|
สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดสุพรรณบุรี |
ข้อมูลท่องเที่ยว
อำเภอเมือง สุพรรณบุรี |
หอคอยบรรหาร-แจ่มใส
ตั้งอยู่ถนนนางพิม หอคอยบรรหาร-แจ่มใส เป็นหอคอยชมวิวแห่งแรก
และสูงที่สุดในประเทศไทยมองเห็นโดดเด่นอยู่กลางเมือง มีความสูงถึง
123.25 เมตร ฐานกว้าง 30 เมตร การขึ้นเที่ยวชมหอคอย จะมีจุดแวะพักชมวิว
4 ชั้น ชั้นแรกเป็นที่จำหน่ายบัตรและของที่ระลึก ชั้นที่ 2
เป็นร้านจำหน่ายเครื่องดื่มอาหารว่างและจุดนั่งชมสวน ชั้น
3 เป็นร้านจำหน่ายของที่ระลึกและจุดชม ตัวเมือง ชั้นที่ 4
อยู่ในระดับสูงสุด 78.75 เมตร เป็นจุดชมทิวทัศน์ของจังหวัดสุพรรณบุรีโดยรอบ
มีกล้อง ส่องทางไกลบริการ ผนังห้องแสดงภาพวาดสีน้ำมันเกี่ยวกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
สวนเฉลิมภัทรราชินี
เป็นสวนสาธารณะมีเนื้อที่ 15 ไร่ ในสวนมีสถานที่ต่างๆให้แวะชมไม่ว่าจะเป็นอาคารแสดงผลงานของฯพณฯบรรหาร
สวนน้ำพร้อมสไลเดอร์ สวนลายไทย สวนนกพิราบ สวนดอกไม้ สนามเด็กเล่น
น้ำพุดนตรี สนามออกกำลังกาย ประชาชนนิยมมาเดินเล่นและออกกำลังกายในสวนตอนเย็นๆ
เวลากลางคืนจะมองเห็นหอคอยเปิดไฟเป็นจุดเด่นของเมืองสุพรรณบุรี
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3552 2721,
0 3552 4060-4 และสำนักงานเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี โทร 0 3551
1987, 0 3551 1021 โทรสาร. 0 3552 2973
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติชาวนาไทย
ตั้งอยู่ที่ถนนพระพันวษา ตำบลท่าพี่เลี้ยง
ในบริเวณที่ว่าการอำเภอเมืองสุพรรณบุรี เป็นอาคารคอนกรีต ออกแบบผสมผสานระหว่างเรือนไทยและยุ้งฉางของชาวนา
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับการทำนา โดยไม่ได้จัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุ
ชั้นล่าง จัดแสดงเรื่องราวความเป็นมาของการทำนา
เครื่องมือเครื่องใช้ในการทำนา ประเพณีวิถีชีวิตของชาวนา เรื่องราวของข้าวในอดีต
และที่น่าสนใจ คือ การพบเศษภาชนะดินเผาที่บ้านบางปูน ตำบลพิหารแดง
อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรีซึ่งอาจเป็นหลักฐานพระราชพิธีแรกนาขวัญในสมัยอยุธยา
ชั้นบน จัดแสดงพระราชจริยวัตรพระมหากษัตริย์ไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ทรงเป็นผู้อุปถัมภ์ค้ำชูชาวนาไทยทรงพัฒนาการทำนาและการเกษตรของชาติ
มีการจัดแสดงภาพจำลอง เหตุการณ์พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ
เมื่อปีพ.ศ. 2529 ณ แปลงนาสาธิต บึงไผ่แขก ตำบลดอนโพธิ์ทอง
อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ทรงทำปุ๋ยหมัก หว่านและเก็บเกี่ยวข้าวด้วยพระองค์เอง
และยังคงเก็บรักษาเครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่พระองค์ทรงใช้
นอกจากนี้ชั้นล่างยังมี ห้องค้นคว้าข้อมูล สำหรับค้นคว้าข้อมูลทางวิชาการเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัตถุที่จัดแสดง
พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมทุกวันพุธถึงวันอาทิตย์ (ปิดวันจันทร์
วันอังคารและวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 09.0016.00 น.โทร.
