว
บุหงาถูกนำมาตั้งเป็นชื่อของขนมหวานชนิดหนึ่ง หาลิ้มลองได้เฉพาะที่จังหวัดสตูลที่เดียว
มีชื่อเต็มๆ ว่า บุหงาบุดะ เป็นขนมที่มีไส้ทำจากมะพร้าวอ่อน
ห่อหุ้มด้วยเนื้อแป้งชั้นดีสีสันธรรมชาติหลากหลายรสชาติหวานหอม
กรอบ มัน
แหล่งรับประทาน : ร้านขายขนมพื้นเมืองทั่วไปในจังหวัดสตูล |
คลิป
อาหารพื้นบ้านสตูล ... สตูลโรแมนติกกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย |
|
|
สตูลโรแมนติกที่หมู่เกาะตะรุเตา |
|
|
สตูลโรแมนติกที่หมู่เกาะตะรุเตา |
|
|
สตูลโรแมนติกที่หมู่เกาะตะรุเตา |
|
|
สตูลโรแมนติกที่หมู่เกาะตะรุเตา |
|
|
สตูลโรแมนติกที่หมู่เกาะตะรุเตา |
|
|
คลิป
เกาะตะรุเตา สตูลโรแมนติกที่หมู่เกาะตะรุเตา |
|
|
ตะรุเตา : ดินแดนมหัศจรรย์ อ่าวมากมาย..ในแดนนักโทษ
เมื่อเอ่ยชื่อถึงตะรุเตาขึ้นมาหลายคนคงรู้จัก แต่จะมีใครสักกี่คนจะรู้ว่า
ตะรุเตาเป็นมากกว่าเกาะๆ หนึ่งในน่านน้ำอันดามัน ที่น่าค้นหาติดตามอีกมากมาย
โดยที่มาของคำว่า ตะรุเตา นั้น เพี้ยนมาจากคำว่า ตะโละเตรา
ในภาษามลายู ซึ่งแปลว่า อ่าวมาก มีประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำ
ลองนึกย้อนหลังไปเมื่อปี พ.ศ. 2439 รัฐบาลมีนโยบายให้กรมราชทัณฑ์จัดหาสถานที่กักกันนักโทษ
เกาะตะรุเตาซึ่งอยู่ห่างจากฝั่งเต็มไปด้วยปัจจัยทางธรรมชาติที่เป็นอุปสรรคต่อการหลบหนี
ได้ถูกกำหนดเป็นสถานที่จัดตั้งนิคมดังกล่าว ในปี พ.ศ. 2481
นักโทษชุดแรกจำนวน 500 คน ก็ได้เดินทางมายังตะรุเตา และได้ทยอยเข้ามาอีกเรื่อยๆ
จนมีนักโทษเพิ่มสูงสุด 3,000 คน
ในช่วงปี พ.ศ. 2482 รัฐบาลได้ส่งนักโทษการเมือง 70 คน ซึ่งเป็นกลุ่มนักโทษจากเหตุการณ์กบฎบวรเดช
และกบฎนายสิบ มากักบริเวณอยู่ที่อ่าวตะโละอุดัง ในปีพ.ศ. 2484
สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่อุบัติขึ้น ได้ส่งผลกระทบต่อนิคมฝึกอาชีพตะรุเตา
เนื่องจากภาวะขาดแคลนอาหารและยารักษาโรค นักโทษเจ็บป่วย ล้มตายกันเป็นจำนวนมาก
ผู้คุ้มและนักโทษจำนวนหนึ่งจึงได้ออกปล้นสะดมเรือสินค้าที่ผ่านไปผ่านมาในน่านน้ำบริเวณช่องแคบมะละกา
จนำทำให้เรือสินค้าไม่กล้าล่องเรือผ่านมาในบริเวณนั้น
ต่อมาในปี พ.ศ. 2489 รัฐบาลอังกฤษได้อนุญาตจากรัฐบาลไทย
ในการส่งกองกำลังเข้าปราบปรามโจรสลัดตะรุเตาจนสำเร็จ ต่อมา
กรมราชทัณฑ์ได้ประกาศยกเลิกนิคมฝึกอาชีพตะรุเตา และหลังจากนั้น
เกาะตะรุเตาก็ถูกทิ้งร้างเป็นเวลา 26 ปี จนกระทั่งวันที่ 19
เมษายน 2517 กรมป่าไม้ในจัดประกาศจัดตั้งอุทยานแห่งชาติตะรุเตาขึ้น
โดยนับเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกของประเทศไทยที่ได้รับการคัดเลือกจากองค์กรยูเนสโกให้เป็นมรดกแห่งอาเซียน
ลัดเลาะสู่อ่าวน้อยใหญ่แห่งตะรุตา
อ่าวสารภี : แหล่งวางไข่ของเต่าทะเล
ด้วยเหตุผลที่ว่า อ่าวเล็กๆ แห่งนี้มีต้นสารภีเป็นจำนวนมากตามธรรมชาติ
จึงเรียกชื่อตามพันธุ์ไม้ที่พบเห็น การไปถึงอ่าวสารภีจะต้องพายเรือแคนูจากชายหาดหน้าเกาะตรงที่ทำการอุทยานแห่งชาติไปทางทิศเหนือประมาณ
10 นาที ก็เดินทางถึงแล้ว
อ่าวพันเตมะละกา : เป็นหาดทรายขาวสะอาด
เม็ดทรายละเอียดมากที่สุด ดุจแป้ง ส่งเสียงเอี๊ยดๆ ทุกครั้งยามย่ำเท้า
มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว จุดลงทะเบียนเข้าพักและร้านอาหาร
ส่วนหนึ่งจัดเป็นนิทรรศการเกี่ยวกับเรื่องของธรรมชาติ และประวัติศาสตร์ของเกาะตะรุเตามีศาลเจ้าพ่อตะรุเตาและรูปหล่อรัชกาลที่
5 พระพักตร์หันสู่ทะเลกว้าง อ่าวพันเตมะละกายังเป็นสถานที่พักแรมและจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม
จุดชมวิวผาโต๊ะบู : ที่นี่จะมองเห็นเกาะน้อยใหญ่ในน่านน้ำ
2 ประเทศ ไทย-มาเลเซีย ถ้าใครที่พลาดูหรือยังไม่เคยมาท่องเที่ยวที่เกาะสวาทหาดสวรรค์แห่งนี้
ก็ไม่ควรพลาดช็อตเด็ดๆ เหล่านี้ไปได้เลยทีเดียว
ตะรุเตา..รักเราไม่เก่าเลย
สำหรับผู้รักการเดินทางแล้ว บรรยากาศที่นี่ไม่ว่าจะมากี่ทีกี่ครั้ง
ก็มีแต่ความประทับใจ ยิ่งมาก็ยิ่งมีแต่ความสวยงามแปลกกใหม่อยู่เสมอๆ
บรรยากาศที่นี่แสนจะโรแมนติกมากๆเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
หากได้ลัดเลาะไปทางตอนใต้ของเกาะซึ่งปัจจุบันได้มีการตัดถนนคอนกรีตสู่จุดสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น
นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมกับธรรมชาติของเกาะตะรุเตาได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น
อ่าวจาก : เป็นมุมอ่าวสงบโอบล้อมด้วยภูผาสามด้าน
ส่วนด้านหน้าของอ่าวนั้นเปิดกว้างสู่ทะเลอันดามันความยาวเกือบ
2 กิโลเมตร เหมาะสำหรับการพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง
อ่าวมะขาม : ด้านหลังถัดไปจากขุนเขาเหมาะแก่การเดินป่า
ศึกษาธรรมชาติของนักผจญภัยทั้งหลาย
อ่าวเมาะและ : อ่าวที่มีความเป็นส่วนตัว
เหมาะแก่การพักผ่อน บรรยากาศปลอดโปร่งไม่แพ้เกาะส่วนตัวของคนดังหลายๆ
คน มีหาดทรายขาวสะอาด และดงมะพร้าวร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อนและคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว
เพื่อหลีกหนีความวุ่นวายมาหาความสงบ ขนาดเบ็คแฮม หรือไทเกอร์วูดคงคิดเสียดายเลยทีเดียวที่ยังไม่มีโอกาสมาสัมผัสเกาะแห่งนี้
ที่สำคัญ ถึงแม้ว่า จะเป็นพื้นที่บนอุทยานแห่งชาติ แต่ก็ยังมีบังกะโลเล็กๆ
กะทัดรัดสะอาดและดูดีให้เลือกพักประมาณ 10 หลัง ห้องพัก 20
ห้อง นักท่องเที่ยวไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารการกิน เพราะที่นี่จะมีร้านอาหารขนาดพอเหมาะ
ตกแต่งจากวัสดุธรรมชาติให้กลมกลืนกับบรรยากาศไว้บริการนักท่องเที่ยว
อ่าวสน : มีลักษณะเป็นรูปโค้งมีหาดทรายสลับกับหาดหินที่น่ามหัศจรรย์มากๆ
ว่ากันว่าเขาหินปูนที่นี่อายุประมาณ 700 ล้านปี มีจุดกางเต็นท์และจุดบริการอาหารพร้อมเครื่องดื่ม
มีน้ำตกขนาดเล็กๆ คือ น้ำตกลูดู และ น้ำตกโล๊ะโป๊ะ ไหลลาดลงสู่ทะเลและที่แห่งนี้เอง
เป็นสถานที่ปิดเล่มของผู้เขียนดิกชันนารีชื่อดังอย่าง ส.เสถบุตร
อ่าวตะโละวาว : อ่าวสุดท้ายเป็นความโหดแห่งคุกเก่าซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะ
เป็นจุดที่สามารถชมดวงอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามอีกมุมหนึ่ง เป็นที่ตั้งของหน่วยอุทยานพิทักษ์อุทยานฯ
(ตะโละวาว) พื้นที่ประวัติศาสตร์แห่งนี้เคยเป็นสถานที่ตั้งอาณานิคมฝึกอาชีพ
