บริษัททัวร์ โอเชี่ยนสไมล์ทัวร์







 
• สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศมาเลเซีย
• มะละกา มรดกโลกแห่งมาเลเซีย
มะละกา
บริเวณจัตุรัสแดง มะละกา
มะละกา
โบสถ์คริสต์มะละกา
มะละกา
โบสถ์คริสต์มะละกา
มะละกา
บริเวณจัตุรัสแดง มะละกา
โบสถ์คริสต์มะละกา มาเลเซีย
มะละกา
จัตุรัสแดง (Red Square) เมืองมะละกา มาเลเซีย
ทัวร์มาเลเซีย
เที่ยวมะละกา ดัทช์สแควร์ มาเลเซีย
• ข้อมูลท่องเที่ยวรัฐมะละกา
• มะละกา เป็นเมืองหลวงของรัฐมะละกา 1 ใน 13 รัฐ ของประเทศมาเลเซีย เราคงเคยได้ยินชื่อช่องแคบมะละกาบ่อยๆ โดยช่องแคบมะละกาเป็นช่องแคบที่อยู่ระหว่างแหลมมลายูกับเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย ส่วนที่แคบที่สุดมีความกว้าง 1.5 ไมล์ เป็นยุทธศาสตร์ทางการเดินเรือที่สำคัญของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
• รัฐมะละกา เป็นรัฐทางตอนใต้ในประเทศมาเลเซีย ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบมะละกา ตรงข้ามกับเกาะสุมาตรา รัฐมะละกาเป็นหนึ่งในสองรัฐของมาเลเซียที่ไม่มีเจ้าผู้ครองรัฐเป็นประมุข แต่มีผู้ว่าราชการรัฐแทน เป็นเมืองศูนย์กลางทางการค้าระหว่างตะวันออกและตะวันตกบนช่องแคบมะละกามากว่า 500 ปี มีลักษณะของสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างศิลปกรรมโปรตุเกส ดัชต์และมาเลย์ ได้รับการยกย่องให้เป็นนครประวัติศาสตร์เมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ในปี 2008
• รัฐมะละกา (Melaka) ชาวมาเลย์ทุกคนถือว่ารัฐนี้เป็นจุดเริ่มต้นของประเทศ เพราะเป็นทั้งจุดเริ่มต้นทางประวัติศาสตร์และเป็นสถานที่ประกาศเอกราชจากการปกครองของอังกฤษ มะละกาได้รับการก่อร่างสร้างเมืองโดยเจ้าชายปรเมศวร (Prine Parameswara) ที่ลี้ภัยมาจากชวาใน พ.ศ. 1939 เมืองนี้เจริญขึ้นเมื่อมีการค้าขายทางทะเลด้วยตำแหน่งของเมืองที่ตั้งอยู่ในช่องแคบระหว่างเกาะสุมาตราและแหลมมลายู ซึ่งปัจจุบันเรียกว่าช่องแคบมะละกา เป็นเส้นทางเดินเรือจากมหาสมุทรอินเดียไปทะเลจีนใต้ทำให้มะละกาสามารถเจริญสัมพันธไมตรีกับชาติต่าง ๆ โดยเฉพาะจีน และยังการค้าทางทะเลนี้ยังเป็นการนำพาพ่อค้าชาวอาหรับมาที่นี่มิใช่แค่เพื่อการค้า แต่เป็นการมาเพื่อเผยแพร่ศาสนาอิสลามอีกด้วยจนกระทั่งพระราชาผู้ปกครองมะละกาทรงเปลี่ยนพระยศเป็นสุลต่าน และรับเอาศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติจนปัจจุบัน ความเจริญรุ่งเรืองทำให้มะละกาเป็นที่หมายปองของชาติตะวันตกเพื่อควบคุมเส้นทางเดินเรือในภูมิภาคนี้
โบสถ์เซนต์ปอลต์ (St. Paul’s Chruch) มะละกา
ทัวร์มาเลเซีย
ป้อมประตูซานติเอโก (Porta De Santiago) มะละกา
ทัวร์มาเลเซีย
• สถานที่ท่องเที่ยวมะละกา
• การเที่ยวชมมะละกา สามารถเดินท่องเที่ยวได้เพราะสถานที่เที่ยวแต่ละที่อยู่ไม่ไกลนัก แต่ถ้าหากอยากได้สีสันที่มาพร้อมความประทับใจสามารถใช้บริการสามล้อถีบซึ่งแต่ละคันตกแต่งประดับประดาไม่ซ้ำกันเลยสักคัน จุดรวมของสามล้อจะอยู่บริเวณหน้าจัตุรัสดัชต์ (Dutch Square)