0 3552 2191
วัดสุวรรณภูมิ
(วัดกลางหรือวัดใหม่) เป็นวัดในสมัยอยุธยา
ตอนต้น ตั้งอยู่ในเขตเทศบาล ถนนพระพันวษา ตรงข้ามกับที่ว่าการ
อำเภอเมืองสุพรรณบุรี สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ได้แก่ พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระสังฆราช
(ปุ่น ปุณณสิริมหาเถระ) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2514 อาคารมี 2 ชั้นเป็นที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุต่างๆ
เช่น พระพุทธรูป นาฬิกา อาวุธ เชี่ยนหมาก ถ้วยชาม แจกัน แก้ว
โดยเฉพาะบาตรสังคโลกสมัยสุโขทัย พุทธศตวรรษที่ 18-19 ซึ่งมีชิ้นเดียวในประเทศไทย
เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-16.00 น. (ควรติดต่อขออนุญาตเข้าชมล่วงหน้า)
โทร. 0 3552 3603, 0 9241 5265
บ้านยะมะรัชโช
ตั้งอยู่ที่ถนนหมื่นหาญ ตำบลท่าพี่เลี้ยง
ใกล้สะพานอาชา สีหมอก ไม่ไกลจากโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช บ้านหลังนี้เคยเป็นบ้านของเจ้าพระยายมราช
(ปั้น สุขุม) อดีตผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล
รัชกาลที่ 8 และเป็นอดีตเสนาบดี 3 กระทรวง คือ กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงนครบาลและกระทรวงโยธาธิการ ลักษณะบ้านเป็นเรือนหมู่
สภาพปัจจุบันเหลือตัวเรือนเดิม เรือนนอน 2 หลัง หอกลาง 1 หลัง
หอนั่งสร้างใหม่แทน ของเดิม 1 หลัง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เคยเสด็จบ้านหลังนี้ 2 ครั้ง และได้พระราชทาน ชื่อบ้านไว้
ต่อมาจังหวัดฯ ได้จัดทำโครงการอนุรักษ์บ้านยะมะรัชโช โดยส่งเข้าประกวดโครงการดีเด่น
ในการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมในเมือง ได้รับรางวัลพร้อมโล่และใบประกาศเกียรติคุณ
ปัจจุบันนี้บ้านยะมะรัชโชเป็นของกองทุนมูลนิธิพระยาสุนทรสงคราม
(ปุย สุวรรณศร) สนใจชมบ้านยะมะรัชโช ติดต่อโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช
โทร. 0 3550 2784-8, 0 3552 4088
กำแพงเมืองเก่าและประตูเมือง
เมืองสุพรรณบุรีเก่าอยู่ที่ตำบลรั้วใหญ่ (บ้านขุนช้าง) ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสุพรรณบุรี
โดยยังหลงเหลือแนวกำแพงดินและคูเมืองให้เห็นระหว่างทางไปวัดป่าเลไลยก์กับศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
กำแพงทางด้านทิศตะวันตก ของเมืองทำแข็งแรงเป็นพิเศษสองชั้น
มีคูน้ำกั้นอยู่ชั้นนอก มีเนินดิน และกำแพงอยู่ชั้นในยาวถึง
3,500 เมตร ส่วนด้านกว้างกำแพงยาว 1,000 เมตร จดแม่น้ำ ด้านตะวันออกไม่พบตัวกำแพง
เพราะถูกรื้อในสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ รัชกาลที่ 5 ได้พระราชทานพระราชดำริไว้ใน
พระราชหัตถเลขา เรื่อง เสด็จประพาสลำน้ำมะขามเฒ่า บรรยายภาพกำแพงเมืองสุพรรณบุรีว่า
เมืองสุพรรณบุรีมีกำแพงสองฟากเหมือนเมืองพิษณุโลกยื่นขึ้นไปจากฝั่งแม่น้ำราว
