•
เที่ยวสตูล แสนสุขใจ : ป่าสวย ทะเลใส หลากหลายวัฒนธรรม
• ถ้ำภูผาเพชร...อลังการถ้ำใหญ่กลางขุนเขา
• ถ้ำใหญ่กลางขุนเขาติดอันดับโลกแห่งนี้ ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางขุนเขามากกว่า
3,000 ปี อยู่ในพื้นที่อำเภอมะนัง เป็นถ้ำที่อลังการมีขนาดกว้างขวางใหญ่โตขนาดเนื้อที่ประมาณ
50 ไร่ หรือ 20,000 ตารางเมตร เดิมทีเรียกว่า ถ้ำลอด หรือ
ถ้ำเพชร ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นภูผาเพชร เพราะความวิจิตรตระการตาไปด้วยหินงอกหินย้อยที่ส่องแสงระยิบระยับยามต้องแสง
ซึ่งห้องในโถงใหญ่แห่งนี้มีมากกว่า 20 ห้อง แต่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมแค่เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น
ทุกห้องโถงมีความแตกต่างกัน เช่น หินงอกที่เป็นเสาค้ำสุริยัน
เสาหินปูนขนาดมหึมาค้ำเพดานถ้ำรอบทิศ ส่วนที่โคนเสาหินงอกนี้จะเป็นเกล็ดหินคล้ายแผ่นปะการังใต้ท้องทะเล
รวมทั้งมีผ้าม่านเป็นริ้ว ๆ แปลกตา บางจุด จะมีหยดน้ำทิพย์จากเพดานถ้ำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความบริสุทธิ์
บางคนนำมาดื่มหรือชโลมร่างกาย ถือว่าเป็นสิริมงคลและเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์
• ไฮไลต์ของถ้ำภูผาเพชรแห่งนี้คือ ห้องแสงมรกต ซึ่งเมื่อเดินลึกเข้าไปด้านในสุดจะเห็นเพดานถ้ำโหว่มีแสงส่องลงมากระทบกับหินสีเขียวก้อนใหญ่ตรงใจกลางห้อง
กลายเป็นลานแสงมรกตแปลกตา และสุดท้ายปลายทางเป็นห้องที่มีความมืด
100 เปอร์เซ็นต์ที่ห้องพญานาค สาเหตุที่เรียกว่าห้องพญานาคก็ด้วยเหตุผลที่ว่า
กว่า 3,000 ปีมาแล้ว ที่ห้องแห่งนี้ถูกน้ำท่วมขังเป็นเวลานานทำให้เกิดตะกอนหินปูนจับตัวกันเป็นสันนูนโดยรอบ
ลักษณะคล้ายหลังพญานาคจึงตั้งชื่อว่า “ถ้ำพญานาค”
• การเดินทางสู่ภูผาเพชร : สามารถไปได้
2 เส้นทาง คือ จากจังหวัดสตูลเข้าทางแยกควนกาหลง เข้าสู่อำเภอมะนัง
หากเริ่มต้นจากจังหวัดตรังเมื่อเข้าสู่เขตสตูลให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่มะนังเช่นกัน
ทั้งนี้จะมีป้ายบอกเป็นระยะๆ และต้องเดินขึ้นบันไดประมาณ 300
ขั้น (เท่านั้นเอง) ส่วนภายในถ้ำมีบันไดไม้เดินได้สะดวก
• เตรียมตัวเดินทาง : นักท่องเที่ยวควรนำไฟฉายติดตัวไปเพื่อส่องดูความงามภายในถ้ำ
หรือสามารถเช่าจากชาวบ้านบริเวณทางเข้าถ้ำ และควรสวมใส่รองเท้าที่เดินสบาย
• นั่งเรือคายัก..ลอดถ้ำเจ็ดคต
• ถ้ำเจ็ดคต เป็นถ้ำที่มีความคดเคี้ยวและทะลุผ่านภูเขา
มีลำธารคดเคี้ยวแต่สามารถพายเรือลัดเลาะผ่านได้ตลอด ระหว่างทางจะต้องใช้ไฟฉายส่องเพื่อชมเพชรที่โปรยปรายบนหินงอกหินย้อยรูปร่างละม้ายคล้ายคลึงดอกบัว
บางจุดมีหาดทรายขาวโปรยด้วยเพชรแปลกพิสดารสวยงาม
• กิจกรรม : ล่องเรือคายัคลอดถ้ำ
ล่องหินงอกหินย้อยประดับดับเพชร
• การเดินทาง : ใช้เส้นทางเดียวกับการเดินทางไปถ้ำภูผาเพชร
เมื่อถึงแยกบ้านป่าพนเลี้ยวซ้าย ไปอีกประมาณ 10 กิโลเมตร จะถึงจุดเริ่มต้นของการล่องแก่ง
