|
•
สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดอ่างทอง |
•
ข้อมูลท่องเที่ยว
อ.เมือง อ.ป่าโมก อ.ไชโย จังหวัดอ่างทอง |
อำเภอเมือง
• ศาลหลักเมือง
ของจังหวัดอ่างทองอยู่ตรงข้ามกับศาลากลางจังหวัด
เป็นอาคารจตุรมุข ตัวศาลสูงจากพื้นประมาณ 1.5 เมตร ศาลหลักเมืองจังหวัดอ่างทองเป็นศาลหลักเมืองแห่งที่
2 ที่มีการเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังทั้ง 4 ด้าน (ศาลหลักเมืองแห่งแรกที่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังคือ
ศาลหลักเมือง กรุงเทพฯ) ภายในศาลมีภาพจิตรกรรมฝาผนังลายพุ่มข้าวบิณฑ์ก้านแย่งสวยงามมาก
ศาลหลักเมืองอ่างทองเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สวยงามสมกับเป็นหลักชัย
และหลักใจของประชาชนชาวอ่างทองอย่างยิ่ง ผู้ที่มีโอกาสไปเยือนจังหวัดนี้ไม่ควรพลาดการไปเคารพสักการะศาลหลักเมืองแห่งนี้
• วัดอ่างทองวรวิหาร
เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ตั้งอยู่ตรงข้ามศาลากลางจังหวัด
เดิมเป็นวัดเล็กๆ 2 วัด ชื่อ วัดโพธิ์เงิน และวัดโพธิ์ทอง
สร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 โปรดฯ ให้รวมวัดสองวัดเป็นวัดเดียวกันเมื่อ
พ.ศ. 2443 และพระราชทานนามว่า วัดอ่างทอง วัดนี้มีพระอุโบสถที่งดงาม
มีพระเจดีย์ทรงระฆังประดับด้วยกระจกสีและหมู่กุฏิทรงไทยสร้างด้วยไม้สักงดงามเป็นระเบียบซึ่งล้วนเป็นสถาปัตยกรรมตามแบบ
ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
• วัดมธุรสติยาราม
ตั้งอยู่ริมถนนสายเอเชีย เลยสี่แยกสายเอเชียเข้าอ่างทองไปประมาณ
300 เมตร เลี้ยวขวาเข้าปั้มน้ำมันไปประมาณ 30 เมตร เดิมชื่อวัดกุฏิ
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำประคำทองซึ่งเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาเก่ามาแต่โบราณ
สันนิษฐานว่าวัดนี้น่าจะสร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย มีหลักฐานสำคัญเหลือให้เห็นคือ
กำแพงแก้วพระอุโบสถเจดีย์และวิหาร ซึ่งวางจัดกลุ่มได้เหมาะสม
มีรูปทรงที่งดงาม พระอุโบสถเจดีย์เป็นรูปโค้งสำเภาก่อ
อิฐถือปูนกว้าง 4 เมตร ยาว 8 เมตร หลังคาสูง 6 เมตรมุงด้วยกระเบื้องดินเผา
สิ่งที่เป็นศิลปะชั้นเยี่ยมของพระอุโบสถได้แก่ หน้าบัน ทางด้านหน้าและด้านหลังพระอุโบสถเป็นหน้าบันไม้แกะสลักลายอย่างวิจิตรพิศดาร
เป็นลายดอกบัวอยู่กลาง ก้านขด ปลายลายเป็นช่องหางโต แปลกตรงที่ลายดอกบัวมีลักษณะคล้ายจะเป็นเทพนมอยู่ยอดดอกบัว
• วัดจันทรังษี
ตั้งอยู่ที่บ้านนา หมู่ 9 ต.หัวไผ่
มีพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งประชาชนนิยมเรียกพระนามว่า
หลวงพ่อโยก และวัดจันทรังษี กำลังดำเนินการก่อสร้างพระวิหารหลวงพ่อสดซึ่งองค์หลวงพ่อสดเป็นพระพุทธรูปโลหะ
ขนาดหน้าตักกว้าง 6 เมตร 9 นิ้ว สูง 9.9 เมตร องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
• วัดต้นสน อยู่ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาตรงข้ามกับวิทยาลัยเทคนิคอ่างทอง
เป็นวัดเก่าแก่โบราณ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิซึ่งมีชื่อว่า
“สมเด็จพระศรีเมืองทอง” ขนาดหน้าตักกว้าง 6 วา 3 ศอก 9 นิ้ว
สูง 9 วา 2 ศอก 19 นิ้ว นับเป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยโลหะขนาดใหญ่ที่สุดองค์แรกและมีพุทธลักษณะที่สวยงามมากอีกองค์หนึ่ง
• วัดราชปักษี
อยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศตะวันออกจากอำเภอเมืองไปทางทิศใต้ประมาณ
3 - 4 กิโลเมตร ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 309 (สายอ่างทอง-อยุธยา)
ภายในวัดมีพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ มีลักษณะคล้ายพระพุทธไสยาสน์วัดป่าโมกแต่มีขนาดย่อมกว่าเล็กน้อย