25 เส้น ดูกว้างประมาณ 6 วา นอกเชิงเทิน ส่วนประตูเมืองตั้งอยู่ริมถนนมาลัยแมนบนแนวกำแพงเมืองเก่า
ประตูเมืองที่เห็นในปัจจุบันสร้างขึ้นใหม่ ตามแบบกรมศิลปากรตรงสถานที่ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นที่ตั้งของประตูเมืองเดิม
วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร
ตั้งอยู่ที่ริมถนนมาลัยแมน ตำบลรั้วใหญ่ ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสุพรรณบุรี
เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่หน้าบันของวิหารวัดป่าเลไลยก์มีเครื่องหมาย
พระมหามกุฎอยู่ระหว่างฉัตรคู่ บอกให้ทราบว่าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ได้เสด็จธุดงค์มาพบ สมัยยังทรงผนวชอยู่ เมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์แล้วจึงทรงมาปฏิสังขรณ์
สันนิษฐานว่าวัดนี้สร้างในสมัยที่ เมืองสุพรรณบุรีรุ่งเรือง
ในพงศาวดารเหนือกล่าวว่า พระเจ้ากาแตทรงให้มอญน้อยมาบูรณะวัดป่าเลไลยก์
ภายหลัง พ.ศ. 1724 ที่วัดแห่งนี้ประชาชนนิยมมานมัสการ หลวงพ่อโต
ซึ่งประดิษฐานอยู่ในวิหารสูงเด่น เห็นแต่ไกล เป็นพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์
ศิลปะสมัยอู่ทองสุพรรณภูมิมีลักษณะประทับนั่งห้อยพระบาท พระหัตถ์ซ้ายวางคว่ำบนพระชานุ
พระหัตถ์ขวาวางหงายบนพระชานุอีกข้างหนึ่งในท่าทรงรับของถวาย
องค์พระสูง 23.46 เมตร รอบองค์ 11.20 เมตร มีนักปราชญ์หลายท่านว่า
หลวงพ่อโตเดิมคงเป็นพระพุทธรูป ปางปฐมเทศนา สร้างไว้กลางแจ้งเหมือนพระพนัญเชิงในสมัยแรกๆ
เพราะมักจะพบว่า พระพุทธรูปขนาดใหญ่ ที่สร้างในสมัยก่อนอยุธยาและอยุธยาตอนต้น
ส่วนมากชอบสร้างไว้กลางแจ้งเพื่อให้สามารถมองเห็นได้แต่ไกล
ภายในองค์พระพุทธรูปนี้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้มาจากพระมหาเถรไลยลายจำนวน
36 องค์ หลวงพ่อโตเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนในจังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดใกล้เคียง
ทุกปีจะมีงานเทศกาลสมโภชและนมัสการหลวงพ่อวัดป่าเลไลยก์ 2
ครั้ง คือ ในวันขึ้น 7-9 ค่ำ เดือน 5 และเดือน 12
ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่
8 ตั้งอยู่ที่ตำบลดอนกำยาน ริมถนนมาลัยแมน
เลยวัดป่าเลไลยก์ ไปทางอำเภออู่ทองประมาณ 1 กิโลเมตร ตรงข้ามสวนน้ำสุพรรณบุรี
ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมในครอบครัว
และหัตถกรรมในเขตพื้นที่ 14 จังหวัดภาคตะวันตก มีอาคารแสดงนิทรรศการผลงานผลิตภัณฑ์หัตถกรรมฝีมือดีเด่นสวยงามประเภทต่าง
ๆ เช่น เครื่องหนัง เสื้อผ้า เครื่องหวาย จากในเขตพื้นที่ดูแล
รวมทั้งจัดจำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไปในราคาย่อมเยา เปิดทุกวันจันทร์-ศุกร์
เวลา 10.00-15.00 น. โทร. 0 3554 5518-9
สวนนกท่าเสด็จ
(หน่วยอนุรักษ์นกท่าเสด็จ) ตั้งอยู่ที่บ้านท่าเสด็จ
ตำบลสระแก้ว ห่างจากตัวเมืองประมาณ 15 กิโลเมตร ไปตามทางสายสุพรรณบุรี-ดอนเจดีย์
