|
สถานที่ท่องเที่ยว จังหวัดสุโขทัย |
อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย |
ประวัติความเป็นมา
เมืองศรีสัชนาลัยเติบโตขึ้นมาเป็นขุมชนระดับเมืองพร้อมกับเมืองสุโขทัย
ดังปรากฏหลักฐานในศิลาจารึกกล่าวถึงกษัตริย์ที่ขึ้นครองแค้วนสุโขทัยรุ่นแรกๆ
ว่า ทรงครองเมืองสุโขทัย ก่อนหน้านี้ดินแดนแถบน้ำได้รับการกล่าวถึงในชื่อว่า
เชลียง ในสมัยที่แคว้นสุโขทัยได้รับการผนวกเข้าอยู่ในราชอาณาจักรสยามที่มีศูนย์กลางอยู่ที่อยุธยา
ทางฝ่ายอยุธยาเรียกเมืองศรีสัชนาลัยว่าเมืองสวรรคโลก มีฐานะเป็นหัวเมืองชั้นโท
และหลังจากเหตุการณ์ศึกสงครามในคราวเสียกรุงศรีอยุธยาให้แกพม่าใน
พ.ศ. 2310 เมืองสวรรคโลกคงจะชำรุดทรุดโทรมและถูกทิ้งร้างไปในที่สุด
จึงปรากฏว่าในสมัยรัตนโกสินทร์ได้ย้านที่ตั้งเมืองใหม่มาอยู่ที่บ้านเมืองเก่า
ใต้ตัวเมืองเดิมลงไปราว 3 กิโลเมตร และต่อมาย้ายไปตั้งที่บ้านวังไม้ขอน
ปัจจุบันคือ อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย
อดีตดั้งเดิม
พื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำยมและที่ลาดเชิงเขาพระศรี
เขาใหญ่ เขาสุวรรณคีรี เขาพนมเพลิง เป็นพื้นที่เหมาะแก่การตั้งถิ่นฐาน
ดังได้พบร่องรอยของชุดชนที่มีมาตั้งแต่ครั้งสมัยก่อนประวัติศาสตร์ทั้งในและนอกตัวเมือง
กระทั่งที่บริเวณแม่น้ำยม ยังพบหลักฐานในยุคสมัยทวารวดีและวัฒนธรรมร่วมสมัยลพบุรี
ที่วันชมชื่น วัดเจ้าจันทร์ และวัดพระศรีรัตนมหาธาตุเชลียง
มรดกเมืองศรีสัชนาลัย
จากหลักฐานโบราณสถาน โบราณวัตถุ
ทำให้ทราบว่าก่อนหน้าที่พุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์จะเผยแพร่เข้ามา
ศรีสัชนาลัยปรากฏร่องรอยของศาสนาฮินดูและพุทธศาสนาลัทธิมหายานมาก่อน
ศาสนสถานเหล่านั้นเป็นตัวอย่างงานศิลปกรรมที่งดงาม ทั้งสถาปัตยกรรม
ประติมากรรม ซึ่งได้กลายเป็นแบบแผนให้กับศิลปกรรมของไทยในเวลาต่อมา
และชาวเมืองศรีสัชนาลัยในอดีตยังมีฝีมือในการทำเครื่องปั้นดินเผาที่เรียกว่าเครื่องสังคโลกได้ดี
และยังเป็นแหล่งผลิตและส่งออกค้าขายทั้งในประเทศและดินแดนแห่งไกลสร้างรายได้ชื่อเสียงให้สุโขทัยในระยะหนึ่ง
อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย
อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครไปทางทิศเหนือ 550 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่เขตตำบลศรีสัชนาลัย
ตำบลสารจิตร ตำบลหนองอ้อ ตำบลท่าชัย ส่วนตัวเมืองโบราณศรีสัชนาลัย
อยู่ในเขตตำบลศรีสัชนาลัย พื้นที่อุทยานทั้งหมดประมาณ 45.14
ตารางกิโลเมตร มีโบราณสถานที่สำรวจแล้วในขณะนี้ 204 แห่ง