สันนิษฐานว่าเป็นพระพุทธรูปเก่าสมัยอยุธยาเดิมองค์พระชำรุดทรุดโทรมอย่างมาก
ปัจจุบันได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่เป็นวัดที่น่าไปเที่ยวชมและนมัสการยิ่งวัดหนึ่ง
• วัดสุวรรณเสวริยาราม
อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศตะวันออกในท้องที่ตำบลตลาดกรวด
จากศาลากลางจังหวัดไปตามถนนคลองชลประทาน 3 กิโลเมตร ภายในพระวิหารประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ขนาดองค์พระยาวประมาณ
10 วา และยังมีโบราณวัตถุต่างๆที่มีอายุราว 100 ปี
บ้านทรงไทยจำลอง ส่วนประกอบบ้านทรงไทย เครื่องเรือนไม้ตาล
ตามเส้นทางสายอยุธยา-ป่าโมก และตำบลโพสะ เป็นแหล่งทำส่วนประกอบของบ้านทรงไทยแบบต่างๆ
ด้วยฝีมือเชิงช่างที่ละเอียดอ่อนเชี่ยวชาญสืบทอดจากบรรพบุรุษอันคงความเป็นเอกลักษณ์แบบไทย
นอกจากนี้ยังมีบ้านทรงไทยจำลองและสินค้าเฟอร์นิเจอร์ทำจากไม้ตาลประเภทต่างๆจำหน่าย
อำเภอป่าโมก
•
วัดป่าโมกวรวิหาร อยู่ในเขตเทศบาลตำบลป่าโมก
ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศตะวันตกห่างจากอำเภอเมืองอ่างทองไป
18 กิโลเมตร ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 309 สายอ่างทอง-อยุธยา
ภายในวัดนี้มีพระพุทธไสยาสน์ที่งดงามมากองค์หนึ่งของเมืองไทย
องค์พระก่ออิฐถือปูนปิดทอง มีความยาวจากพระเมาลีถึงปลายพระบาท
22.58 เมตร สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยสุโขทัย มีประวัติความเป็นมาเล่าขานกันว่า
พระพุทธรูปองค์นี้ลอยน้ำมาจมอยู่หน้าวัด ราษฎรบวงสรวงแล้วชักลากขึ้นมาไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำ
ในพระราชพงศาวดารกล่าวว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราชก่อนที่จะยกทัพไปรบกับพระมหาอุปราชได้เสด็จมาชุมนุมพลและถวายสักการะบูชาพระพุทธรูปองค์นี้
ต่อมาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระได้เสด็จมาควบคุมการชะลอองค์พระให้พ้นจากกระแสน้ำเซาะตลิ่งพัง
และนำไปไว้ยังวิหารใหม่ที่วัดตลาด ห่างจากฝั่งแม่น้ำ 168 เมตร
แล้วโปรดให้รวมวัดตลาดกับวัดชีปะขาวเป็นวัดเดียวกัน พระราชทานนามว่าวัดป่าโมกเพราะบริเวณนั้นมีต้นโมกมากมาย
สิ่งที่น่าสนใจในวัดนี้ นอกจากพระพุทธไสยาสน์และตัวพระวิหารแล้วยังมี
วิหารเขียน มณฑปพระพุทธบาท 4 รอยเป็นต้น
• วัดสระแก้ว
อยู่ห่างจากวัดท่าสุทธาวาส ประมาณ 200 เมตร ตามถนนเลียบคลองชลประทาน
หากเดินทางมาจากอยุธยาตามเส้นทาง อยุธยา-อ่างทอง (ทางหลวงหมายเลข
309) ทางเข้าวัดจะอยู่ซ้ายมือห่างจากอยุธยาประมาณ 15 กิโลเมตร
วัดนี้สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2242 เดิมชื่อวัดสระแก เป็นสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่มีเด็กอยู่ในความดูแลมาก
จึงได้จัดตั้งคณะลิเกเด็กกำพร้าวัดสระแก้วเพื่อหารายได้ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูเด็กกำพร้า
จนสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับวัดแห่งนี้ ภายในวัดสระแก้วยังมีอาคาร“สามัคคีสมาคาร”
ซึ่งเป็นอาคารศูนย์โครงการทอผ้าตามพระราชประสงค์ก่อตั้งเมื่อพ.ศ.2524
อยู่ในความรับผิดชอบของ กองอุตสาหกรรมในครอบครัว กระทรวงอุตสาหกรรม
ภายในอาคารมีสินค้าผ้าทอคุณภาพดีเช่น ผ้าซิ่น ผ้าขาวม้า ผ้าปูโต๊ะ
ปลอกหมอน ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีศูนย์วัฒนธรรมอำเภอป่าโมก ภายในมีสาธิตการทอผ้า
การทำเครื่องประดับเงิน การปั้นตุ๊กตาชาววัง เป็นการเผยแพร่งานฝีมือของชาวอำเภอป่าโมกซึ่งเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายและมีจำหน่ายให้แก่ผู้สนใจ
ทั้งสองแห่งเปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00-16.00 น.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. (035) 661169 หรือที่โรงเรียนวัดสระแก้วโทร.