หรือใช้วิธีการติดต่อบริษัทนำเที่ยว ในพื้นที่อำเภอมะนัง ที่สำคัญ
ควรเลือกใช้บริการของบริษัทที่ได้รับการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
• ธรรมชาติทะเลบก..ทะเลบัน
• อุทยานแห่งชาติทะเลบัน หนองน้ำจืดขนาดใหญ่กลางหุบเขาแห่งนี้
สันนิษฐานว่าเกิดจากการยุบตัวของพื้นดินระหว่างเขาจีน และเขามดแดงเป็นหนองน้ำ
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อน อุดมไปด้วยพรรณไม้ต่างๆ
มากมาย นอกจากนี้ ยังมีสัตว์ป่าที่หายาก เช่น เลียงผา ช้าง
สมเสร็จ หมูป่า ลิง ชะนี และ “เขียดว๊าก” (หมาน้ำ)
• ตัวเขียดว๊าก หรือ หมาน้ำ นั่นเป็นสัญลักษณ์แห่งหนึ่งของบึงทะเลบัน
รูปร่างหน้าตาคล้ายกบและคางคก แต่มีหาง ส่งเสียงร้องคล้ายลูกสุนัข
จะมีชุกชุมตามริมบึงโดยเฉพาะในฤดูฝน และสำหรับผู้ที่ชื่นชมการดูนกก็ไม่ควรพลาด
เพราะมีนกหลากหลายชนิดให้ดู เช่น นกแอ่นฟ้าเคราขาว นกปรอกคอลาย
นกกางเขนน้ำหลังแดง นกหัวขวาน ที่นี่มีบ้านพักของอุทยานไว้บริการนักท่องเที่ยวในบรรยากาศธรรมชาติและพื้นที่สำหรับกางเต็นท์
• กิจกรรมแสนสุขใจที่ทะเลบัน
: เดินศึกษาธรรมชาติและส่องนก พักแรมในบ้านพักอุทยาน หรือกิจกรรมกางเต็นท์
• การเดินทางมาทะเลบัน : จากจังหวัดสตูลเลี้ยวขวา
ไปตามทางหลวงหมายเลข 4148 (ควนสะตอ-วังประจัน) ระยะทางประมาณ
21 กิโลเมตร
• โบราณสถานบ่อเจ็ดลูก
• คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่า น้ำมีความสำคัญต่อชีวิตความเป็นอยู่ของสิ่งมีชีวิต
ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ หรือพืช ดังนั้น หมู่บ้านเล็กๆ ริมชายฝั่งตำบลปากน้ำของอำเภอละงู
ก็เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มีตำนานแห่งการอพยพของชาวยิปซีทีเรียกฮิตติดปากว่า
ชาวเล ตั้งแต่อดีตชาวเลจะเร่ร่อนไปตามทะเล เพื่อหาแหล่งที่อยู่อาศัยโดยเลือกพื้นที่อุดมสมบูรณ์
• เล่ากันว่าหมู่บ้านแห่งนี้ชาวเลได้มายึดหลักปักฐานอยู่ที่ริมปากอ่าว
โดยทำการขุดบ่อน้ำเพื่อใช้ในการดำรงชีวิต เมื่อขุดบ่อลูกแรกริมทะเลน้ำที่ออกมานั้น
ก็ย่อมเค็มเป็นธรรมดา ไม่สามารถนำมาดื่มกินได้ ดังนั้น จึงขุดบ่อลูกที่สองในระยะห่างกัน
ปรากฎว่าน้ำยังเค็มเหมือนเดิม ชาวเลจึงได้ขุดบ่อเพิ่มอีกเป็นบ่อที่
3,4,5,6 ในระยะที่ห่างกันพอสมควร แต่ก็พบอุปสรรคน้ำเค็มเหมือนเดิม
ดังนั้น จึงตัดสินใจขุดบ่อน้ำเป็นบ่อที่ 7 ซึ่งเป็นบ่อสุดท้ายจึงพบน้ำจืด
เพื่อนำมาใช้ในการดำรงชีพ วันเวลาผ่านไป จนกระทั่งเกิดความน่าประหลาดใจว่า
น้ำในบ่อทั้ง 7 ลูก ที่ได้ขุดขึ้นนั้น ไม่ได้เค็มอย่างเช่นตอนแรก
สร้างความพิศวงให้กับชาวบ้านเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น หลังจากชาวเลได้ร่อนเร่ย้ายถิ่นฐานไปยังถิ่นอื่น
สถานที่แหงนี้ก็กลายเป็นหมู่บ้านที่เรียกตัวเองว่า “บ้านบ่อเจ็ดลูก”
นั่นเอง และน้ำในบ่อก็สามารถใช้ในชีวิตประจำวันของคนในหมู่บ้าน