• โบสถ์คริสต์มะละกา (Christ Church Melaka) โบสถ์สีแดงในคริสต์ศาสนานิกายโปรเตสแตนท์ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2284 เพื่อเป็นที่ระลึกในวาระครบตอบ 100 ปีที่ชาวดัตช์ปกครองมะละกาใช้เวลาในการสร้าง 12 ปี แต่ภายหลังเมื่ออังกฤษเข้าปกครองได้เปลี่ยนเป็นโบสถ์ในนิกายแองกลิคันและมีการนำเครื่องวัดทิศทางลมรูปไก่ (Weathercock) มาติดไว้เหนือระฆังบนยอดโบสถ์ และมีการสร้างน้ำพุหินอ่อนและหอนาฬิกาด้านหน้าเพิ่มเติม ปัจจุบันยังคงเป็นโบสถ์ของชาวคริสต์เช่นเดิม นักท่องเที่ยวและผู้นับถือศาสนาอื่นสามารถเข้าชมได้ แต่ห้ามถ่ายรูป
• พิพิธภัณฑ์มะละกา (Cultural Museum) อยู่บนเนินเขาหน้าโบสถ์ดัตช์ โดยดัดแปลงจากศูนย์กลางการปกครองของชาวดัตช์ภายในจัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่เมื่อครั้งเจ้าชายปรเมศวรทรงก่อตั้งมะละกา ตลอดจนช่วงที่อยู่ภายใต้การปกครองของชาวยุโรปหลายชาติ มีการจัดแสดงวัตถุโบราณ เช่น เครื่องปั้นดินเผา กริช เหรียญกษาปณ์ เครื่องแต่งกายของสุลต่าน และภาพถ่ายในอดีต
• โบสถ์เซนต์ปอลต์ (St. Paul’s Chruch) ตั้งอยู่บนเนินเขาเซนต์ปอล สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2064 ปัจจุบันเหลือเพียงผนังสี่ด้านไว้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้เท่านั้น ในยุคที่โปรตุเกสปกครองมะละกา โบสถ์แห่งนี้ชื่อว่า Nosa Senhora แต่เปลี่ยนเป็น St. Paul เมื่อชาวดัตช์เข้ามาปกครอง ด้านหน้ามีรูปปั้นนักบุญฟรานซิส เซเวียร์ (St. Francis Xavier) ผู้มีชื่อเสียงด้านการเผยแผ่ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิคและมาเผยแผ่ศาสนาที่มะละกาถึง 4 ครั้งจนกระทั่งเสียชีวิตศพของนักบุญฟรานซิสจึงได้รับการฝังไว้ที่หน้าโบสถ์แห่งนี้ก่อนจะนำส่งต่อไปยังประเทศอินเดีย
• ป้อมประตูซานติเอโก (Porta De Santiago) อยู่บริเวณเชิงเขาเซนต์ปอล สร้างขึ้นโดยชาวโปรตุเกสในปี พ.ศ. 2054 เป็นส่วนที่ยังหลงเหลือของป้อมเอฟาโมซาที่ถูกทำลายลงในระหว่างสงครามแย่งชิงมะละกาของโปรตุเกสและฮอลันดา จนเมื่อชาวดัตช์ได้เข้าปกครองมะละกา ป้อมเอฟาโมซาได้รับการบูรณะอีกครั้ง แต่ถูกทำลายอีกครั้งด้วยกองทัพเรืออังกฤษ คงเหลือไว้เพียงป้อมประตูซานติเอโกเท่านั้น
• ตึกอนุสรณ์การประกาศเอกราช (Proclamation of Independence Memorial) อยู่ตรงข้ามกับป้อมประตูซานติเอโก สร้างขึ้นในสมัยที่อังกฤษเข้าปกครองมะละกาตามแบบสถาปัตยกรรมวิคตอเรียแต่ยังคงมีสัญลักษณ์ของอิสลามด้วยยอดโดมคู่สีทอง ใช้เป็นสถานที่จัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ในช่วงที่ถูกปกครองโดยชาติตะวันตก และเหตุการณ์วันประกาศอิสรภาพในวันที่ 31 สิงหาคม 2500
• วังสุลต่านแห่งมะละกา (Melaka Sultanate Palace หรือ Istana Kesultanan Melaka) อยู่บริเวณด้านหลังตึกอนุสรณ์การประกาศเอกราชสร้างขึ้นแทนของเดิมที่ถูกไฟไหม้ โดยสร้างจำลองจากวังสุลต่านในสมัยก่อนถูกโปรตุเกสเข้ายึดครอง ภายในจัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ด้านการเดินเรือสมัยถูกปกครองด้วยชาติตะวันตก พร้อมทั้งเรื่องราววิถีชีวิต การแต่งกาย การละเล่นต่าง ๆ
• พิพิธภัณฑ์อิสลาม (Islamic Museum) อาคารสีแดง แต่เดิมเป็นสถานที่สอนศาสนาอิสลามที่เก่าแก่ที่สุดในมะละกา ภายในจัดแสดงเกี่ยวกับการเผยแผ่ศาสนาอิสลามในประเทศมาเลเซีย
• ถนนยองเกอร์ (Jonker Street) ซึ่งเป็นถนนคนเดินจำหน่ายอาหารและของที่ระลึกมากมาย บริเวณนี้เต็มไปด้วยโบราณสถานและศาสนสถานที่สำคัญหลายแห่งผสมผสานกันระหว่างจีน ฮินดู และมุสลิม