สำหรับนักโทษกักกันและนักโทษอุกฉกรรจ์ ปัจจุบันทางอุทยานฯ
ได้จำลองอาคารสถานที่ที่เคยอยู่ในนิคมฝึกอาชีพ เช่นบ้านพักของผู้คุม
เรือนนอนของนักโทษ โรงฝึกอาชีพ หลุมศพ 700 ศพ ไว้ในบริเวณดังกล่าว
เปิดเป็นเส้นทางเดินชมศึกษาธรรมชาติ เส้นทางย้อนรอยประวัติศาสตร์
และยังมีผลงานที่เกี่ยวกับบุคคลชื่อดังอีกท่านหนึ่งคือ นักเขียนนวนิยาย
The Pirate of Tarutao ผลงาน ท่านปองพล อดิเรกสาร นั่นเอง
กิจกรรมแสนสุขใจบนเกาะตะรุเตา
: ดำน้ำดูปะการังและชมฝูงปลาหลากสีสันที่อ่าวสน เดินทอดน่อง
ส่องนก (ฝูงนกเงือกหรือนกกระอังที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติบนเกาะ)
ปั่นจักรยาน ปีนผาโต๊ะบู ล่องเรือลัดเลาะสู่ถ้ำจระเข้ พายแคนู
นั่งรถบรรทุกดัดแปลงสู่เส้นทางตัดใหม่ตอนปลายเกาะ เดินป่าศึกษาธรรมชาติและเส้นทางย้อนรอยประวัติศาสตร์เกาะตะรุเตา
ส่องสัตว์ยามค่ำคืน
ที่พักบนเกาะตะรุเตา : เป็นบังกะโลริมหาดที่หรูหราเกือบที่สุดในบรรดาบ้านพักในอุทยานทั้งหมด
สะอาดและบรรยากาศดีท่ามกลางการโอบล้อมของผืนป่าและเสียงขับกล่อมของเกลียวคลื่น
และสำหรับผู้ชื่นชอบธรรมชาติก็สามารถกางเต็นท์ได้
การเดินทาง : มีเรือออกจากท่าเรือปากบารา
อ.ละงู จ.สตูล ทุกวันในฤดูท่องเที่ยว (พฤศจิกายน-พฤษภาคม) |
สตูลโรแมนติกที่หมู่เกาะตะรุเตา |
|
|
สตูลโรแมนติกที่หมู่เกาะตะรุเตา |
|
|
สตูลโรแมนติกที่หมู่เกาะตะรุเตา |
|
|
สตูลโรแมนติกที่หมู่เกาะตะรุเตา |
|
|
สตูลโรแมนติกที่หมู่เกาะตะรุเตา |
|
|
สตูลโรแมนติกที่หมู่เกาะตะรุเตา |
|
|
สตูลโรแมนติกที่หมู่เกาะตะรุเตา |
|
|
เกาะหลีเป๊ะ
สตูลโรแมนติกที่หมู่เกาะตะรุเตา |
|
|
เกาะราวี
สตูลโรแมนติกที่หมู่เกาะตะรุเตา |
|
|
เกาะฝาแฝด..อาดัง ราวี
หมู่เกาะอาดัง-ราวี อยู่ห่างจากตะรุเตาไปทางตะวันตกเฉียงใต้
40 กิโลเมตร หรือห่างจากตัวจังหวัดสตูล 60 กิโลเมตร หมู่เกาะอาดัง-ราวี
นอกจากจะประกอบด้วยเกาะอาดังและเกาะราวี ซึ่งเป็นชื่อของหมู่เกาะแล้ว
ยังมีเกาะบริวานน้อยใหญ่ เช่น เกาะหลีเป๊ะ เกาะหินงาม เกาะยาง
เกาะดง เกาะหินซ้อม และเกาะจาบัง ซึ่งทุกเกาะที่นี่ล้วนแล้วสมบูรณ์ไปด้วยปะการังหลากสีสันให้สุขใจเมื่อได้ไปเยือน
ฉะนั้น หากจะหาจุดดำน้ำดูปะการังที่โด่งดังที่สุดคงไม่พลาดที่ต้องไป
ร่องน้ำจาบัง ที่มปะการังประเภทดอกไม้ทะเลหลากสีสันมากกว่า
7 สีสร้างความประทับใจอย่างไม่รู้ลืมให้ใครต่อใครหลายคนมาแล้ว
ส่วนของเกาะอาดังเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติตะรุเตา
(แหลมสน-เกาะอาดัง) หาดทรายละเอียดสวยงามที่เหมาะสมสำหรับการดำน้ำตื้นอย่างยิ่ง
เกาะราวี ฝาแฝดของเกาะอาดัง
ห่างจากกันเพียง 1 กิโลเมตรเท่านั้น ที่นี่หาดทรายขาวสวยละเอียด
น้ำทะเลใสเงียบสงบร่มรื่นไปด้วยร่มไม้ทอดยาวเป็นเปลไกวสู่ทะเลเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์
เป็นแหล่งธรรมชาติที่มหัศจรรย์ Unseen and wonderful ไม่น่าเชื่อว่าความสวยงามแบบนี้ยังมีเหลืออยู่ทันทีที่หยิบชูชีพและหน้ากากดำน้ำก้มมองลงที่ก้นทะเลด้านหน้าหาดจะตะลึงถึงความงามของปะการังและดอกไม้ทะเลหลากสีสันให้เพลิดเพลิน
จนลืมเรื่องทุกข์ร้อนภายในจิตใจอย่างได้รับยาขนานจนไม่อยากกลับไป..