(035) 661950-1
• วัดท่าสุทธาวาส
อยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศตะวันออกเขตตำบลบางเสด็จ
หากใช้เส้นทางสาย อยุธยา-อ่างทอง (ทางหลวงหมายเลข 309) ทางเข้าวัดจะอยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงตัวจังหวัดอ่างทองประมาณ
17 กิโลเมตร หากมาจากกรุงเทพฯห่างจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ประมาณ 14 กิโลเมตร วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่แต่โบราณ สมัยอยุธยาตอนต้นในเวลาศึกสงครามบริเวณนี้จะเป็นเส้นทางเดินทัพข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา
ปัจจุบันสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีทรงรับวัดนี้ไว้ในพระราชอุปถัมภ์
มีการจัดสร้างพลับพลาที่ประทับกลางสระน้ำ สร้างพระเจดีย์เพื่อแสดงพระพุทธรูปโบราณและโบราณวัตถุต่างๆ
รวมทั้งสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชและสมเด็จพระเอกาทศรถ
ส่วนภายในพระอุโบสถสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้จิตรกรส่วนพระองค์และนักเรียนในโครงการศิลปาชีพเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนัง
บริเวณวัดแห่งนี้ร่มรื่นด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่และทัศนียภาพสวยงามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
• ศูนย์ตุ๊กตาชาววังบ้านบางเสด็จ
ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านบางเสด็จ ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข
309 จากอยุธยาไปประมาณ 16 กิโลเมตร จะมีทางแยกซ้ายมือเข้าสู่บ้านบางเสด็จ
อยู่ติดกับวัดท่าสุทธาวาส ตำบลนี้เดิมชื่อบ้านวัดตาลต่อมาได้เปลี่ยนเป็นชื่อบ้านบางเสด็จ
เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถได้เสด็จพระราชดำเนิน
พระราชทานความช่วยเหลือแก่ราษฎร ผู้ประสบอุทกภัยในปีพ.ศ.2518
ซึ่งสร้างความปลื้มปิติให้แก่ราษฎรเป็นอันมาก เพื่อเป็นการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณจึงได้เปลี่ยนชื่อบ้านวัดตาลเป็น
บ้านบางเสด็จ
โครงการตุ๊กตาชาววังที่บ้านบางเสด็จเป็นโครงการที่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ.