• พิพิธภัณฑ์บาบาโนนยา (Baba Nyonya Heritage Museum) สร้างด้วยสถาปัตยกรรมตามแบบชิโน – โปรตุกีสเป็นห้องแถวของคหบดีชาวจีน ชานเชงชิว (Chan Cheng Siew) ภายในจัดแสดงเป็นห้อง ๆ เช่นห้องนอน ห้องนั่งเล่น เครื่องประดับบ้าน สัตว์มงคลตามความเชื่อของชาวจีน คำว่า Baba หมายถึง ผู้ชาย ส่วน Nyonya หมายถึง ผู้หญิง รวมกันจะหมายถึง ลูกหลานที่เกิดจากชาวจีนที่มาตั้งรกรากในแหลมมลายู
• มัสยิดกัมปุงคลิง (Kampung Kling Mosque) และมัสยิดกัมปุงฮูลู (Kampung Hulu Mosque) มัสยิดสองแห่งมีลักษณะคล้ายกัน มัสยิดกัมปุงฮูลู สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2271 มีความแตกต่างจากมัสยิดทั่วไปเพราะเป็นมัสยิดที่ไม่มียอดโดมแต่กลับสร้างแบบมีหลังคาทรงพีระมิดตามแบบสถาปัตยกรรมชวา ภายในมีสระน้ำวุฎูอ์ ที่เป็นสถานที่ซึ่งชาวมุสลิมใช้ชำระมือ ปาก จมูก ใบหน้า แขน ศีรษะ หู และเท้าก่อนทำละหมาด
• ศาลเจ้าเช็งฮุนเต็ง (Cheng Hoon Teng Temple) สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2189 ในแต่ละวันจะมีชาวมาเลย์เชื้อสายจีนเป็นจำนวนมากเข้ามานมัสการเจ้าแม่กวนอิม เทพเจ้ากวนอู และเหล่าเทพเจ้าในศาลเจ้าแห่งนี้ ปัจจุบันได้มีการก่อสร้างขยายไปอีกฟากฝั่งถนนเป็นศาลเจ้าหินอ่อนขนาดใหญ่สองชั้น ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปหยกขาวที่อัญเชิญมาจากประเทศพม่า
• วัดศรีโพยาธาวินยากามูรติ (Sri Poyyatha Vinayaga Moorthy Temple) เป็นวัดฮินดูที่เก่าแก่ที่สุดในมาเลเซีย สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2324 ภายในประดิษฐานพระพิฆเนศวร และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวฮินดูในมะละกา
• Bukit China หรือ เนินเขาของชาวจีน ลึกเข้าไปในเขตเมืองเก่ามะละกามีเนินเขาที่เป็นที่รู้จักกันในนามว่า “เนินเขาซำปอกง” ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของศาลเจ้าซำปอกง (Sam Po Kong Temple) คำว่าซำปอกงเป็นคำที่ชาวจีนใช้เรียกแม่ทัพที่เดินทางมาทางเรือในยุคอดีต ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึง “เจิ้งเหอ” แม่ทัพชาวจีนที่เดินทางมายังมะละกาตั้งแต่ยุคเจ้าชายปรเมศวร การเดินทางมาของแม่ทัพผู้นี้ก่อให้เกิดสัมพันธไมตรีอันดีระหว่างจีนและมะละกา นำมาซึ่งความเจริญสู่มะละกาในเวลาต่อมา และข้าง ๆ ศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีสถานที่อีกแห่งคือ Hang Li Poh’s Well บ่อน้ำโบราณ ในตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาว่าเป็นบ่อน้ำที่เจ้าหญิง ฮัง ลี โปห์ ราชธิดาจากเมืองจีนเคยใช้ในคราวเดินทางมาอภิเษกสมรสกับสุลต่านแห่งมะละกา ซึ่งต่อมาเป็นกลายเป็นแหล่งน้ำจืดที่สำคัญของมะละกา
• นอกจากโบราณสถานและศาสนสถานแล้วมะละกายังมีสิ่งก่อสร้างยุคใหม่ที่ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำ คือ Taming Sari Tower หอคอยสูง 110 เมตร ซึ่งสามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์ของมะละกาได้ในแบบ 360 องศาและ Eye on Melaka ชิงช้าสวรรค์ ที่มีจำนวนกระเช้าถึง 42 ใบ และมีความสูง 60 เมตร
ตึกอนุสรณ์การประกาศเอกราช มะละกา
ทัวร์มาเลเซีย
ตึกอนุสรณ์การประกาศเอกราช
ทัวร์มาเลเซีย
ตึกอนุสรณ์การประกาศเอกราช
ทัวร์มาเลเซีย