กิจกรรมแสนสุขใจบนเกาะฝาแฝด อาดัง-ราวี
: เล่นน้ำชายหาดเกาะอาดัง ปีนผาชะโด และเที่ยวน้ำตกผาชะโดเกาะอาดัง
ดำน้ำดูปะการังและพักผ่อนริมชายหาดเกาะราวี ดูปะการังหลาสีสันที่ร่องน้ำจาบัง
การเดินทาง : จากท่าเรือปากบารา
อ.ละงู จ.สตูล สามารถนั่งเรือโดยสารธรรมดาและเรือสปีดโบ๊ตสู่เกาะหลีเป๊ะ
มีบริการทุกวันในฤดูกาลท่องเที่ยว จากนั้นนั่งเรือหางยาวชาวบ้านคนละ
50 บาท สู่เกาะอาดัง-ราวี หรือหากพักแรมที่เกาะหลีเป๊ะ ก็สามารถเช่าเหมาเรือหางยาวเดินทางท่องเที่ยวในหมู่เกาะโดยรอบได้ภายในวันเดียว
เภตรา-บุโหลน..สวรรค์น้อยๆ ของคนช่างเลือก
ทะเลฝั่งอันดาชายฝั่งที่หลายคนอาจมองข้าม นั่นคือ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา
เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ชายฝั่งบริเวณช่องแคบมะละกา
ฝั่งทะเลอันดามัน หมู่เกาะเภตรามีลักษณะคล้ายเรือสำเภาครอบคลุมพื้นที่ชายหาดตลอดแนวฝั่งทะเลในท้องที่
2 จังหวัด คือ จ.ตรังและ จ.สตูล ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาลาดชันสูง
มีพื้นที่ราบบริเวณหุบเขาและชายหาด หมู่เกาะเภตราแห่งนี้ประกอบด้วย
เกาะน้อยเกาะใหญ่ต่างๆ เช่น เกาะเภตรา เกาะลิดี เกาะบุโหลน
เกาะเขาใหญ่ เกาะละโละแบนแต เกาะเหลาเหลียง และเกาะเปรามะ
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเกาะแห่งนี้มีให้เที่ยวชมอีกเพียบ
ที่พลาดไม่ได้คือ อ่าวนุ่น อยู่บนโค้งเวิ้งอ่าวธรรมชาติบรรยากาศเงียบสงบ
มีบ้านพักและศูนย์บริการนักท่องเที่ยวไว้ต้อนรับ ถัดมาเป็น
หาดราไวย์ ที่ไม่ใช่ภูเก็ต แต่มีอีกที่ที่ จ.สตูล เป็นชายหาดที่เหมาะแก่การตั้งค่ายพักแรม
และชายหาดที่นี่มีความสวยงามเป็นธรรมชาติน่าเที่ยวชมและพักผ่อนไม่แพ้ที่ใดเลยทีเดียว
เพราะตลอดแนวฝั่งมีต้นสนให้ความร่มรื่นและบ่งบอกความเป็นทะเลโดยแท้
เกาะลิดีเล็ก อยู่ห่างจากอ่าวนุ่นประมาณ 5 กิโลเมตร และห่างจากท่าเรือปากบาราประมาณ
7 กิโลเมตร และยังเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์ฯ และความสวยงามบนเกาะไม่แพ้ที่ไหนอีกด้วย
มีหาดทรายสีขาวน้ำทะเลใสเหมาะแก่การเล่นน้ำเป็นอย่างยิ่ง ด้านหน้าของเกาะมีป่าชายเลนที่สมบูรณ์
มีสัตว์น้ำหลายชนิดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากมาย และสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะพักบนเกาะแห่งนี้
ต้องนำเต็นท์และอาหารมาเอง บนเกาะลิดีเป็นพื้นที่สัมปทานนกนางแอ่นอีกด้วย
บุโหลน : เป็นเกาะที่มีหาดทรายขาวสะอาด
น้ำทะเลสวยใสเล่นน้ำได้ มีทั้งจุดดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก บรรยากาศที่เกาะบุโหลนเย็นสบาย
เพราะมีลมโกรกตลอด ทำให้รีสอร์ทต่างๆ ไม่มีความจำเป็นต้องใช้เครือ่งปรับอากาศ
ยามเย็นจะมองเห็นพระอาทิตย์ตกน้ำแสงสีแสดสดสวยงาม ยามค่ำคืนเกาะแห่งนี้เป็นที่หากินของสัตว์ทะเลตัวน้อย
เช่น ปูเสฉวน ปูลม ยามน้ำลดจะเห็นแนวปะการังที่นี่จึงเป็นสวรรค์น้อยๆของคนช่างเลือก
กิจกรรมแสนสุขใจบนเกาะบุโหลน
: เที่ยวพักผ่อนบนเกาะบุโหลน เลือกผ่อนคลายอารมณ์ที่อ่าวนุ่น
ล่องเรือสู่เกาะลิดี