โบราณสถานที่สำคัญและควรเที่ยวชมมีอาทิ วัดช้างล้อม วัดเจดีย์เจ็ดแถว
วัดนางพญา วัดพระศรีรัตนมหาธาตุเชลียง กล่องเตาเผาสังคโลก
เตาทุเรียงบ้านป่ายาง และบ้านเกาะน้อย และแห่งโบราณคดีวัดชมชื่น
เป็นต้น
โบราณสถานสำคัญ
วัดช้างล้อม
ตั้งอยู่ภายในกำแพงเมืองเกือบกึ่งกลางตัวเมืองศรีสัชนาลัย
บนที่ราบเชิงเขาด้านทิศใต้ของเขาพนมเพลิง โบราณสถานที่สำคัญคือเจดีย์ประธานทรงลังกา
มีกำแพงแก้วสี่เหลี่ยมจัตุรัสล้อมรอย ตั้งอยู่บานฐานประทักษิณรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสมีช้างปูนปั้นเต็มตัว
ประดับโดยรอบฐานทั้ง 4 ด้าน รวม 39 เชือก ช้างที่ประดับตรงมุมจะมีขนาดใหญ่
และมีลวดลายปูนปั้นประดับที่คอ ต้นขา และข้อเท้า ระหว่างรูปช้างจะมีเสาประทีปสลับอยู่ด้านหน้าช้างแต่ละเชือกจะมีพุ่มดอกบัวตูมปูนปั้นวางอยู่
ด้านหน้าเจดีย์ประธานมีบันไดขึ้นสู่ลานประทักษิณ เหนือฐานประทักษิณมีซุ้มพระพุทธรูปประทับนั่งปางมารวิชัย
20 ซุ้ม ผนังซุ้มมีรูปประติมากรรมรูปต้นโพธิ์อยู่เบื้องหลังพระพุทธรูป
บริเวณองค์ระฆังขึ้นไปเป็นบัลลังก์ ก้านฉัตร ซึ่งประดับด้วยรูปพระสาวกปูนปั้นลีลานูนต่ำจำนวน
17 องค์ นักวิชาการบางท่านสันนิษฐานว่า วัดช้างล้อมนี้น่าจะเป็นวัดเดียวกันกับที่ปรากฏในศิลาจารึกหลักที่
1 ที่กล่าวไว้ว่าในปี พ.ศ. 1829 พ่อขุนรามคำแห่งให้ขุดเอาพระธาตุขึ้นมาทำบูชา
และเฉลิมฉลอง หลังจากนั้นจึงฝังลงในกลางเมืองศรีสัชนาลัย
และก่อพระเจดีย์ทับลงไป โบราณสถานภายในวัดที่ยังมีหลักฐาน
คือ วิหารอยู่ด้านหน้าเจดีย์ประธาน นอกจากนั้นเป็นวิหารขนาดเล็กๆ
2 หลัง และเจดีย์รายอีก 2 องค์
วัดเจดีย์เจ็ดแถว
ตั้งอยู่ด้านหน้าวัดช้างล้อม โบราณสถานที่สำคัญคือ
เจดีย์ประธานรูปดอกบัวตูมอยู่ด้านหลังพระวิหาร และมีเจดีย์รายรวมทั้งอาคารขนาดเล็กแบบต่างๆกัน
33 องค์ มีกำแพงแก้วล้อมรอบอีกชั้นหนึ่ง นอกกำแพงมีโบสถ์และบ่อน้ำ
เดิมมีคูน้ำล้อมรอบ เจดีย์รายที่วัดเจดีย์เจ็ดแถวมีรูปแบบที่ได้รับอิทธิพลศิลปะจากที่ต่างๆ
หลายแห่งเช่น ลังกา และพุกาม ด้านหลังเจดีย์ประธานมีเจดีย์รายที่มีลักษณะเด่น
คือ ฐานเป็นเจดีย์สี่เหลี่ยมจัตุรัส ยอดเป็นทรงกลม ภายในเจดีย์มีซุ้มโถง
เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปยืนปูนปั้น และมีภาพจิตรกรรมใช้สีแบบเอกรงค์เป็นภาพอดีตพระพุทธเจ้าและเหล่าเทวดากษัตริย์ที่มาแวดล้อมถวายดอกไม้
ส่วนซุ้มจรนัมด้านหลังของเรือนธาตุจะทำเป็นพระพุทธรูปนาคปรกอย่างสวยงาม
วัดเจดีย์เจ็ดแถวเป็นชื่อที่ตั้งขึ้นภายหลังโดยราษฎรในท้องถิ่น
เนื่องจากพบเจดีย์จำนวนมากมายหลายแถวภายในวัด และสมเด็จฯ
กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสันนิษฐานว่าวัดเจดีย์เจ็ดแถวเป็นที่ประดิษฐานพระอัฐิของพระราชวงศ์สุโขทัย
วัดนางพญา
ตั้งอยู่ใกล้กับกำแพงเมืองด้านทิศใต้ วัดหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
โบราณสถานที่สำคัญประกอบด้วยเจดีย์ประธานเป็นเจดีย์ทรงกลมตั้งอยู่บนฐานประทักษิณ
ที่ชั้นมาลัยเถาก่อซุ้มยื่นออกมาทั้งสี่ทิศ ซุ้มด้านหน้าบันไดทางขึ้นจนถึงภายในโถงเจดีย์
ตรงกลางโถงมีแกนเจดีย์ประดับด้วยลวดลายปูนปั้น วิหารก่อด้วยศิลาแลงมีมุขหน้าและมุขหลัง
ผนังวิหารเจาะช่องแสง ผนังด้านทิศใต้ยังมีลวดลายปูนปั้นที่สวยงาม
ลวดลายปูนปั้นที่วัดนางพญามีลักษณะเด่นคือ ลวดลายปูนปั้นที่เป็นกึ่งมนุษย์กึ่งวานรกำลังวิ่ง
แต่ถูกทำลายไปบางส่วน นอกจากนี้ยังทำเป็นรูปลวดลายพรรณพฤกษาและรูปเทพพนม
ซึ่งเป็นฝีมือชั้นครู รูปแบบศิลปะอยู่ในสมัยอยุธยาตอนต้น
วัดเขาพนมเพลิง
อยู่บนยอดเขาพนมเพลิงภายในกำแพงเมือง โบราณสถานที่สำคัญคือเจดีย์ประธานทรงกลม
ก่อด้วยศิลาแลง ตั้งแต่ก้านฉัตรขึ้นไปพังทลายหมด มณฑปก่อด้วยศิลาแลง
ฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสยกพื้นสูง หลังคาโค้งแหม มีบันไดทางขึ้นสู่มณฑป
ชาวบ้านเรียกว่าศาลเจ้าแม่ละอองสำลี เขาพนงเพลิงปรากฏในพงศาวดารเหนือตอนที่เกี่ยวกับการสร้างเมืองสวรรคโลก(ศรีสัชนาลัย)
โดยเลือกทำเลให้เขาพนมเพลิงอยู่กลางเมืองและสร้างวัดไว้บนเขาพนมเพลิงด้วย
สำหรับทางขึ้นวัดขึ้นได้ 2 ทาง คือจากด้านหน้าวัดทางแก่งหลวง
และด้านข้างวัดซึ่งทางขึ้นทำเป็นบันไดศิลาแลง ระหว่างทางขึ้นทั้งสองด้านมีศาลาที่พักด้วย
วัดเขาสุวรรณคีรี
ตั้งอยู่ถัดจากเขาพนมเพลิงไปทางด้านหลัง(ทิศตะวันตก)
โดยตั้งอยู่ขนเขาอีกยอดหนึ่งในเทือกเขาเดียวกัน กลุ่มโบราณสถานที่สำคัญคือเจดีย์ประธานทรงกลมองค์ระฆังขนาดใหญ่ก่อด้วยศิลาแลงฐานเขียงใหญ่
5 ชั้น ใช้สำหรับเป็นลานประทักษิณ มีซุ้มพระทั้ง 4 ด้าน
ตรงก้านฉัตรมีพระพุทธรูปปั้นปางลีลาเดินจงกลมรอบก้านฉัตรเช่นเดียวกับวัดช้างล้อม
ด้านหลังเจดีย์ประธานมีเจดีย์ทรงกลมล้อมรอบด้วยแนวกำแพงศิลาแลง
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้นอกกำแพงเมืองศรีสัชนาลัยโดยหันหน้าไปทางทิศตะวัออกเชื่อว่าวัดพระสรีรัตนมหาธาตุเป็นศูนย์กลางของเมืองเชลียง
ตั้งแต่สมัยพ่อขุนศรีนาวนำถม (ประมาณ พ.ศ. 1780) มาแล้ว
โดยมีหลักฐานยอดซุ้มปูนปั้นประตูทางเข้าวัด ซึ่งมีลักษณะรูปแบบศิลปะสมัยบายน
และหลักฐานจากการขุดค้นทางโบราณคดีที่ยืนยันได้ว่าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุมีอายุมาแล้วตั้งแต่พุทธศตวรรษที่