ทัวร์มาเลเซีย
กังหัน บริเวณจัตุรัสแดง
ทัวร์มาเลเซีย
โบสถ์เซนต์ปอลต์ มะละกา
ทัวร์มาเลเซีย
โบสถ์เซนต์ปอลต์ มะละกา
ทัวร์มาเลเซีย
โบสถ์เซนต์ปอลต์ มะละกา
ทัวร์มาเลเซีย มะละกา
ป้อมประตูซานติเอโก มะละกา
ทัวร์มาเลเซีย มะละกา
ป้อมประตูซานติเอโก มะละกา
ทัวร์มาเลเซีย มะละกา
ป้อมประตูซานติเอโก มะละกา
ทัวร์มาเลเซีย มะละกา
ป้อมประตูซานติเอโก มะละกา
ทัวร์มาเลเซีย มะละกา
โบสถ์เซนต์ปอลต์ มะละกา
ทัวร์มาเลเซีย มะละกา
โบสถ์เซนต์ปอลต์ มะละกา
ทัวร์มาเลเซีย มะละกา
ป้อมประตูซานติเอโก มะละกา
ทัวร์มาเลเซีย มะละกา
ตึกอนุสรณ์ประกาศเอกราช
ทัวร์มาเลเซีย มะละกา
พิพิธภัณฑ์มะละกา
ทัวร์มาเลเซีย
ตึกอนุสรณ์ประกาศเอกราช
ทัวร์มาเลเซีย
ตึกอนุสรณ์ประกาศเอกราช
ทัวร์มาเลเซีย
ตึกอนุสรณ์ประกาศเอกราช
ทัวร์มาเลเซีย
สุลต่านมาเลเซีย
ทัวร์มาเลเซีย
ตึกอนุสรณ์ประกาศเอกราช
ทัวร์มาเลเซีย
โรงแรมเมืองมะละกา
ทัวร์มาเลเซีย
โรงแรมเมืองมะละกา
มะละกา
คลองมะละกา
มะละกา
คลองมะละกา
มะละกา
วัดจีนในย่านไชน่าทาวน์
มะละกา
บ้านสวยๆในย่านไชน่าทาวน์
คลองมะละกา มาเลเซีย
มะละกา
ถนนคนเดินย่านไชน่าทาวน์ สำหรับช้อปปิ้งในเมืองมะละกา
มะละกา
เที่ยวมะละกา ถนนคนเดินมะละกา Jonker street
• ประวัติศาตร์มะละกา
• ประเทศแรกที่เข้ายึดครองมะละกา เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2054 คือโปรตุเกสและปกครองมะละกานานถึง 130 ปีนำมาซึ่งสิ่งก่อสร้างจำนวนมากในเขตเมืองเก่ามะละกา
• เมื่อวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2184 ชาวดัตช์ จากประเทศฮอลันดารบชนะโปรตุเกส มะละกาจึงตกเป็นเมืองขึ้นของชาวดัตช์ ในช่วงที่ตกเป็นเมืองขึ้นของดัตช์ความเจริญหยุดชะงักไปเกือบ 150 ปี มะละกาเกือบจะหมดความสำคัญในฐานะเมืองท่าเนื่องจากชาวดัตช์หันไปพัฒนาเมืองจาการ์ตา (ปัจจุบันคือเมืองหลวงของอินโดนีเซีย) มาเป็นเมืองท่าแทน
• อังกฤษยึดครอง เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2367 - 2500
• ญี่ปุ่นรุกราน เมื่อปี พ.ศ. 2484 – 2488
• เข้าร่วมสหพันธ์ มาเลเซีย ในปี พ.ศ. 2500

• ประวัติศาสตร์เมืองมะละกา
• เมื่อราว พ.ศ. 1800 เจ้าชายปรเมศวร หรือปาราเมิสวารา ได้ทรงอพยพออกจากปาเล็มบัง เหตุเนื่องด้วยการรุกรานจากอาณาจักรมัชปาหิต ซึ่งก่อนที่จะมาถึงมะลากานั้น เจ้าชายปรเมศวรได้เข้าไปตั้งเมืองอยู่ที่ตูมาซิกหรือเตมาเซก หรือสิงคโปร์ในปัจจุบัน แต่เนื่องด้วยในตอนนั้นตูมาซิก ตกอยู่ใต้อำนาจของสยาม ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งกับสยามและเจ้าชายองค์นี้จึงต้องออกเดินทางออกมา จนมาถึงที่มะละกา มาสร้างเมืองใหม่ที่นี่และกลายเป็นจักรวรรดิการค้าที่ยิ่งใหญ่ในอีก 200 ปีต่อมา และเป็นแหล่งแรกที่ศาสนาอิสลามเข้าสู่มาเลเซียผ่านทางพ่อค้ามุสลิมอินเดียที่มาจากปาไซ และเปลี่ยนการปกครองมาเป็นระบอบสุลต่าน ต่อมา พ.ศ. 2052 โปรตุเกสเดินทางมาถึงมะละกาเพื่อขอตั้งสถานีการค้าแต่ถูกปฏิเสธ จนนำไปสู่สงครามระหว่างโปรตุเกส-มะละกา ซึ่งโปรตุเกสเป็นฝ่ายชนะเมื่อ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2054 มะละกาถูกเนเธอร์แลนด์ยึดครองเมื่อ พ.ศ. 2184 หลังจากเนเธอร์แลนด์ขับไล่โปรตุเกสออกไป ต่อมามะละกากลายเป็นอาณานิคมของอังกฤษตามสนธิสัญญาแองโกล-ดัตซ์ หรือสนธิสัญญาอังกฤษ-ฮอลแลนด์ พ.ศ. 2367