การเดินทาง : การเดินทางสู่เกาะบุโหลนนั้นสามารถเดินทางได้โดยเรือจากท่าเรือปากบารา
มีเรือออกทุกวันในฤดูการท่องเที่ยว หากมาเป็นหมู่คณะ แนะนำให้เช่าเหมาเรือ
ส่วนที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ตั้งอยู่ที่อ่าวนุ่นก่อนถึงท่าเรือปากบารา
อ.ละงูประมาณ 3 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 1.4 กิโลเมตร
หลีเป๊ะ..แสนงาม
คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าความสวยงามของทะเลใต้นั้นเป็นที่น่าตื่นตื่นใจและใฝ่ฝนของเหล่านักท่องเที่ยวที่ต้องการความบริสุทธิ์และสัมผัสกลิ่นไออย่างใกล้ชิดกับธรรมชาติและชายหาดที่สวยงาม
โดยแหล่งท่องเที่ยวที่เอ่ยถึงนี้คงหนีไม่พ้นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับขนานามว่า
มัลดีฟเมืองไทย..หลีเป๊ะนี่เอง
ความงดงามของเกาะสวรรค์แห่งนี้ เป็นสถานที่โปรดของนักล่าประสบการณ์ชีวิตทั้งหลาย
ที่กำลังมองหาความ virgin เพื่อดื่มด่ำกับความงดงามและความเป็นธรรมชาติโดยแท้ของเกาะ
โดยคงจะรู้ดีว่าความสวยที่ชวนให้ใครต่อใครหลงใหลในความบริสุทธิ์นั่นก็คือ
หาดทรายขาวละเอียดยิบดุจดั่งแป้ง รับรองว่าแค่สัมผัสแรกของผืนทรายบนเกาะแห่งนี้ก็สุขใจ
นอกจากนี้ เวิ้งอ่าวสวยงามมองสบายตา แนวปะการังที่แบ่งกั้นระดังความตื้นลึกของน้ำทะเลใสสีครามที่นักถ่ายรูปทั้งหลายมักใช้เป็นที่รวบรวมผลงานหรือสถานที่ชิ้นเอกสำหรับรวบรวมเป็นแฟ้มภาพ
มี 2 หาดที่สวยงามขึ้นชื่อคือ หาดพัทยาและหาดชาวเล หรือหาด
SunRise ลักษณะเป็นหาดทรายขาวละเอียดโค้งเว้ายาวเหยียดเป็นหลายกิโลเมตรที่สามารถลงเล่นน้ำได้สบายทั้งกลางวันและกลางคืน
หรือหากใครต้องการซึมซับบรรยากาศรอบๆ เกาะที่นี่ยังมีกิจกรรมพายเรือคายัค
ชมเกาะและความ Unseen ที่น่าตื่นตื่นใจและตื่นเต้น
ตอนกลางของเกาะเป็นหมู่บ้านชาวเล เผ่าอุรักลาโว้ย ถือว่าเป็นพลเมืองเจ้าของเกาะ
รุ่นบุกเบิกที่ยังคงดำรงวิถีชีวิตตามแบบฉบับดั้งเดิมและยังคงไว้ซึ่งประเพณีสร้างบ้านเรือนไม้หลังคามุงจากและสังกะสี
มีระเบียงบ้านสำหรับนอนเล่นพักผ่อน ประกอบอาชีพประมงและใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
กิจกรรมแสนสุขใจบนเกาะหลีเป๊ะ
: เล่นน้ำชายหาด พายเรือแคนู ชมวิถีชีวิตชาวเล สรรหาโรตีหวานกรอบที่ถนนคนเดิน
การเดินทางสู่เกาะหลีเป๊ะ
: มัลดีฟเมืองไทย สามารถเดินทางได้สะดวกทั้งปี โดยมีทั้งเรือโดยสารที่เป็นเรือเร็ววิ่งผิวน้ำขนาด
3-5 เครื่องยนต์จากท่าเรือปากบารา อ.ละงู จ.สตูล วันละ 2 เที่ยว
ในฤดูกาลท่องเที่ยว (เดือนพฤศจิกายน-กลางเดือนพฤษภาคม) และวันละ
1 เที่ยวนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (กลางเดือนพฤษภาคม-เดือนตุลาคม)
โดยใช้เวลาเดินเรือประมาณ 1.5 ชั่วโมง ก็จะถึงเกาะหลีเป๊ะ
จากนั้นใช้บริการเรือหางยาวชาวบ้านสู่เกาะเพื่อเป็นการการกระจายรายได้อีกคนละ
50 บาท |
เกาะรอกลอย
สตูลโรแมนติกที่หมู่เกาะตะรุเตา |
|
|
เกาะหินซ้อน
สตูลโรแมนติกที่หมู่เกาะตะรุเตา |
|
|
เกาะหลีเป๊ะ |
ที่พักเกาะหลีเป๊ะ |
ที่พักเกาะหลีเป๊ะ |
เกาะหลีเป๊ะ |
เกาะหลีเป๊ะ |
เกาะหลีเป๊ะ |
เกาะหลีเป๊ะ |
เกาะหลีเป๊ะ |
เกาะหลีเป๊ะ |