18 วัดพระศรีรัตนมหาธาตุเป็นกลุ่มโบราณสถานขนาดใหญ่ ปัจจุบันมีฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นราชวรวิหาร
โบราณสถานสำคัญมีดังนี้
ปรางค์ประธาน
ก่อด้วยศิลาแลงฉาบปูน ลักษณะรูปแบบสถาปัตยกรรมจัดอยู่ในสมัยอยุธยา
บริเวณเรือนธาตุด้านหน้ามีบันไดขึ้นองค์ปรางค์สู่ซุ้มโถง
ผนังภายในองค์ปรางค์พบว่ามีร่องรอยจิตรกรรมฝาผนังแต่ลบเลือนไปมาก
ด้านหน้าองค์ปรางค์มีวิหารภายในประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ปางมารวิชัย
ถัดจากพระพุทธรูปปางมารวิชัยทางด้านขวามีพระพุทธรูปปูนปั้นปางลีลาที่มีลักษณะงดงาม
กำแพงวัด เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้าง 60.00 เมตร ยาว 90.00
เมตร เหนือซุ้มประตูทำเป็นรูปคล้ายหลังคายอด เหนือซุ้มขึ้นไปปั้นปูนเป็นรูปพระพักตร์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร
พระธาตุมุเตา
อยู่ด้านหลังปรางค์ประธานนอกกำแพงแก้ว ลักษณะพระธาตุมุเตาเป็นเจดีย์ทรงมอญ
ในการขุดแต่งปี พ.ศ. 2535 ได้พบทองจังโกประดับยอดของเจดีย์
มณฑปพระอัฏฐารศ
อยู่ด้านหลังของพระธาตุมุเตา เดิมน่าจะเป็นมณฑปพระสี่อิริยาบถ
ต่อมาได้ซ่อมแซมดัดแปลง ภายในซุ้มคูหายังมีพระพุทธรูปปูนปั้นยืนอยู่
เดิมมณฑปหลังคาด้วยกระเบื้องดินเผา
วิหารพระสองพี่น้อง
อยู่ทางซ้ายมณฑปพระอัฏฐารศจากการขุดค้นทางโบราณคดีพบว่า
ฐานวิหารพระสองพี่น้องก่อทับอาคารเดิมที่ก่อด้วยอิฐ
โบสถ์ ตั้งอยู่ด้านหน้าพระวิหาร ปัจจุบันทางวัดได้บูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ทั้งหลังโดยสร้างทับโบสถ์เดิม
กุฏิพระร่วงพระลือ
ชาวบ้านเรียกว่า ศาลพระร่วงพระลือ ลักษณะมณฑป
ฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้าง หลังคาคล้ายรูปชามคว่ำซ้อนกัน
4 ชั้น ภายในประดิษฐานรูปหล่อพระร่วงพระลือ(จำลอง)
วัดชมชื่น
วัดชมชื่นตั้งอยู่ริมแม่น้ำยมห่างจากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุเชลียง
มาทางทิศตะวันออกประมาณ 400 เมตร โบราณสถานที่สำคัญคือ เจดีย์ประธานทรงกลมก่อด้วยศิลาแลง
วิหารอยู่ด้านหน้าเจดีย์ประธานก่อด้วยศิลาแลงขนาด 6 ห้อง
มีมุขยื่นออกมาด้านหน้า ด้านหลังพระวิหารเชื่อมต่อกับมณฑป
คล้ายเป็นห้องทึบอยู่ท้ายวิหาร หลังคาใช้ศิลาแลงก่อเหลื่อมเข้าหากันเป็นรูปจั่วแหลม
ด้านหน้าทั้งสองข้างมณฑปทำเป็นซุ้มจรนัม 2 ซุ้ม ด้านหลังมีซุ้มจรนัม
ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปนาคปรก แต่ปัจจุบันสูญหายไปแล้ว