ภายใต้การปกครองของอังกฤษ มะละการวมกับปีนังและสิงคโปร์ในชื่อนิคมช่องแคบซึ่งแยกต่างหากจากสหพันธรัฐมลายู หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มะละกาเข้ารวมอยู่ในสหภาพมาลายา และกลายเป็นส่วนหนึ่งของมาเลเซียเมื่อมาเลเซียได้รับเอกราชจากอังกฤษ
• ประชากรมะละกา
• มะละกามีประวัติศาสตร์ที่เกื่ยวกับกลุ่มคนหลากหลายเชื้อชาติและศาสนา ทำให้ปัจจุบันมะละกาเป็นรัฐที่มีวัฒนธรรมผสมผสาน โดยมีประชากรประมาณ 759,000 คน (พ.ศ. 2550) ซึ่งประกอบด้วย
• ชาวมาเลย์ประมาณ 57%
• ชาวจีนประมาณ 32%
• ส่วนที่เหลือเป็นชาวอินเดีย ชาวคริสตัง ซึ่งเป็นลูกหลานชาวโปรตุเกสในสมัยอาณานิคม

ถนนคนเดินย่านไชน่าทาวน์ สำหรับช้อปปิ้งในเมืองมะละกา
มะละกา
ตึกสวยๆในย่านไชน่าทาวน์ เมืองมะละกา
มะละกา
ล่องเรือแม่น้ำมะละกา มาเลเซีย สีสันในยามค่ำคืน
• มะละกา บนเส้นทางการท่องเที่ยว
• ด้วยภูมิศาสตร์ที่ตั้ง ทำให้เมืองมะละกากลายเป็นเมืองท่าริมทะเลที่เติบโตจนกลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญ เป็นเส้นทางเดินเรือค้าขายระหว่างชาติตะวันตกและตะวันออก สินค้าสำคัญก็มีทั้ง เครื่องเทศ ผ้าไหม ชา ฝิ่น ยาสูบ ทองคำ ฯลฯ มะละกาจึงเป็นสิ่งดึงดูดความสนใจจากบรรดานักล่าอาณานิคมชาวตะวันตก โดยโปรตุเกสเป็นชาติแรกที่เข้ามายึดครองมะละกาใน ค.ศ.1511-1641 ก่อนที่จะถูกดัตช์ (ฮอลแลนด์) เข้ามาครอบครองต่อใน ค.ศ.1641-1795 จากนั้นเปลี่ยนมือผู้ปกครองมาเป็นอังกฤษใน ค.ศ.1795-1941 และญี่ปุ่นเข้ามายึดครองในช่วงสั้นๆ ระหว่าง ค.ศ.1941-1945 ก่อนจะกลับไปอยู่ใต้อาณานิคมของอังกฤษอีกครั้ง ใน ค.ศ.1945-1957 และท้ายที่สุด มาเลเซียได้ประกาศอิสรภาพใน ค.ศ. 1957 ซึ่งมะละกาคือสถานที่ประกาศเอกราช โดยปัจจุบันตึกอนุสรณ์ประกาศอิสรภาพยังคงตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่ในย่านท่องเที่ยวสำคัญของเมืองนี้
• การตกอยู่ใต้อาณัติของชาติตะวันตกเป็นเวลานานทำให้มะละกามีลักษณะของสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างศิลปกรรมโปรตุเกส ดัชต์และมาเลย์ ซึ่งในปัจจุบันได้กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
• สำหรับการท่องเที่ยวในเมืองเก่ามะละกา จุดเริ่มต้นจาก “เรด สแควร์” (Red Square) หรือจัตุรัสแดง หรือที่หลายๆ คนเรียกว่า จัตุรัสดัตช์ เนื่องจากที่นี่เคยเป็นศูนย์กลางชุมชนดัตช์ในสมัยที่เข้ามาปกครองมลายู อาคารต่างๆ ที่ล้อมรอบจัตุรัสเป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก ใจกลางจตุรัสเป็นลานน้ำพุแบบอังกฤษที่สร้างถวายแด่พระราชินีวิคตอเรียใน ค.ศ.1904 ส่วนรอบๆ ลานน้ำพุคือหอนาฬิกา โบสถ์คริสต์ (Christ Church) ศิลปกรรมดัตช์ประยุกต์ ที่สร้างขึ้นใน ค.ศ.1753 และอาคารสตัดธิวท์ (Stadhuys) ที่สร้างขึ้นใน ค.ศ.1650 เป็นอาคารดัตช์เก่าแก่ที่สุดในมาเลเซีย ปัจจุบันอาคารสตัดธิวท์กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ โบราณคดี และวรรณคดีของมะละกา อาคารทั้งสามต่างทาด้วยสีแดงเข้ม จนกลายเป็นชื่อเรียกจัตุรัสแดงนั่นเอง