ที่พักเกาะหลีเป๊ะ |
เกาะหลีเป๊ะ |
เกาะหินซ้อน |
สตูลโรแมนติกที่หมู่เกาะตะรุเตา |
|
|
สตูลโรแมนติกที่เกาะหินซ้อน |
|
|
สตูลโรแมนติกที่เกาะรอกลอย |
|
|
สตูลโรแมนติกที่เกาะรอกลอย |
|
|
สตูลโรแมนติก...หมู่เกาะตะรุเตา
|
|
|
สตูลโรแมนติกที่เกาะหลีเป๊ะ |
|
|
สตูลโรแมนติกที่เกาะหลีเป๊ะ |
|
|
สตูลโรแมนติกที่เกาะหลีเป๊ะ |
|
|
สุขใจเมื่อได้สัมผัส
ลอยเรือรักลาโว้ย : เป็นประเพณที่สืบทอดกันมาเป็นเวลานานและน่าสนใจ
เป็นประเพณีลอยเรือของชาวหลีเป๊ะ ที่จะจัดขึ้นทุกปี ปีละ 2
ครั้งด้วยกัน ตามความเชื่อโดยชาวเลเกาะหลีเป๊ะจะร่วมกันทำพิธีลาทวดโต๊ะฮีรี
โดยมีการนำขนม และน้ำดื่มมาถวายและทำเรือสำเภาขนาดเล็กที่เชือกันว่าเป็นเรือที่แข็งแรงที่จะสามารถใส่อาหาร
ตัดเล็บ ตัดผม และสิ่งไม่ดีไปทิ้งกลาทะเล พร้อมอธิษฐานขอพรจากเรือสำเภอว่าขอให้สิ่งไม่ดีออกไปจากหมู่บ้านและครอบครัว
พร้อมกับขอให้ออกไปหาปลากลางทะเลให้ปลอดภัยจากคลื่นลมและหาปลาได้ดี
เมื่อลอยเรือเสร็จ ชาวเลจะร้องรำทำเพลงรอคอยว่าเรือที่ลอยนั้นจะลอยย้อนกลับมาหรือไม่
หากเรือย้อนกลับแสดงว่าจะเกิดโชคไม่ดี แต่หากเรือไม่ย้อนกลับ
ถือว่ามีการทำมาหากินคล่อง
วันที่จัดงาน : ขึ้น 13-15 ค่ำ เดือน 6 และ เดือน 12 ของทุกปี
ชักควาย(ว่าว) ขึ้นฟ้า..ตกปลาอันดามัน
: ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ที่สนามบินจังหวัดสตูล มีการแข่งขันว่าวประเพณีและว่าวนานาชาติจังหวัดสตูล
โดยมีว่าวที่เป็นเอกลัษณ์ของจังหวัดสตูล คือ ว่าวควาย มีรูปร่างเหมือนกับควายไทย
ซึ่งสามารถขึ้นสูงจนติดลมบนทีเดียว นอกจากนี้ยังส่งดังลั่นจากแอกที่ติดอยู่กับตัวว่าว
เมื่อสิ้นสุดฤดูกาลของการเล่นว่าว จะเป็นเวลาของการตกปลาในทะเลอันดามัน
ที่เป็นสนามแห่งความท้าทายของนักตกปลาในประเทศและต่างประเทศ
หน่วยงานที่รับผิดชอบการจัดงาน : องค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูลหรือสอบถามได้ที่
ททท.สำนักงานตรัง
|
สตูลโรแมนติก เกาะหินซ้อน |
สตูลโรแมนติก เกาะรอกลอย |
สตูลโรแมนติก เกาะรอกลอย |
สตูลโรแมนติก เกาะรอกลอย |
สตูลโรแมนติก เกาะรอกลอย |
สตูลโรแมนติก เกาะราวี |
สตูลโรแมนติก เกาะราวี |
สตูลโรแมนติก เกาะราวี |
สตูลโรแมนติก เกาะหลีเป๊ะ |
สตูลโรแมนติก เกาะหลีเป๊ะ |
สตูลโรแมนติก เกาะหลีเป๊ะ |
สตูลโรแมนติก เกาะหลีเป๊ะ |
สตูลโรแมนติก เกาะหลีเป๊ะ |
สตูลโรแมนติก เกาะหลีเป๊ะ |
สตูลโรแมนติก เกาะหลีเป๊ะ |
สตูลโรแมนติก เกาะหลีเป๊ะ |
สตูลโรแมนติกที่เกาะหลีเป๊ะ |
|
|
สตูลโรแมนติกที่เกาะหลีเป๊ะ |
|
|
เกาะไข่..ลอดซุ้มประตูหินแห่งความรัก |
|
|
เกาะไข่..ลอดซุ้มประตูหินแห่งความรัก
เกาะไข่ เกาะแห่งความสวยงามที่นักท่องเที่ยวทุกคนยังต้องหลงใหลและใคร่หาตลอด
เกาะไข่ เกาะแห่งความเพลิดเพลิน ซึ่งอยู่ห่างจากเกาะตะรุเตาไปทางทิศตะวันตก
เป็นเกาะเล็กๆ แต่ความสวยงามและตระการตาไม่เล็กเลยทีเดียว
เกาะไข่แห่งนี้ เป็นเกาะที่อยู่ระหว่างเกาะตะรุเตาและเกาะอาดัง
ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากเกาะตะรุเตาประมาณ 40 นาที สิ่งที่มีชื่อเสียงบนเกาะแห่งนี้