นอกจากนี้ยังมีลวดลายปูนปั้นที่หน้าบันด้านหลังมณฑป จากการขุดค้นบริเวณด้านหน้าพระวิหารพบหลักฐานโครงกระดูกมนุษย์
จำนวน 15 โครง ในระดับลึก 7-8 เมตร กำหนดอายุได้ประมาณพุทธศตวรรษที่
9 เป็นต้นมา และพัฒนาจนถึงสมัยทวารวดี (พุทธศวรรษที่ 12-16)
พบกลุ่มโบราณสถานก่อด้วยอิฐที่มีขนาดใหญ่ 2 กลุ่ม และพบเครื่องถ้วยเชลียงจำนวนมาก
ซึ่งกำหนดอายุได้ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 17 เป็นต้นมา จนเข้าสู่ขั้นสุโขทัยที่ร่วมสมัยกับวัดชมชื่น
วัดเจ้าจันทร์
อยู่ด้านหลังวัดชมชื่น เป็นกลุ่มโบราณสถานสมัยสุโขทัยยุคต้น
โบราณสถานที่สำคัญ ประกอบด้วยปรางค์ประธานก่อด้วยศิลาแลง
รูปแบบสถาปัตยกรรมเป็นศิลปะแบบเขมรที่พบในประเทศไทย ที่เรือนธาตุมีซุ้มประกอบทั้ง
4 ด้าน เป็นซุ้มทางเข้าสู่องค์ปรางค์สันนิษฐานว่าน่าจะมีศาสนสถานก่ออิฐอยู่ก่อนแล้ว
ต่อมาเมื่อมีการจะสร้างปรางค์จึงทำการรื้อ เมื่อขุดค้นลงไปในระดับลึกพบหลักฐานโบราณวัตถุสมัยทวารวดี
เครื่องถ้วยหริภุญชัย ลูกปัดแก้วและชิ้นส่วนโครงกระดูกมนุษย์
ดังนั้นก่อนที่จะสร้างปรางค์ศิลาแลงองค์นี้ จะต้องมีศาสนสถานก่อด้วยอิฐเช่นที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
วัดชมชื่นซึ่งมีอายุก่อนพุทธศตรรษที่ 18 ในบริเวณวัดยังมีมณฑปพระอัฏฐารศก่อด้วยศิลาแลอยู่ด้านซ้ายขององค์พระปรางค์
พระวิหารตั้งอยู่ด้านหน้าองพระปรางค์ เมื่อได้ขุดทดสอบปรากฏว่าฐานพระวิหารได้มาสร้างภายหลังการถมอัดลูกรังรอบๆ
องค์ปรางค์แล้วจึงก่อสร้างพระวิหาร
กลุ่มเตาเผาทุเรียงบ้านเกาะน้อย
อยู่ห่างจากเมืองศรีสัชนาลัย
5 กิโลเมตร พบหลักฐานเตาตลอดริมฝั่งแม่น้ำยม โดยกระจายทั่วไปประมาณ
1.5 กิโลเมตร เท่าที่สำรวจพบแล้วประมาณ 200 เตา โดยอยู่รวมเป็นกลุ่มๆ
กลุ่มเตาเผาที่สำคัญที่ได้ดำเนินการสำรวจและขุดค้นพร้อมทั้งอนุรักษ์
และจัดทำอาคารจัดแสดงคือ
กลุ่มเตาเผาหมายเลข 61 มีเตาใต้ดิน 4 เตา เป็นเตาขุดลงไปในดิน
ภาชนะที่พบส่วนใหญ่เป็นไหขนาดใหญ่สำหรับบรรจุน้ำหรือของแห้ง
กลุ่มเตาเผาหมายเลข 42 เป็นแหล่งโบราณคดีที่ทำให้ทราบถึงพัฒนาการเตาเผาและสิ่งผลิตจากเตาเพราะภายในใต้ดินนั้นขุดพบเตาเผาสังคโลกที่ทับซ้อนกันอยู่ถึง
19 เตา
ประเภทและลักษณะของกลุ่มเตาเผาบ้านเกาะน้อย
1.เตาตะกรับ เป็นเตาเผาชนิดระบายความร้อนไหลผ่านตามแนวดิ่งหรือแนวตั้ง
ให้ความร้อนไม่เกิน 900 องศาเซลเซียส ลักษณะรูปร่างกลมเส้นผ่าศูนย์กลาง
1-2 เมตร แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ห้องบรรจุภาชนะตอนบนเป็นแผ่นดินเหนียวเจาะรูกลมเพื่อระบายความร้อน
และห้องใส่ไฟอยู่ด้านล่าง