• จากจัตุรัสแดงก็ไปเที่ยว ป้อม A’Famosa ป้อมปืนที่โปรตุเกสสร้างขึ้นใน ค.ศ.1511 ปัจจุบันคงเหลืออยู่เพียงป้อมเดียว ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของมะละกาที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนกัน ป้อมแห่งนี้ตั้งที่อยู่เชิงเขาเล็กๆ ซึ่งบนยอดเขาเป็นที่ตั้งของโบสถ์เซนต์ปอล (St.Paul) ที่สร้างขึ้นใน ค.ศ.1753 ด้านหน้าโบสถ์มีรูปปั้นของนักบุญ Francis Xavier ตั้งอยู่ สำหรับการเดินขึ้นไปยังโบสถ์เซนต์ปอลนั้นมีสองเส้นทาง คือขึ้นจากทางป้อม A’Famosa หรือจะเลือกขึ้นทางอาคารสตัดธิวท์ก็ได้ และหากขึ้นทางนี้ก็จะได้ชมต้นมะละกาหรือต้นมะขามป้อม และยังสามารถชมทิวทัศน์ของช่องแคบมะละกาไกลๆ ได้ด้วย
• นอกจากป้อมเก่าแก่แล้ว ยังมี ตึกอนุสรณ์ประกาศอิสรภาพ ที่ภายในจัดเก็บข้อมูลเหตุการณ์การประกาศอิสรภาพของชาวมาเลเซีย พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรม เมืองเก่ามะละกานี้มีพิพิธภัณฑ์อยู่เยอะมาก นั่นเพราะมะละกาถือเป็นต้นทางประวัติศาสตร์ของมาเลเซียที่เต็มไปด้วยร่องรอยทางประวัติศาสตร์ระหว่างชาติตะวันตกยุคล่าอาณานิคม
เรือสินค้าจำลอง สีสันคลองมะละกา
มะละกา
สีสันคลองมะละกาในยามค่ำคืน
มะละกา
มะละกา
ช้อปปิ้งย่านไชน่าทาวน์
มะละกา
ช้อปปิ้งย่านไชน่าทาวน์
มะละกา
ช้อปปิ้งย่านไชน่าทาวน์
มะละกา
บ้านสวยๆในย่านไชน่าทาวน์
มะละกา
วัดจีนในย่านไชน่าทาวน์
มะละกา
วัดจีนในย่านไชน่าทาวน์
มะละกา
ช้อปปิ้งย่านไชน่าทาวน์
มะละกา
ช้อปปิ้งย่านไชน่าทาวน์
มะละกา
สีสันคลองมะละกา
มะละกา
สีสันคลองมะละกา
มะละกา
สีสันคลองมะละกา
มะละกา
สีสันคลองมะละกา
สถานที่ท่องเที่ยวมาเลเซีย
• สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ประเทศมาเลเซีย
ประเทศมาเลเซีย
• ประเทศมาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้านที่สวยงามด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลาย แหล่งช้อปปิ้งที่ขึ้นชื่อ สวนสนุก คาสิโนและมรดกโลก
ทัวร์มาเลเซีย
• ทัวร์มาเลเซีย มะละกา "เมืองมรดกโลกแห่งนครประวัติศาสตร์" รัฐมะละกาตั้งอยู่บริเวณช่องแคบมะละกา เป็นเมืองศูนย์กลางทางการค้าระหว่างชาติตะวันออกและตะวันตก
สถานที่ท่องเที่ยวมาเลเซีย
• สถานที่ท่องเที่ยวมาเลเซีย สถานที่ท่องเที่ยวกรุงกัวลาลัมเปอร์ ตึกแฝดเปโตรนาส หอคอยกัวลาลัมเปอร์ ช้อปปิ้งห้างซูเรีย อนุสาวรีย์ทหารอาสา เมอร์เดก้า สแควร์
มาเลเซีย
• มาเลเซีย เมืองปุตราจายา เมืองหลวงใหม่ของประเทศมาเลเซีย สร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางการปกครองแห่งใหม่ อยู่ห่างจากกัวลาลัมเปอร์ 25 กิโลเมตร
เที่ยวมาเลเซีย
• เที่ยวมาเลเซีย เก็นติ้งไฮแลนด์ เก็บรูปมาฝากจากเก็นติ้งไฮแลนด์ นั่งกระเช้าลอยฟ้า เที่ยวชมวัดวัดฮินดูที่ วัดถ้ำบาตู
ภาษามาเลเซีย
• ภาษามาเลเซีย การทักทายภาษามาเลเซีย รวมคลิปสถานที่ท่องเที่ยวมาเลเซีย เตรียมตัวเที่ยวมาเลเซีย
ทัวร์โปรโมชั่น
• โปรแกรมทัวร์อื่นๆ - เช็คที่นั่ง
• โปรแกรมจอยทัวร์
• UQ-879 : เส้นทางสายไหม ภูเขาสายรุ้ง ถ้ำตุนหวง สกีหิมะ Silk Road ลั่วหยาง หลานโจว จางเย่ ด่านเจียยี่กวน ตุนหวง สระน้ำวงพระจันทร์ ถ้ำโมเกาคู อูรูมูฉี (UQ)
• เที่ยวชม เมืองลั่วหยาง หนึ่งในสี่เมืองหลวงเก่าที่ยิ่งใหญ่ของหลายราชวงศ์จีน
• ชมความมหัศจรรย์ของ ภูเขาสายรุ้ง Rainbow Mountain กับธรรมชาติที่สรรค์สร้าง
• ชม ถ้ำตุนหวง ถ้ำหินแกะสลักขนาดใหญ่ที่สุดของจีน ขี่อูฐกลางทะเลทราย
• สนุกสนานกับ สกีหิมะ Silk Road เขาเทียนซาน ลานสกีที่โด่งดังของเมืองอูรูมูฉี