(ทางหลวงหมายเลข 322) กิโลเมตรที่ 6-7 เข้าถนนคันคลองไปประมาณ
2 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าไปอีก 200 เมตร สวนนกแห่งนี้ตั้งอยู่ในที่ดินของป้านก
พันธุ์เผือก และลุงจอมกับ ป้าถนอม มาลัย เดิมเป็นสวนผลไม้ในระยะแรกยังมีนกไม่มาก
ต่อมานกเริ่มเพิ่มจำนวน ขึ้นเรื่อยๆ เจ้าของที่ดินเป็นคนใจดีจึงปล่อยให้นกมาอาศัยทำรังจนนกเพิ่มเป็นจำนวน
นับหมื่นตัว นับเป็นเวลากว่า 40 ปีแล้วมีนกหลายชนิด เช่น นกปากห่าง
นกกระสา นกยาง และนกช้อนหอย เป็นต้น ต่อมาทางราชการเข้ามาดำเนินการพัฒนาสวนนกให้เป็นแหล่ง
ท่องเที่ยวของจังหวัดสุพรรณบุรี อยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้และจัดตั้งเป็นหน่วยอนุรักษ์นกท่าเสด็จ
มีหอดูนกไว้ขึ้นชมนกจากมุมสูง ในเวลากลางวันจะมีนกให้ชมอยู่บ้าง
ส่วนในตอนเย็นจะเห็นนกบินกลับรังจนดูมืดฟ้ามัวดิน ช่วงที่มีนกมาก
คือ ในช่วงเดือนตุลาคม
สระศักดิ์สิทธิ์
อยู่ในเขตตำบลสระแก้ว ริมถนนสายดอนเจดีย์-สุพรรณบุรี
(ทางหลวงหมายเลข 322) กิโลเมตรที่ 7-8 ตรงข้ามทางเข้าสวนนกท่าเสด็จ
ห่างจากตัวเมืองประมาณ 13 กิโลเมตร พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เคยเสด็จมาทอดพระเนตรสระศักดิ์สิทธิ์ที่ตำบลนี้ จึงเป็นเหตุให้เปลี่ยนชื่อหมู่บ้านเป็น
บ้านท่าเสด็จ สระศักดิ์สิทธิ์เดิมพบเพียง 4 สระ คือ สระแก้ว
สระคา สระยมนา สระเกษ ต่อมาพบอีก 2 สระ คือ สระอมฤต 1 และสระอมฤต
2 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชหัตถเลขาไว้ว่า
แต่เหตุไฉนที่สระนี้ขลังนักไม่ปรากฏ คงจะมีตัวครูบาที่สำคัญเป็นอันมาก
น้ำในสระก็ไม่ใช้ ปลาในสระก็ไม่กิน สระมีหญ้าขึ้นรกเต็มไปหมด
มีจระเข้อาศัยอยู่ทั้งสี่สระ
น้ำสระคา สระยมนา ไม่สู้สะอาด
มีสีแดง แต่น้ำสระเกษ สระแก้วใสสะอาด
น้ำในสระทั้งหมดนี้ใช้ในพระราชพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาและพระราช
พิธีสระน้ำมูรธาภิเษกตามลัทธิพราหมณ์ กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนจัดตั้งสระน้ำศักดิ์สิทธิ์เป็นโบราณสถานไว้
แต่ยังไม่ได้รับการปรับปรุง
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
อยู่ถนนสมภารคง แยกจากถนนมาลัยแมนไปประมาณ
300 เมตร เขตตำบลรั้วใหญ่ ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสุพรรณบุรี
ในสมัยก่อนเป็นศูนย์กลางของเมืองสุพรรณภูมิ เป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง
มีอายุไม่ต่ำกว่า 600 ปี ปรางค์องค์ประธานเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
แต่ถูกลักลอบขุดค้นหาทรัพย์สินจนทรุดโทรมไปมาก กรุใน องค์พระปรางค์นี้เป็นต้นกำเนิดพระพิมพ์ผงสุพรรณบุรีที่โด่งดังมาก
อันเป็นหนึ่งใน เบญจภาคี 5 พระเครื่องยอดนิยม อันได้แก่
พระสมเด็จนางพญาของสมเด็จ พระพุทธาจารย์(โต) วัดระฆังโฆสิตาราม
กรุงเทพมหานคร พระผงสุพรรณ จังหวัดสุพรรณ พระสมเด็จนางพญา