2.เตาประทุน เป็นเตาเผาชนิดระบายความร้อนไหลผ่านในแนวนอนเช่นเดียวกับเตาทุเรียงที่บ้านป่ายาง
พัฒนาการของวิทยาการเตาเผาและผลิตผลเครื่องเคลือบดินเผา
ีพัฒนาการเตาประทุน
เตาขุดหรือเตาอุโมงค์เป็นเตาเผาระยะแรกโดยขุดเป็นโพรงลึกเข้าไปในดินธรรมชาติ
มีรูปด้านตัดเกือบกลมคล้ายโพรงสัตว์ ไม่มีคันกั้นไฟ พบมากในบ้านหนองอ้อ
บ้านเกาะน้อย เครื่องปั้นดินเผาที่พบมีทั้งเคลือบและไม่เคลือบ
เช่น ไห ชาม หลักฐานที่สำคัญที่พบคือ เครื่องเคลือบเชลียง
เตาขุดในระยะแรกเรียกว่า เตาเชลียง เริ่มปรากฏที่บ้านเกาะน้อย
ตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 17 เป็นต้นมา เตาบนดินระยะที่ 2
เป็นเตาระยะที่ 2 มีนาดใหญ่กว่าเตาขุด ส่วนใหญ่สร้างทับลงบนซากเตาขุดในระยะแรก
ส่วนใหญ่เผาภาชนะดินเผาเคลือบสีเขียวไข่กา เตาอิฐบนดินรุ่นหลัง
เป็นเตาเผาที่พัฒนาการขั้นสุดท้ายได้แก่ซากเตาอิฐขนาดใหญ่ที่พบบนเนินสูง
เตารุ่นนี้น่าจะเป็นช่วงที่เจริญสูงสุดในการผลิตสังคโลก
จนสามารถส่งไปขายที่ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ฟิลิปินส์ ระหว่างพุทธศวรรษที่
20-21
สถานที่ติดต่อ
อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย
อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย รหัสไปรษณีย์ 64190 หมายเลขโทรศัพท์
: 0-5567-9211 เปิดทำการทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์
อัตราค่าธรรมเนียมเข้าชม
: ชาวไทย 10 บาท
: ชาวต่างชาติ 40 บาท
|
|
สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย โรงแรมสุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย
กำเนิดอักษรไทย
งานใหญ่ลอยกระทง มั่นคงพุทธศาสนา พระแม่ย่ามิ่งเมือง อดีตรุ่งเรือง คือเมืองสุโขทัย |
ข้อมูลท่องเที่ยวจังหวัดสุโขทัย
|
|
|
|
|
|
|
|
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย |
|
|
|
|
|
ทัวร์โปรโมชั่น
โปรแกรมทัวร์อื่นๆ - เช็คที่นั่ง |
|
โปรแกรมจอยทัวร์ |
|
XIN879-CZ : เส้นทางสายไหม หลานโจว ภูเขาสายรุ้ง จางเย่ ด่านเจียยี่กวน ถ้ำตุนหวง สระน้ำวงพระจันทร์ ถ้ำโมเกาคู ทูรูฟาน ภูเขาหิมะเทียนซาน อูรูมูฉี (CZ)
ชมความมหัศจรรย์ของ ภูเขาสายรุ้ง Rainbow Mountain กับธรรมชาติที่สรรค์สร้าง
ชม ถ้ำตุนหวง ถ้ำหินแกะสลักขนาดใหญ่ที่สุดของจีน ขี่อูฐกลางทะเลทราย
เที่ยวชม ภูเขาหิมะเขาเทียนซาน สถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของซินเจียง (มรดกโลก)
ไม่ลงร้านช้อป - อาหารดี - โรงแรม 5 ดาว บิน CHINA SOUTHERN AIRLINE นั่งสบาย