• อาหารดี - โรงแรมที่พักระดับ 5 ดาว – บิน Urumqi Air (UQ) 3 ไฟลท์ เที่ยวแบบไม่เหนื่อย
• วันที่ 13 - 20 ธันวาคม, 27 ธ.ค. - 3 ม.ค., 28 กุมภาพันธ์ – 7 มีนาคม, 14 - 21 มีนาคม 2568 : ราคา 59,995.-บาท
• CGO655-DD : ซีอาน ลั่วหยาง สุสานทหารดินเผาจิ๋นซี ถ้ำน้ำแข็งหมื่นปี อุทยานหยุนไถ่ซาน ถ้ำหลงเหมิน สุสานกวนอู เจดีย์ห่านป่าใหญ่ โชว์เส้นทางสายไหม (DD)
• ชม สุสานทหารดินเผาจิ๋นซี อันยิ่งใหญ่ และชม ถ้ำผาหลงเหมิน ผาหินแกะสลักมรดกโลก
• ชม ถ้ำน้ำแข็งหมื่นปี คล้ายคริสตัลและชม อุทยานหยุนไถซาน อุทยานสวรรค์ที่สวยงามที่สุด
• ชม โชว์เส้นทางสายไหม โชว์ที่สวยที่สุดของซีอานที่บอกเล่าเรื่องราวเส้นทางการค้าโบราณ
• อาหารดี - โรงแรมที่พักระดับ 5 ดาว – นั่งรถไฟความเร็วสูง (ไม่ต้องลากกระเป๋าขึ้นรถไฟ)
• วันที่ 5 - 10 ธันวาคม และ 28 ธันวาคม - 2 มกราคม 2568
ทัวร์ซีอาน ดอกโบตั๋นบาน
• CGO651-DD : ซีอาน เทศกาลดอกโบตั๋นบาน ลั่วหยาง สุสานทหารดินเผาจิ๋นซี ถ้ำน้ำแข็งหมื่นปี อุทยานหยุนไถ่ซาน ถ้ำหลงเหมิน เจดีย์ห่านป่าใหญ่ โชว์เส้นทางสายไหม (DD)
• ชม ดอกโบตั๋นบาน เทศกาลดอกโบตั๋นบานเมืองลั่วหยางที่สวยงามที่สุดในประเทศจีน
• ชม สุสานทหารดินเผาจิ๋นซี อันยิ่งใหญ่ และชม ถ้ำผาหลงเหมิน ผาหินแกะสลักมรดกโลก
• ชม ถ้ำน้ำแข็งหมื่นปี คล้ายคริสตัลและชม อุทยานหยุนไถซาน อุทยานสวรรค์ที่สวยงามที่สุด
• ชม โชว์เส้นทางสายไหม โชว์ที่สวยที่สุดของซีอานที่บอกเล่าเรื่องราวเส้นทางการค้าโบราณ
• อาหารดี - โรงแรมที่พักระดับ 5 ดาว – นั่งรถไฟความเร็วสูง (ไม่ต้องลากกระเป๋าขึ้นรถไฟ)
• วันที่ 12 - 17 เมษายน 2568
• TG-651 : คุนหมิง ต้าหลี่ ลี่เจียง แชงกรีล่า วัดซงจ้านหลิง ภูเขาหิมะมังกรหยก สวนดอกไม้ฮอบบิท เมืองโบราณลี่เจียง (TG)
• นั่งรถไฟความเร็วสูง คุนหมิง-แชงกรีล่า เที่ยวสวนดอกไม้ฮอบบิท
• นั่งกระเช้าใหญ่ขึ้นภูเขาหิมะมังกรหยก
• อาหารดี - โรงแรม 5 ดาว – บินการบินไทย - ไม่ลงร้านช้อป
• วันที่ 5 – 10 ธันวาคม, 28 ธันวาคม - 2 มกราคม, 11 - 16 กุมภาพันธ์, 11 - 16 เมษายน 2568
• XIN879-CZ : เส้นทางสายไหม หลานโจว ภูเขาสายรุ้ง จางเย่ ด่านเจียยี่กวน ถ้ำตุนหวง สระน้ำวงพระจันทร์ ถ้ำโมเกาคู ทูรูฟาน ภูเขาหิมะเทียนซาน อูรูมูฉี (CZ)
• ชมความมหัศจรรย์ของ ภูเขาสายรุ้ง Rainbow Mountain กับธรรมชาติที่สรรค์สร้าง
• ชม ถ้ำตุนหวง ถ้ำหินแกะสลักขนาดใหญ่ที่สุดของจีน ขี่อูฐกลางทะเลทราย
• เที่ยวชม ภูเขาหิมะเขาเทียนซาน สถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของซินเจียง (มรดกโลก)
• ไม่ลงร้านช้อป - อาหารดี - โรงแรม 5 ดาว – บิน CHINA SOUTHERN AIRLINE นั่งสบาย
• วันที่ 22 – 29 มีนาคม, 2 – 9 เมษายน, 9 – 16 เมษายน, 30 เมษายน – 7 พฤษภาคม 2568
• Habin651 : ฮาร์บิ้น เทศกาลแกะสลักน้ำแข็ง หมู่บ้านหิมะ THE SNOW TOWN สกีหิมะ Yabuli DREAM HOME ตุ๊กตาหิมะยักษ์ สะพานปิงโจว เกาะพระอาทิตย์ (CZ)
• เที่ยวครบ ยาบูลี่ หมู่บ้านหิมะ DREAM HOME เกาะพระอาทิตย์ ซงฮัวเจียง
• นอนในหมู่บ้านหิมะ SNOW TOWN - ชม งานแกะสลักหิมะ และ งานแกะสลักน้ำแข็ง
• ไม่ลงร้านช้อป - อาหารดี - โรงแรม 4 ดาว - บิน CHINA SOUTHERN (CZ)
• วันที่ 28 ธ.ค. - 2 ม.ค. : 29 ธ.ค. -  3 ม.ค. : 30 ธ.ค. - 4 ม.ค. : ราคา 57,995.-บาท