ได้แก่ ซุ้มประตูหินโค้งธรรมชาติ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอุทยานแห่งชาติตะรุเตาไปแล้ว
ที่ว่ากันว่า เมือ่ไปแล้วต้องลอดซุ้มประตูหินจะสมหวังเรื่องความรัก
หากได้ลอดพร้อมกับคนรักแล้วจะทำให้รักกันชั่วนิรันดร
ทะเลรอบๆ เกาะไข่มีแนวปะการังและด้านหน้าเกาะมีแนวสันทรายเป็นเนินขาวสูงที่ชวนหลงใหลงเคลิ้มในความสวยงาม
และเก็บได้เพียงแต่ภาพถ่ายแห่งความประทับใจเท่านั้น เพราะอุทยานฯ
ไม่อนุญาตให้แวะค้างแรมบนเกาะ
กิจกรรมแสนสุขใจบนเกาะไข่ :
ลอดซุ้มประตูหินเพื่อความสำเร็จด้านความรัก ถ่ายภาพประทับใจกับสัญลักษณ์บนเกาะ
การเดินทางสู่เกาะไข่ : เรือสปีดโบทวิ่งระหว่างปากบารา-หลีเป๊ะ
จะแวะจอดที่ซุ้มประตูหินเกาะไข่ประมาณ 15 นาที เพื่อเก็บภาพประทับใจ
ชวนเรียงหิน..ที่เกาะหินงาม
เมื่อมองไปตามทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะอาดัง มีเกาะขนาดเล็กๆ
ที่เต็มไปด้วยหาดหินสีดำ กลมเกลี้ยง สว่างไสว แวววาว เงางามเป็นมันวับ
เปล่งประกายเมื่อต้องแสงเหมือนมีพลังชีวิต คงมีที่เดียวกลางทะเลอันดามันแห่งนี้
เรียกชื่อตามลักษณะว่า เกาะหินงาม ยามที่คลื่นกระทบกระเซ็นน้ำทะเลใสๆ
สีมรกต หินจะมีความมัน แวววาว งดงาม ชวนให้หลงใหล กิจกรรมที่นี่นักท่องเที่ยวจะมานั่งเรียงหินเป็นชั้นๆ
แล้วอธิษฐานว่า หากใครเรียงกันได้สูงขนาดไหนก็จะประสบความสำเร็จมากขนาดนั้น
(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล) แต่ไม่ควรนำหินจากที่นี่กลับบ้านเด็ดขาด
เพราะมีเรื่องราวเล่าเกี่ยวกับคำสาปของเจ้าพ่อตะรุเตาว่า ผู้ใดบังอาจเก็บหินงามจากเกาะนี้ไป
ผู้นั้นจะถึงซึ่งความหายะนานับปการ ได้ยินอย่างนี้แล้ว คงไม่มีใครกล้าแม้แต่จะคิดนำหินขึ้นจากเกาะอย่างแน่นอน
กิจกรรมแสนสุขใจ..ที่เกาะหินงาม
: เรียงหินเป็นชั้นให้สูงสุดแล้วอธิษฐานเพื่อความั่นคงและเจริญก้าวหน้าในชีวิต
ดำน้ำดูปะการังหลากสีด้านหลังเกาะหินงาม ถ่ายภาพประทับใจกับหินสีดำ
กลมเกลี้ยงเป็นมันวาว
การเดินทางมาเกาะหินงาม :
เช่าเหมาเรือหางยาวของชาวบ้านจากเกาะอาดังหรือเกาะหลีเป๊ะได้อย่างสะดวกใช้เวลานั่งเรือประมาณ
20-30 นาที |
เกาะไข่..ลอดซุ้มประตูหินแห่งความรัก |
|
|
เกาะไข่ ตะรุเตา |
เกาะไข่ ตะรุเตา |
เกาะไข่ ตะรุเตา |
เกาะไข่ ตะรุเตา |
สุขใจเมื่อได้ช้อป
ทุกครั้งเมื่อออกจากบ้านไปต่างจังหวัด สิ่งหนึ่งที่ต้องติดไม้ติดมือกลับมาคือต้องเป็นของฝาก
เหมือนเป็นธรรมเนียมอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งการมาถึงสตูลก็เช่นกัน
หลายคนจะคิดถึงการเดินทางข้ามประเทศไปยังเกาะลังกาวี เพราะคิดว่าที่นั่นมีแต่ของถูก
โดยลืมไปว่า หากบวกลบคูณหารแล้ว กลับมาอุดหนุนสินค้าท้องถิ่นสตูลน่าจะดีกว่า
สตูลมีแหล่งช้อปปิ้งแนะนำ ที่มีทุกสิ่งให้เลือกสรร
ด่านวังปะจัน : เป็นด่านชายแดนบ้านวังปะจันอยู่ในพื้นที่อำเภอควนโดน
จากตัวเมืองสตูลใช้ทางหลวง 406 ระยะทาง 19 กิโลเมตร จะมีทางแยกขวาไปตามทางหลวง
4184 ระยะทาง 20 กิโลเมตร หรือ นั่งรถสองแถวสตูล-วังประจัน
ค่าโดยสารคนละ 30 บาท หากเดินทางต่อไปอีกประมาณ 20 กิโลเมตร
ก็จะถึงปาดังเบซาร์ ด่านแห่งนี้เปิดเวลา 07.00-18.00 น.