วันที่ 2 9 เมษายน, 9 16 เมษายน, 30 เมษายน 7 พฤษภาคม, 9 16 พฤษภาคม, 21 28 พฤษภาคม 2568 |
|
TG-655 : อุทยานจิ่วจ้ายโกว อุทยานหวงหลง ต๋ากูปิงชวน โชว์เปลี่ยนหน้ากาก เมืองเก่าซงพาน ซอยกว้างแคบ ถนนคนเดินจิ่งหลี่ Pop Mart โชว์ทิเบต (TG)
เที่ยวครบ 3 อุทยาน 3 บรรยากาศ จิ่วจ้ายโกว อุทยานหวงหลง อุทยานต๋ากู่ปิงชวน
ชม 2 โชว์ โชว์เปลี่ยนหน้ากาก ที่โด่งดังแห่งเสฉวน และ โชว์ทิเบต แห่งจิ่วจ้ายโกว
อาหารดี - โรงแรมระดับ 5 ดาว ไม่ลงร้านช้อป - บินการบินไทย
วันที่ 11 - 16 เมษายน 2568 |
|
CGO651-DD : ซีอาน เทศกาลดอกโบตั๋นบาน ลั่วหยาง สุสานทหารดินเผาจิ๋นซี ถ้ำน้ำแข็งหมื่นปี อุทยานหยุนไถ่ซาน ถ้ำหลงเหมิน เจดีย์ห่านป่าใหญ่ โชว์เส้นทางสายไหม (DD)
ชม ดอกโบตั๋นบาน เทศกาลดอกโบตั๋นบานเมืองลั่วหยางที่สวยงามที่สุดในประเทศจีน
ชม สุสานทหารดินเผาจิ๋นซี อันยิ่งใหญ่ และชม ถ้ำผาหลงเหมิน ผาหินแกะสลักมรดกโลก
ชม ถ้ำน้ำแข็งหมื่นปี คล้ายคริสตัลและชม อุทยานหยุนไถซาน อุทยานสวรรค์ที่สวยงามที่สุด
ชม โชว์เส้นทางสายไหม โชว์ที่สวยที่สุดของซีอานที่บอกเล่าเรื่องราวเส้นทางการค้าโบราณ
อาหารดี - โรงแรมที่พักระดับ 5 ดาว นั่งรถไฟความเร็วสูง (ไม่ต้องลากกระเป๋าขึ้นรถไฟ)
วันที่ 12 - 17 เมษายน 2568 |
|
TG-651 : คุนหมิง ต้าหลี่ ลี่เจียง แชงกรีล่า วัดซงจ้านหลิง ภูเขาหิมะมังกรหยก สวนดอกไม้ฮอบบิท เมืองโบราณลี่เจียง (TG)
นั่งรถไฟความเร็วสูง คุนหมิง-แชงกรีล่า เที่ยวสวนดอกไม้ฮอบบิท
นั่งกระเช้าใหญ่ขึ้นภูเขาหิมะมังกรหยก
อาหารดี - โรงแรม 5 ดาว บินการบินไทย - ไม่ลงร้านช้อป
วันที่ 11 - 16 กุมภาพันธ์, 11 - 16 เมษายน, 12 - 17 เมษายน 2568 |
|
FD659-CSX : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่ หมู่บ้านโบราณหวงหลิง ล่องเรือชมแสงสีอู้วนี่โจว ภูเขาหลิงซาน ไหว้พระใหญ่ตงหลิน เมืองจิ่งเต๋อเจิ้น พิพิธภัณฑ์เซรามิค (FD)
เที่ยว หมู่บ้านโบราณหวงหลิง นับเป็นหมู่บ้านสวยที่สุดในเมืองอู้หยวน มณฑลเจียงซี
พักใน หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่ ถ่ายรูปสวยๆแสงสีแสงไฟยามค่ำคืน
นำท่าน ล่องเรือ ชมแสงสียามค่ำคืนอู้วี่โจว พร้อมชมแลนด์มาร์คแห่งใหม่
อาหารดี - โรงแรมระดับ 5 ดาว ไม่ลงร้านช้อป - ไม่ต้องลากกระเป๋าขึ้นรถไฟ
วันที่ 11 - 16 กุมภาพันธ์, 18 - 23 มีนาคม, 22 - 27 เมษายน 2568 |
|
XIN765-CZ : ซินเจียงใต้ คัชการ์ ทะเลสาบไป๋ซาหู ถนนคาราโครัมไฮเวย์ ทะเลสาบคาราคู่เล่อ ถนนผานหลงกู่เต้า หมู่บ้านถ่าเอ๋อ เมืองโบราณซือโถเฉิง ภูเขาหิมะMuztagh Peak (CZ)
ชม เมืองเก่าคัชการ์ The Old City of Kashgar ผสมระหว่างชาวฮั่นและชาวอูยกูร์