จังหวัดพิษณุโลก พระทุ่งเศรษฐี จังหวัดกำแพงเพชรและพระรอด
จังหวัดลำพูน นักโบราณคดีหลายท่านให้ความเห็นว่า ปรางค์องค์นี้น่าจะเป็นศิลปะ
การก่อสร้างสมัยอู่ทองสุพรรณภูมิ เพราะจากหลักฐานการก่อสร้างองค์ปรางค์เป็นการก่ออิฐไม่ถือปูน
ซึ่งเป็นวิธีการเก่าแก่ก่อนสมัยอยุธยา
วัดแค เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อปรากฏในวรรณคดีเรื่อง
ขุนช้างขุนแผน อยู่ในอำเภอเมืองสุพรรณบุรี จากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุไปทางเหนือประมาณ
2 กิโลเมตร ภายในวัดนี้มีต้นมะขามใหญ่วัดโคนต้นโดยรอบได้ประมาณ
9.50 เมตร อายุประมาณ 1,000 ปี เชื่อกันว่าขุนแผนได้เรียนวิชาเสกใบมะขามให้เป็นตัวต่อตัวแตนจากต้นมะขามต้นนี้กับท่านอาจารย์คงเพื่อใช้เวลาโจมตีข้าศึก
ใกล้กับต้นมะขามยักษ์นี้ทางจังหวัดได้สร้างเรือนไทยทรงโบราณเรียกว่า
คุ้มขุนแผน เพื่อเป็นอุทยานวรรณคดีและเป็นการอนุรักษ์ศิลปด้านวรรณกรรมและประวัติศาสตร์
วัดพระลอย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน
ตำบลรั้วใหญ่ เลยวัดแคไปไม่ไกล สาเหตุที่สร้างวัดนี้น่าจะมาจากที่มีพระพุทธรูปปางนาคปรกเนื้อหินทรายขาวลอยมาตามแม่น้ำท่าจีน(แม่น้ำสุพรรณ)
จึงได้ทำพิธีอาราธนาขึ้นมาจากแม่น้ำ สันนิษฐานว่าเป็นพระพุทธรูป
สมัยลพบุรี นอกจากนี้ยังมีโบสถ์ที่ปรักหักพังสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพระเจ้าอู่ทอง
ทางวัดได้ปฏิสังขรณ์โดยสร้างโบสถ์ใหม่ครอบ และยังมีอุโบสถจตุรมุขใหญ่
สูงเด่น สง่างาม ประดิษฐาน พระพุทธนวราชมงคล สวยงามมาก และมีพระพุทธรูปเนื้อหินทราย
ปางต่างๆ เก่าแก่มาก บริเวณท่าน้ำหน้าวัดเป็นที่สงวนพันธุ์สัตว์น้ำ
มีฝูงปลาหลายชนิด ผู้มาเที่ยวชมสามารถให้อาหารปลาได้ ถือเป็น
อุทยานมัจฉา อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสุพรรณบุรี
วัดหน่อพุทธางกูร
เดิมชื่อ วัดมะขามหน่อ ตั้งอยู่ที่ตำบลพิหารแดง
ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสุพรรณ เลยวัดพระลอยไปทางเหนือประมาณ
2 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 3507 กิโลเมตรที่ 3 เป็นวัดเงียบสงบสร้างในสมัยต้นรัตนโกสินทร์
ภายในพระอุโบสถหลังเก่ามีภาพจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับพุทธประวัติ
ค่อนข้างสมบูรณ์ชัดเจน เป็นจิตรกรรมที่มีความงดงาม เขียนราว
พ.ศ. 2391 ในสมัยรัชกาลที่ 3 ประดิษฐาน พระพุทธรูปปางไสยาสน์
สลักจากหิน มีลักษณะแปลกกว่าที่อื่น คือ เป็นพระพุทธรูปอยู่ในลักษณะนอนหงายขนาดเท่าคนโบราณยาวประมาณ
2 เมตร ลักษณะคล้ายกับพระนอนที่เมืองกุสินารา ประเทศอินเดีย
สถานที่ปรินิพพานของพระพุทธเจ้า
วัดพร้าว อยู่ที่ตำบลโพธิ์พระยา
ติดกับประตูน้ำโพธิ์พระยา เลยวัดพระนอน ไปทางเหนือ ห่างจากจังหวัดประมาณ
9 กิโลเมตร ภายในวัดมีวิหารลักษณะเด่น คือ เลียนแบบสถาปัตยกรรมพม่า
หลังคาซ้อนชั้นทรงสูง มีความงดงามแปลกตา เป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง
ด้านหลังวัดยังมีหอไตรกลางน้ำ ตู้พระธรรม สิ่งที่ น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง
คือ บนต้นหว้าหลังวัดเป็นที่อยู่อาศัยของค้างคาวแม่ไก่จำนวน
นับพันตัวเกาะห้อยหัว ตัวใหญ่เท่าแม่ไก่ สีดำเต็มไปหมด
โรงละครแห่งชาติภาคตะวันตก
ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 340 เป็นโรงละครภูมิภาคแห่งหนึ่งซึ่งกำหนดให้สร้างขึ้นสำหรับภาคตะวันตกของประเทศ
เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ด้านการแสดงและเป็นสถานที่ให้บริการทางวิชาการด้านนาฏศิลป์
ดนตรี รวมทั้งเป็นสถานที่จัดกิจกรรมเพื่อเผยแพร่และแลกเปลี่ยนศิลป
วัฒนธรรมระหว่างชาติประจำภาคตะวันตก
วัดสนามชัย ตั้งอยู่หมู่ที่
5 ตำบลสนามชัย ริมทางหลวงหมายเลข 340 ห่างจากจังหวัดประมาณ
2 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 57 ไร่ อยู่ริมแม่น้ำสุพรรณบุรีฝั่งตะวันออก
จากพงศาวดารเหนือเล่าว่า พระเจ้า กาแต ทรงให้มอญน้องผู้เป็นญาติสร้างขึ้นพร้อมกับบูรณะวัดป่าเลไลยก์
สันนิษฐานว่าสร้างก่อนปี พ.ศ. 1746 พบซากเจดีย์ขนาดใหญ่และกำแพงแก้วพร้อมเจดีย์บริวารเล็กๆทั้งสี่ทิศ
เมื่อปีพ.ศ. 2504-2505 กรมศิลปากร ขุดแต่งองค์เจดีย์ ภายในกลวง
พบอัฐิธาตุป่นปนกับเถ้าถ่านจำนวนมากบรรจุไว้ในองค์เจดีย์ นักโบราณคดี
ให้ข้อสันนิษฐานและคำอธิบายว่า เจดีย์วัดสนามชัย เป็นเจดีย์
16 เหลี่ยม กว้างด้านละ 48 เมตร ยาวด้านละ 62 เมตร สันนิษฐานจากศิลปะการก่อสร้างว่ามีการสร้างซ้อนกันอย่างน้อย
2 สมัย ตั้งแต่สมัยทวารวดี - สมัยอู่ทอง (คือช่วงปลายทวารวดีต่อสมัยอยุธยา)
และ สมัยอยุธยา
วัดพระธาตุ หรือ
วัดพระธาตุศาลาขาว อยู่ห่างจากตัวจังหวัดไปตามถนนมาลัยแมน
(ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสุพรรณ) ทางหลวงหมายเลข 321 ไปประมาณ
16 กิโลเมตร ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 145 วัดมหาธาตุตั้งอยู่ตรงข้ามกับวัดสวนแตง
ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า วัดพระธาตุนอก เพราะลักษณะพระปรางค์คล้ายกับ
พระปรางค์ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุแต่ขนาดย่อมกว่า มีความสูงประมาณ
20-25 เมตร จากสภาพที่หลงเหลือปัจจุบันเป็นพระปรางค์เดี่ยว
มีบันไดและซุ้มประตู ยอดพระปรางค์มนกว่ายอดพระปรางค์วัดพระศรีรัตน
มหาธาตุ ซึ่งมียอดแหลม แผ่นอิฐมีขนาดเล็ก และสอด้วยปูนหวาน
เนื้อหยาบ จากหลักฐานของโบราณวัตถุ ที่ขุดค้นพบได้จากพระปรางค์
สันนิษฐานได้ว่าวัดนี้สร้างในราว พ.ศ. 1967-2031 ในรัชสมัยพระบรมราชาธิราชที่
2 (เจ้าสามพระยา) หรือพระบรมไตรโลกนาถ ปัจจุบันพระธาตุอยู่ในสภาพทรุดโทรม |
|
สุพรรณบุรี บึงฉวาก โรงแรมสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี
เมืองยุทธหัตถี
วรรณคดีขึ้นชื่อ เลื่องลือพระเครื่อง รุ่งเรืองเกษตรกรรม สูงล้ำประวัติศาสตร์
แหล่งปราชญ์ศิลปิน ภาษาถิ่นชวนฟัง |
ข้อมูลท่องเที่ยว จังหวัดสุพรรณบุรี