• ปัจจุบันบ้านบ่อเจ็ดลูก เป็นแหล่งท่องเที่ยวบริเวณชายฝั่งที่สามารถนั่งเรือชมธรรมชาติบริเวณปากอ่าวหรือที่เรียกว่าปากน้ำ
นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางโดยเรือไปถึงเกาะบุโหลนได้อีกด้วย
• สถานที่พักแรมในบริเวณบ่อเจ็ดลูก : ปากน้ำรีสอร์ท และรีสอร์ทชุมชนบ้านบ่อเจ็ดลูก
• การเดินทาง : จากตลาดละงู
อ.ละงู เลี้ยวขวาเข้าไปอีกประมาณ 15 กิโลเมตร และเลี้ยวซ้ายเข้าสู่บ้านบ่อเจ็ดลูก
• สัมผัสสิ่งดีดีที่..ปูยู
• แหล่งท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย
แต่อยากสัมผัสประสบการณ์ชีวิตแบบทะเลที่สามารถเดินทางไป-กลับ
ภายในครึ่งวันได้ต้องที่นี่ ปูยู..(ไม่ได้แปลว่า ปูของท่านนะ)
แต่ปูยูนี้ แปลว่า ปลาหมอ ลักษณะเป็นถ้ำลอดกลางทะเลที่สามารถล่องเรือชมความงามและความสดชื่นของธรรมชาติได้
ถ้ำแห่งนี้นอกจากจะมีหินงอกหินย้อยแล้ว ยังมีซุ้มประตูหินสำหรับไว้เป็นภาพเบื้องหลังการถ่ายภาพ
• การเดินทาง : เช่าเรือหางยาวจากท่าเรือตำมะลัง
ในตัวเมืองสตูล ใช้เวลาเดินทางประมาณ ครึ่งชั่วโมง จากนั้นเที่ยวชมธรรมชาติประมาณ
2 ชั่วโมง
• หอยขาวๆ
แห่ง..เกาะสาหร่าย
• เพียงแค่ 15 นาทีจากบ้านเจ๊ะบิลังสู่เกาะสาหร่าย ที่ครั้งหนึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาเคยเสด็จมาแล้ว
เกาะแห่งนี้นอกจากจะเป็นที่อยู่ของชาวบ้านที่ยังคงดำรงวิถีชีวิตของการอยู่รวมกับธรรมชาติอย่างลงตัวแล้ว
ยังเป็นแหล่งผลิตอาหารและทะเลขึ้นชื่ออีกด้วย และที่สำคัญ
ด้านหน้าของเกาะสาหร่ายยังมีสิ่งมหัศจรรย์ลอยอยู่เบื้องหน้าอย่างน่าตื่นตาตื่นใจนั่นคือ
เกาะหอยขาว ซึ่งทั้งเกาะเป็นซากเปลือกหอยสีขาวโพลนไร้สิ่งเจือปนสรรค์สร้าง
เป็นชายหาดหอยสีขาวนวลยืนหยัดเคียงคู่กันจำนวน 2 เกาะ
• การเดินทาง : จากท่าเรือเจ๊ะบิลัง
อ.เมือง จ.สตูล เช่าเหมาเรือหางยาว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30
นาที
• ชวนเที่ยวน้ำตกที่..วังสายทอง
• ล่องแก่งสนุกสุขใจ..แก่งวังสายทอง
: แม่น้ำสายหลักของป่าต้นน้ำปากบารา ที่นี่น้ำใสสะอาด ที่นักท่องเที่ยวจะได้รับความสนุกสุขใจกับการล่องไปตามลำน้ำจากน้ำตกวังสายทอง
ผ่านแก่งต่างๆ นั้น โดยมีร่มเงาของต้นไม้ปิดบังแสงแดดให้เกิดความร่มรื่น
ชมฝูงนกนานาชนิดรวมถึงกล้วยไม้ป่าสลับกับการผจญภัยเมื่อเรือต้องดิ่งหัวสู่แก่งด้านล่างเรียกเสียงกรีดร้องระบายความเสียวตลอดระยะทาง
• ฤดูท่องเที่ยว : ล่องแก่งวังสายทอง
และน้ำตกวังสายทองเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหน้าฝนจะสนุกสุขใจเป็นพิเศษ
• กิจกรรมล่องแก่งวังสายทอง
: ใช้เส้นทางเดียวกันกับทางเข้าสู่น้ำตกวังสายทอง แต่นักท่องเที่ยวควรติดต่อกับตัวแทนบริษัทนำเที่ยว
เพื่ออำนวยความสะดวกด้านเรือสำหรับล่องแก่ง อย่าลืมใช้บริการบริษัทนำเที่ยวที่จดทะเบียน
ถูกต้องตามกฎหมายด้วย
• การเดินทางสู่น้ำตกวังสายทอง
: จากอำเภอละงูมุ่งหน้าสู่อำเภอมะนังถึง สามแยกที่ทำการ อบต.น้ำผุด
ตรงไปตามถนน รพช. หมายเลข 5011 จนถึงน้ำตกวังสายทอง |