ถนนคนเดินหลีเป๊ะ (Walking Street
Lipe) : ใครที่ได้มาสตูลแล้วได้ไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ
ในช่วงเวลาบ่ายถึงยามดึก จะมีถนนคนเดินให้ช้อปปิ้งอยู่ติดกับหาดพัทยา
ถนนคนเดินที่นี่ไม่ได้มีเพียงของแฟชั่นประจำเกาะอย่าง เสื้อยืดสกรี
หลีเป๊ะ หรือเครื่องประดับพื้นบ้านไว้จำหน่ายเท่านั้น แน่ยังมีผลไม้สดๆมาขายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อกัน
ไฮไลท์อยู่ที่ร้านขายอาหารทะเลปิ้งย่างสดๆ ที่ให้เราได้ยืนชี้เลือกได้เลยว่าอยากได้ตัวไหนแล้วนำมาปิ้งหรือประกอบอาหารกันสดๆ
แต่ถ้าชอบของหวานมีร้านโรตีชาชัก ซึ่งเมนูแนะนำคือโรตีผลไม้
ซึ่งเมนูนี้ถือได้ว่าเป็นเมนูที่หาไม่ได้ง่ายเลย
สุขใจกับที่พัก
Mountain Resort : เป็นรีสอร์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เชิงเขาบนเกาะหลีเป๊ะ
ส่งผลให้การวางตำแหน่งของบ้านพักมีการเล่นระดับตามความสูง
ซึ่งทำให้ไม่รู้สึกแออัดในการเข้าพัก บ้านแต่ละหลังถูกทิ้งช่วงระยะห่างกันกำลังดีและมีการทำทางเดินให้ง่ายต่อการเดินขึ้นทางชัน
นอกจากนี้พื้นที่ด้านหน้ารีสอร์ทยังอยู่ติดกับหาดหลังเกาะอีกด้วย
ในส่วนของห้องพัก ตกแต่งแบบเรียบง่าย มีอุปกรณ์เล่นน้ำและสามารถจัดแจงนัดหมายแผนการดำน้ำได้อย่างเสร็จสรรพภายในรีสอร์ท
Sita Beach Resort & Spa
: มีการตั้งที่พักเอาไว้เป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน โดยเริ่มจากห้องพักที่เป็นบ้าน
ภายในบรรจุที่นอนขนาดกำลังเหมาะสำหรับ 2 ท่านและสาธารณูปโภคครบครัน
ไม่ว่าจะเป็นอ่างอาบน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่น หรือแม้กระทั่งอินเตอร์เน็ต
Wifi ภายในพื้นที่หลาย 10 ไร่ใน Sita ได้อัดแน่นไปด้วยห้องพักมากกว่า
100 ห้อง หลากหลายชนิด และที่สำคัญยังมีสระน้ำจืดเอาไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย
Bundhaya Resort : ด้วยเนื้อที่กว่า
10 ไร่ ในพื้นที่หน้าหาดพัทยา (ซึ่งเพื้ยนมาจากชื่อเดิมคือ
บันดาหยา) เป็นที่ตั้งของรีสอร์ทบันดาหยา มีห้องพักรวม 114
ห้อง แบ่งเป็นบ้านพัก 74 หลังและห้องในตึกอีก 40 หลัง ที่นี่ถือเป็นรีสอร์ทแรกของเกาะหลีเป๊ะ
ที่นำสถาปัตยกรรมของไทยเข้ามาผสมผสานในตัวรีสอร์ท เพราะเดิมทีแล้วเกาะแห่งนี้ไม่เปิดรับความเจริญใดๆ
เข้ามาเลย ทำให้นักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่ต้องการความสะดวกสบายเรียกร้องตรงจุดนี้
จึงเป็นต้นเหตุของการสร้างรีสอร์ทนี้ขึ้นมา แต่ก็ไม่ลืมที่จะรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเอาไว้ให้ครบครัน
นอกจากนี้ รีสอร์ทยังมีสปาแบบไทยแท้ ที่สร้างมาเพื่อจุดประสงค์ที่ว่ามีลูกค้าบางกลุ่มรู้สึกอายที่จะต้องถอเสื้อผ้าเพื่อให้การนวดดำเนินต่อไป
ทางเจ้าของเลยสร้างโรงสปาขนาดเล็กที่มีการถ่ายเทอากาศอย่างดี
และเปิดโล่งทุกด้านรับลมทะเลเข้ามา |
Sita Beach Resort & Spa เกาะหลีเป๊ะ |
|
|
Mountain
Resort
เกาะหลีเป๊ะ |
|
|
Mountain
Resort
เกาะหลีเป๊ะ |
|
|
Mountain
Resort
เกาะหลีเป๊ะ |
|
|
ที่พักเกาะหลีเป๊ะ |
เกาะหลีเป๊ะ |
เกาะหลีเป๊ะ |
เกาะหลีเป๊ะ |
เกาะหลีเป๊ะ |
ที่พักเกาะหลีเป๊ะ |
เกาะหลีเป๊ะ |
สายการบินนกแอร์ |
ที่พักเกาะหลีเป๊ะ |
ที่พักเกาะหลีเป๊ะ |
ที่พักเกาะหลีเป๊ะ |
ที่พักเกาะหลีเป๊ะ |
ขอขอบคุณ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตรัง (ตรัง,สตูล)
สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.)
สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสตูล ชมรมคนนำเที่ยวสตูล
สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสตูล
สายการบินนกแอร์ |
|
สตูล โรแมนติก กับ ททท. สำนักงานตรัง |
|
|