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
บึงฉวาก |
|
ทัวร์โปรโมชั่น
โปรแกรมทัวร์อื่นๆ - เช็คที่นั่ง |
|
โปรแกรมจอยทัวร์ |
|
UQ-879 : เส้นทางสายไหม ภูเขาสายรุ้ง ถ้ำตุนหวง สกีหิมะ Silk Road ลั่วหยาง หลานโจว จางเย่ ด่านเจียยี่กวน ตุนหวง สระน้ำวงพระจันทร์ ถ้ำโมเกาคู อูรูมูฉี (UQ)
เที่ยวชม เมืองลั่วหยาง หนึ่งในสี่เมืองหลวงเก่าที่ยิ่งใหญ่ของหลายราชวงศ์จีน
ชมความมหัศจรรย์ของ ภูเขาสายรุ้ง Rainbow Mountain กับธรรมชาติที่สรรค์สร้าง
ชม ถ้ำตุนหวง ถ้ำหินแกะสลักขนาดใหญ่ที่สุดของจีน ขี่อูฐกลางทะเลทราย
สนุกสนานกับ สกีหิมะ Silk Road เขาเทียนซาน ลานสกีที่โด่งดังของเมืองอูรูมูฉี
อาหารดี - โรงแรมที่พักระดับ 5 ดาว บิน Urumqi Air (UQ) 3 ไฟลท์ เที่ยวแบบไม่เหนื่อย
วันที่ 13 - 20 ธันวาคม, 27 ธ.ค. - 3 ม.ค., 28 กุมภาพันธ์ 7 มีนาคม, 14 - 21 มีนาคม 2568 : ราคา 59,995.-บาท |
|
CGO655-DD : ซีอาน ลั่วหยาง สุสานทหารดินเผาจิ๋นซี ถ้ำน้ำแข็งหมื่นปี อุทยานหยุนไถ่ซาน ถ้ำหลงเหมิน สุสานกวนอู เจดีย์ห่านป่าใหญ่ โชว์เส้นทางสายไหม (DD)
ชม สุสานทหารดินเผาจิ๋นซี อันยิ่งใหญ่ และชม ถ้ำผาหลงเหมิน ผาหินแกะสลักมรดกโลก
ชม ถ้ำน้ำแข็งหมื่นปี คล้ายคริสตัลและชม อุทยานหยุนไถซาน อุทยานสวรรค์ที่สวยงามที่สุด
ชม โชว์เส้นทางสายไหม โชว์ที่สวยที่สุดของซีอานที่บอกเล่าเรื่องราวเส้นทางการค้าโบราณ
อาหารดี - โรงแรมที่พักระดับ 5 ดาว นั่งรถไฟความเร็วสูง (ไม่ต้องลากกระเป๋าขึ้นรถไฟ)
วันที่ 5 - 10 ธันวาคม และ 28 ธันวาคม - 2 มกราคม 2568 |
|
CGO651-DD : ซีอาน เทศกาลดอกโบตั๋นบาน ลั่วหยาง สุสานทหารดินเผาจิ๋นซี ถ้ำน้ำแข็งหมื่นปี อุทยานหยุนไถ่ซาน ถ้ำหลงเหมิน เจดีย์ห่านป่าใหญ่ โชว์เส้นทางสายไหม (DD)
ชม ดอกโบตั๋นบาน เทศกาลดอกโบตั๋นบานเมืองลั่วหยางที่สวยงามที่สุดในประเทศจีน
ชม สุสานทหารดินเผาจิ๋นซี อันยิ่งใหญ่ และชม ถ้ำผาหลงเหมิน ผาหินแกะสลักมรดกโลก
ชม ถ้ำน้ำแข็งหมื่นปี คล้ายคริสตัลและชม อุทยานหยุนไถซาน อุทยานสวรรค์ที่สวยงามที่สุด
ชม โชว์เส้นทางสายไหม โชว์ที่สวยที่สุดของซีอานที่บอกเล่าเรื่องราวเส้นทางการค้าโบราณ
อาหารดี - โรงแรมที่พักระดับ 5 ดาว นั่งรถไฟความเร็วสูง (ไม่ต้องลากกระเป๋าขึ้นรถไฟ)
วันที่ 12 - 17 เมษายน 2568 |
|
TG-651 : คุนหมิง ต้าหลี่ ลี่เจียง แชงกรีล่า วัดซงจ้านหลิง ภูเขาหิมะมังกรหยก สวนดอกไม้ฮอบบิท เมืองโบราณลี่เจียง (TG)
นั่งรถไฟความเร็วสูง คุนหมิง-แชงกรีล่า เที่ยวสวนดอกไม้ฮอบบิท
นั่งกระเช้าใหญ่ขึ้นภูเขาหิมะมังกรหยก
อาหารดี - โรงแรม 5 ดาว บินการบินไทย - ไม่ลงร้านช้อป
วันที่ 5 10 ธันวาคม, 28 ธันวาคม - 2 มกราคม, 11 - 16 กุมภาพันธ์, 11 - 16 เมษายน 2568 |
|
XIN879-CZ : เส้นทางสายไหม หลานโจว ภูเขาสายรุ้ง จางเย่ ด่านเจียยี่กวน ถ้ำตุนหวง สระน้ำวงพระจันทร์ ถ้ำโมเกาคู ทูรูฟาน ภูเขาหิมะเทียนซาน อูรูมูฉี (CZ)