ชม ถนนสายมิตรภาพจีน-ปากีสถาน หรือ คาราโครัม ไฮเวย์ KKH (Karakoram Highway)
ชม ทะเลสาบไป๋ซาหู ที่ฉากหลังสวยงามด้วยภูเขาทรายสีขาวตัดกับท้องฟ้าสีคราม
ชม หมู่บ้านถาเอ่อ สวนดอกแอปริคอต ชมดอกแอปริคอตที่บานสวยงามทั้งหมู่บ้านในแถบเทือกเขาคุนหลุน
อาหารดี - โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว บิน China Southern Airline (Full-Service)
วันที่ 24 - 30 มีนาคม, 28 เม.ย. - 4 พ.ค., 26 พ.ค. - 1 มิ.ย., 16 - 22 มิถุนายน 2568 |
|
DEL864-AI : แคชเมียร์ ดอกทิวลิปบาน ทัชมาฮาล พระราชวังอัคราฟอร์ด ศรีนาคา พาฮาลแกม Aru Valley สวนชาลิมาร์ กุลมาร์ค โซนามาร์ค ล่องทะเลสาบดาล (AI)
เที่ยวชม ทัชมาฮาล 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ชม อัคราฟอร์ท Agra Fort พระราชวังเก่าแก่ของราชวงศ์โมกุล
เที่ยวครบ 4 สถานที่หลัก พาฮาลแกรม, กุลมาร์ค, โซนามาร์ค และ เมืองศรีนาคา
ชม เทศกาลดอกทิวลิปบาน ปีละครั้ง (เฉพาะเดือนเมษายน)
อาหารดี - โรงแรมดีระดับ 4-5 ดาว 6 คืน / เดินทางสะดวกสบายโดย Air India (Full-Service)
วันที่ 6 - 13 เม.ย., 12 - 19 เม.ย., 13 - 20 เมษายน 2568 : ราคา 56,995.-บาท |
|
DEL189-AI : แคชเมียร์ ดอกทิวลิปบาน ทัชมาฮาล พระราชวังอัคราฟอร์ด ชัยปุระ นครสีชมพู ศรีนาคา พาฮาลแกม Aru Valley สวนชาลิมาร์ กุลมาร์ค โซนามาร์ค ล่องทะเลสาบดาล (AI)
เที่ยวชม ทัชมาฮาล 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ชม อัคราฟอร์ท Agra Fort พระราชวังเก่าแก่ของราชวงศ์โมกุล
ชม เมืองชัยปุระ นครสีชมพู เมืองแห่งอารยธรรมราชบุตร
เที่ยวครบ 4 สถานที่หลัก พาฮาลแกรม, กุลมาร์ค, โซนามาร์ค และ เมืองศรีนาคา
ชม เทศกาลดอกทิวลิปบาน ปีละครั้ง (เฉพาะเดือนเมษายน)
วันที่ 6 - 15 เมษายน 2568 : ราคา 66,995.-บาท |
|
DEL755-TG : ถ้ำอชันต้า ถ้ำเอลโลร่า ทัชมาฮาล พระราชวังอัคราฟอร์ท มุมไบ ถ้ำช้ำง วัดพระพิฆเนศ (TG)
ชม ถ้ำอชันตา ถ้ำเอลโลร่า เมืองออรังกาบัด
ชม ถ้ำช้าง และ วัดพระพิฆเนศเมืองมุมไบ
เที่ยวชม ทัชมาฮาล และ อัคราฟอร์ท เมืองอัครา
พักโรงแรม 4 ดาว บินการบินไทยและบินภายใน 2 ไฟลท์
วันที่ 11 - 17 กุมภาพันธ์ 2568 : ราคา 53,995.-บาท
|
|
|
สอบถามทัวร์เพิ่มเติม
ID Line Office : @oceansmiletour
คุณเล็ก โทร.082-3656241 ID Line : lekocean2
คุณโจ้ โทร.093-6468915 ID Line : oceansmile
รับทำกรุ๊ปเหมา เที่ยวส่วนตัว ดูงาน
ประเทศจีน (ทุกเมือง) อินเดีย (ทุกเมือง)
เนปาล ภูฏาน บาหลี ศรีลังกา ลาว กัมพูชา เวียดนาม พม่า |
|
| |
|