ทัวร์หุบเขาเทวดา
• FD659-CSX : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่ หมู่บ้านโบราณหวงหลิง ล่องเรือชมแสงสีอู้วนี่โจว ภูเขาหลิงซาน ไหว้พระใหญ่ตงหลิน เมืองจิ่งเต๋อเจิ้น พิพิธภัณฑ์เซรามิค (FD)
• เที่ยว หมู่บ้านโบราณหวงหลิง นับเป็นหมู่บ้านสวยที่สุดในเมืองอู้หยวน มณฑลเจียงซี
• พักใน หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่ ถ่ายรูปสวยๆแสงสีแสงไฟยามค่ำคืน
• นำท่าน ล่องเรือ ชมแสงสียามค่ำคืนอู้วี่โจว พร้อมชมแลนด์มาร์คแห่งใหม่
• อาหารดี - โรงแรมระดับ 5 ดาว – ไม่ลงร้านช้อป - ไม่ต้องลากกระเป๋าขึ้นรถไฟ
• วันที่ 11 - 16 กุมภาพันธ์, 18 - 23 มีนาคม, 22 - 27 เมษายน 2568
• PU-541 : ภูฏาน พาโร ทิมพู ปูนาคา วัดทักซัง พาโรซอง ทิมพูซอง ปูนาคาซอง ซิมโทกาซอง คิชูลาคัง สวนสัตว์ภูฏาน (KB)
• เที่ยวครบ 3 เมืองหลัก เมืองพาโร เมืองทิมพู เมืองปูนาคา
• อาหารดี - โรงแรมที่พักมาตรฐานรัฐบาล
• วันที่ 6 - 10 ธันวาคม, 29 ธันวาคม - 2 มกราคม 2568
• INDIA877 : อินเดีย เนปาล พุทธคยา ราชคฤห์ กุสินารา ลุมพินี สาวัตถี ล่องเรือ สารนาท พารานสี (TG)
• เที่ยวครบ 4 สังเวชนียสถาน พุทธคยา กุสินารา ลุมพินี สาวัตถี พาราณสี
• ชม ล่องเรือแม่น้ำคงคา เที่ยวชม วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี
• พักโรงแรม 4 ดาว - มีอาหารไทย - มีพระวิทยากร - บินการบินไทย
• วันที่ 8 - 15 ธันวาคม, 28 ธันวาคม - 4 มกราคม, 9 - 16 กุมภาพันธ์ 2568
• DEL755-TG : ถ้ำอชันต้า ถ้ำเอลโลร่า ทัชมาฮาล พระราชวังอัคราฟอร์ท มุมไบ ถ้ำช้ำง วัดพระพิฆเนศ (TG)
• ชม ถ้ำอชันตา ถ้ำเอลโลร่า เมืองออรังกาบัด
• ชม ถ้ำช้าง และ วัดพระพิฆเนศเมืองมุมไบ
• เที่ยวชม ทัชมาฮาล และ อัคราฟอร์ท เมืองอัครา
• พักโรงแรม 4 ดาว บินการบินไทยและบินภายใน 2 ไฟลท์
• วันที่ 10 - 16 ธันวาคม, 11 - 17 กุมภาพันธ์ 2568 : ราคา 53,995.-บาท
• Pune636-6E : ถ้ำอชันตา ถ้ำเอลโลร่า เมืองออรังกาบัด ชมถ้ำพุทธศิลป์อินเดีย ขอพรพระพิฆเนศ เมืองปูเน่ (6E)
• เที่ยว 2 ถ้ำพุทธศิลป์ ถ้ำอชันตา ถ้ำเอลโลร่า
• ไหว้พระพิฆเนศ เมืองปูเน่
• พักโรงแรม 4 ดาว - อาหารดี - บินตรงเมืองปูเน่
• วันที่ 18 - 23 ธันวาคม, 15 – 20 มกราคม, 12 – 17 กุมภาพันธ์, 2 – 7 เมษายน 2568 : ราคา 34,995.-บาท
• Pune635-6E : ไหว้พระพิฆเนศ 9 วัด เมืองปูเน่ เมืองต้นกำเนิดพระพิฆเนศ (6E)
• เที่ยว 2 ถ้ำพุทธศิลป์ ถ้ำอชันตา ถ้ำเอลโลร่า
• ไหว้พระพิฆเนศ เมืองปูเน่
• พักโรงแรม 4 ดาว - อาหารดี - บินตรงเมืองปูเน่
• วันที่ 15 – 20 มกราคม, 12 – 17 กุมภาพันธ์, 2 – 7 เมษายน 2568 : ราคา 37,995.-บาท
 
• สอบถามทัวร์เพิ่มเติม
• ID Line Office : @oceansmiletour
• คุณเล็ก โทร.082-3656241   • ID Line : lekocean2
• คุณโจ้ โทร.093-6468915    • ID Line : oceansmile
• รับทำกรุ๊ปเหมา เที่ยวส่วนตัว ดูงาน
• ประเทศจีน (ทุกเมือง) อินเดีย (ทุกเมือง)
• เนปาล ภูฏาน บาหลี ศรีลังกา ลาว กัมพูชา เวียดนาม พม่า
บริษัท โอเชี่ยนสไมล์ทัวร์ จำกัด โทร. 0-2969 3664, 0-2949 5134-36
เลขที่ 23/121 ซอยนวมินทร์ 161 แยก1-4 ถ.นวมินทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ 10230

Hotline 0-936468915, 0-823656241 ใบอนุญาตเลขที่ 11/05028