ชมความมหัศจรรย์ของ ภูเขาสายรุ้ง Rainbow Mountain กับธรรมชาติที่สรรค์สร้าง
ชม ถ้ำตุนหวง ถ้ำหินแกะสลักขนาดใหญ่ที่สุดของจีน ขี่อูฐกลางทะเลทราย
เที่ยวชม ภูเขาหิมะเขาเทียนซาน สถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของซินเจียง (มรดกโลก)
ไม่ลงร้านช้อป - อาหารดี - โรงแรม 5 ดาว บิน CHINA SOUTHERN AIRLINE นั่งสบาย
วันที่ 22 29 มีนาคม, 2 9 เมษายน, 9 16 เมษายน, 30 เมษายน 7 พฤษภาคม 2568 |
|
|
|
FD659-CSX : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่ หมู่บ้านโบราณหวงหลิง ล่องเรือชมแสงสีอู้วนี่โจว ภูเขาหลิงซาน ไหว้พระใหญ่ตงหลิน เมืองจิ่งเต๋อเจิ้น พิพิธภัณฑ์เซรามิค (FD)
เที่ยว หมู่บ้านโบราณหวงหลิง นับเป็นหมู่บ้านสวยที่สุดในเมืองอู้หยวน มณฑลเจียงซี
พักใน หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่ ถ่ายรูปสวยๆแสงสีแสงไฟยามค่ำคืน
นำท่าน ล่องเรือ ชมแสงสียามค่ำคืนอู้วี่โจว พร้อมชมแลนด์มาร์คแห่งใหม่
อาหารดี - โรงแรมระดับ 5 ดาว ไม่ลงร้านช้อป - ไม่ต้องลากกระเป๋าขึ้นรถไฟ
วันที่ 11 - 16 กุมภาพันธ์, 18 - 23 มีนาคม, 22 - 27 เมษายน 2568 |
|
PU-541 : ภูฏาน พาโร ทิมพู ปูนาคา วัดทักซัง พาโรซอง ทิมพูซอง ปูนาคาซอง ซิมโทกาซอง คิชูลาคัง สวนสัตว์ภูฏาน (KB)
เที่ยวครบ 3 เมืองหลัก เมืองพาโร เมืองทิมพู เมืองปูนาคา
อาหารดี - โรงแรมที่พักมาตรฐานรัฐบาล
วันที่ 6 - 10 ธันวาคม, 29 ธันวาคม - 2 มกราคม 2568 |
|
INDIA877 : อินเดีย เนปาล พุทธคยา ราชคฤห์ กุสินารา ลุมพินี สาวัตถี ล่องเรือ สารนาท พารานสี (TG)
เที่ยวครบ 4 สังเวชนียสถาน พุทธคยา กุสินารา ลุมพินี สาวัตถี พาราณสี
ชม ล่องเรือแม่น้ำคงคา เที่ยวชม วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี
พักโรงแรม 4 ดาว - มีอาหารไทย - มีพระวิทยากร - บินการบินไทย
วันที่ 8 - 15 ธันวาคม, 28 ธันวาคม - 4 มกราคม, 9 - 16 กุมภาพันธ์ 2568
|
|
|
|
Pune636-6E : ถ้ำอชันตา ถ้ำเอลโลร่า เมืองออรังกาบัด ชมถ้ำพุทธศิลป์อินเดีย ขอพรพระพิฆเนศ เมืองปูเน่ (6E)
เที่ยว 2 ถ้ำพุทธศิลป์ ถ้ำอชันตา ถ้ำเอลโลร่า
ไหว้พระพิฆเนศ เมืองปูเน่
พักโรงแรม 4 ดาว - อาหารดี - บินตรงเมืองปูเน่
วันที่ 18 - 23 ธันวาคม, 15 20 มกราคม, 12 17 กุมภาพันธ์, 2 7 เมษายน 2568 : ราคา 34,995.-บาท |
|
Pune635-6E : ไหว้พระพิฆเนศ 9 วัด เมืองปูเน่ เมืองต้นกำเนิดพระพิฆเนศ (6E)
เที่ยว 2 ถ้ำพุทธศิลป์ ถ้ำอชันตา ถ้ำเอลโลร่า
ไหว้พระพิฆเนศ เมืองปูเน่
พักโรงแรม 4 ดาว - อาหารดี - บินตรงเมืองปูเน่
วันที่ 15 20 มกราคม, 12 17 กุมภาพันธ์, 2 7 เมษายน 2568 : ราคา 37,995.-บาท |
|
|
สอบถามทัวร์เพิ่มเติม
ID Line Office : @oceansmiletour
คุณเล็ก โทร.082-3656241 ID Line : lekocean2
คุณโจ้ โทร.093-6468915 ID Line : oceansmile
รับทำกรุ๊ปเหมา เที่ยวส่วนตัว ดูงาน
ประเทศจีน (ทุกเมือง) อินเดีย (ทุกเมือง)
เนปาล ภูฏาน บาหลี ศรีลังกา ลาว กัมพูชา เวียดนาม พม่า |
|
| |
|