2519 เพื่อให้เป็นอาชีพเสริมเพิ่มพูนรายได้ให้แก่ราษฎร ภายในหมู่บ้านบางเสด็จนี้
นอกจากจะได้ชมทัศนียภาพอันร่มรื่นและสวยงามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว
ยังสามารถชมการปั้นตุ๊กตาชาววังจากบ้านเรือนราษฎรละแวกนั้นได้อย่างเป็นกันเอง
นอกจากนี้มีการรวมกลุ่มในรูปของสหกรณ์โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่หน้าวัดท่าสุทธาวาส
ซึ่งจะจัดให้สมาชิกมาสาธิตการปั้นตุ๊กตาชาววังพร้อมกับจัดจำหน่ายในราคาที่ย่อมเยา
ตุ๊กตาชาววังเป็นประดิษฐกรรมดินเหนียวที่สวยงามแสดงให้เห็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนและวัฒนธรรมประเพณีไทยต่างๆเช่น
การปั้นเป็นรูปการละเล่นของเด็กไทย วงมโหรีปี่พาทย์ หรือรูปผลไม้ไทยหลากหลายชนิดซึ่งล้วนมีความสวยงามน่ารักและเหมาะที่จะซื้อเป็นของฝากหรือของที่ระลึกเป็นอย่างยิ่ง
•
หมู่บ้านทำกลอง ตั้งอยู่ที่
ตำบลเอกราช หลังตลาดป่าโมก ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา
การเดินทางใช้ถนนสายใน ผ่านหน้าที่ทำการเทศบาลอำเภอป่าโมกซึ่งขนานไปกับลำคลองชลประทาน
ระยะทางประมาณ 17 กิโลเมตร ชาวบ้านแพเริ่มผลิตกลองมาตั้งแต่
พ.ศ.2470 โดยจะเริ่มหลังฤดูเก็บเกี่ยว วัตถุดิบที่ใช้ทำกลองได้แก่
ไม้ฉำฉาเพราะเป็นไม้เนื้ออ่อนที่สามารถขุดเนื้อไม้ได้ง่ายกับหนังวัว
เราสามารถชมกรรมวิธีการทำกลองตั้งแต่เริ่มกลึงท่อนไม้เรื่อยๆไปจนถึงขั้นตอนการขึ้นกลอง
การฝังหมุด กลองที่ทำมีตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงกลองขนาดใหญ่เช่น
กลองทัด ซึ่งเราจะได้เห็นถึงฝีมือการทำที่มีคุณภาพ ประณีต
สวยงามและยังสามารถซื้อไปเป็นของที่ระลึกกลับบ้าน
• อิฐอ่างทอง
เป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือนคุณภาพสูงที่ผลิตขึ้นเพื่อจัดจำหน่ายไปทั่วประเทศไทย
ส่วนมากจะใช้ในการทำอิฐโชว์แนวประดับอาคาร บ้านเรือน ผู้สนใจจะติดต่อซื้อได้จากโรงอิฐโดยตรง
เฉพาะที่อำเภอป่าโมกจะมีโรงอิฐมากกว่า 42 แห่ง
อำเภอไชโย
• วัดไชโยวรวิหาร
ห่างจากอำเภอเมืองอ่างทองประมาณ
18 กิโลเมตร อยู่บนเส้นทางสายอ่างทอง-สิงห์บุรี ด้านตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา
เป็นวัดพระอารามหลวงชั้นโท เดิมเป็นวัดราษฏร์สร้างมาแต่ครั้งใดไม่ปรากฏ
มีความสำคัญขึ้นมาในสมัยรัชกาลที่ 4 เมื่อสมเด็จพระพุฒาจารย์
(โต พรหมรังสี) แห่งวัดระฆังโฆสิตาราม ธนบุรี ได้สร้างพระพุทธรูปปางสมาธิองค์ใหญ่หรือหลวงพ่อโต
องค์เป็นปูนขาวไม่ปิดทองไว้กลางแจ้ง ณ วัดแห่งนี้ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่
5 ได้เสด็จฯ มานมัสการและโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์วัดไชโยขึ้นในปี
พ.ศ.2430 แต่แรงสั่นสะเทือนระหว่างการลงรากพระวิหารทำให้องค์หลวงพ่อโตพังลงมาจึงโปรดเกล้าฯ
ให้สร้างหลวงพ่อโตขึ้นใหม่ตามแบบหลวงพ่อโต วัดกัลยาณมิตร มีขนาดหน้าตักกว้าง
16.10 เมตร สูง 22.65 เมตร และพระราชทานนามว่า “พระมหาพุทธพิมพ์”
มีการจัดงานฉลองซึ่งนับเป็นงานใหญ่ที่สุดของจังหวัดอ่างทองในสมัยนั้น
องค์หลวงพ่อโตประดิษฐานอยู่ในพระวิหารที่มีความสูงใหญ่สง่างามแปลกตากว่าวิหารแห่งอื่นๆ
พุทธศาสนิกชนจากที่ต่างๆ มานมัสการอย่างไม่ขาดสาย ติดกับด้านหน้าพระวิหาร
มีพระอุโบสถก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมไทยอันงดงามหันด้านหน้าออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา
ภายในพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องพุทธประวัติ ฝีมือช่างสมัยรัชกาลที่
5 ปัจจุบันวัดไชโยวรวิหารได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ใหม่จนมีความงามสมบูรณ์ยิ่ง
• วัดสระเกศ วัดนี้เป็นวัดเก่าตั้งแต่สมัยอยุธยา
ตั้งอยู่ที่ตำบลชัยภูมิ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทิศตะวันออก
ห่างจากอำเภอเมืองอ่างทอง ประมาณ 15 กิโลเมตร ตำบลชัยภูมินี้เดิมชื่อ
บ้านสระเกศ ขึ้นอยู่กับแขวงเมืองวิเศษชัยชาญ มีกล่าวไว้ในพระราชพงศาวดารว่าเมื่อ
พ.ศ. 2128 พระเจ้าเชียงใหม่ยกทัพมาตั้งค่ายอยู่ที่บ้านสระเกศ
สมเด็จพระนเรศวรมหาราชและสมเด็จพระเอกาทศรถได้รุกไล่ตีทัพของพระเจ้าเชียงใหม่จนแตกพ่าย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถเคยเสด็จพระราชดำเนินมาวัดสระเกศ
เมื่อปีพ.ศ. 2513 เพื่อทรงบำเพ็ญพระราชกุศลบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรมหาราชวัดโพธิ์หอม
(วัดป่าหัวพัน) ตั้งอยู่ที่ตำบลราชสถิตย์ (ตำบลโตนด) อยู่ด้านตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา
ห่างจากอำเภอเมืองอ่างทอง 12 กิโลเมตร ไปตามเส้นทางอ่างทอง-สิงห์บุรี
แล้วมีทางแยกเข้าไปอีก 2 กิโลเมตร วัดนี้เดิมเป็นวัดร้างสร้างมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา
เพิ่งจะเริ่มสร้างเป็นวัดใหม่เมื่อประมาณ 10 ปี สิ่งที่น่าสนใจในวัดนี้คือ
รูปพรหมสี่หน้าปูนปั้นขนาดใหญ่จำนวน 2 เศียรที่ขุดได้ภายในวัด
ประดับอยู่บนพานด้านหน้าฐานพระอุโบสถเดิม ลักษณะศิลปะเป็นแบบขอม
ซึ่งเดิมอาจใช้เป็นส่วนยอดของประตูวัดหรือพระอุโบสถเหมือนกับที่พบว่าใช้เป็นยอดของประตูพระราชวังสมัยกรุงศรีอยุธยา |
|
อ่างทอง จังหวัดอ่างทอง โรงแรมอ่างทอง
พระนอนองค์ใหญ่
วีรชนใจกล้า ตุ๊กตาชาววังโด่งดังจักสาน ถิ่นฐานทำกลอง
|
•
ข้อมูลท่องเที่ยว จังหวัดอ่างทอง
|
|
|
|
|
|
|
|
ทัวร์โปรโมชั่น
• โปรแกรมทัวร์อื่นๆ |
 |
• โปรแกรมจอยทัวร์ |
 |
• XIN879-CZ : เส้นทางสายไหม หลานโจว ภูเขาสายรุ้ง จางเย่ ด่านเจียยี่กวน ถ้ำตุนหวง สระน้ำวงพระจันทร์ ถ้ำโมเกาคู ทูรูฟาน ภูเขาหิมะเทียนซาน อูรูมูฉี (CZ)
• วันเดินทาง 30 เม.ย. - 7 พ.ค., 9 - 16 พ.ค., 21 - 28 พ.ค., 28 พ.ค. – 4 มิ.ย., 11 - 18 มิ.ย., 18 - 25 มิ.ย., 25 มิ.ย. - 2 ก.ค. 2568
• ชมความมหัศจรรย์ของ ภูเขาสายรุ้ง Rainbow Mountain กับธรรมชาติที่สรรค์สร้าง
• ชม ถ้ำตุนหวง ถ้ำหินแกะสลักขนาดใหญ่ที่สุดของจีน ขี่อูฐกลางทะเลทราย
• เที่ยวชม ภูเขาหิมะเขาเทียนซาน สถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของซินเจียง (มรดกโลก)
• ไม่ลงร้านช้อป - อาหารดี - โรงแรม 5 ดาว – บิน CHINA SOUTHERN AIRLINE (Full Service Airline) |
 |
• TIBET651-8L : ทิเบต ลาซา พระราชวังโปตาลา วัดโจคัง นอร์บุหลิงฆา วัดเซรา ทะเลสาบ Yamdrok Tso – เมืองซิกาท์เซ่ วัดทาซิลุนโป – นั่งรถไฟหลังคาโลก (8L)
• วันเดินทาง 30 พฤษภาคม – 4 มิถุนายน, 6 – 11 มิถุนายน, 13 – 18 มิถุนายน, 20 - 25 มิถุนายน 2568
• ชม พระราชวังโปตาลา พระราชวังที่สูงที่สุดในโลก
• ชม วัดโจคัง วัดที่ถือว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจและศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวทิเบต
• ชม ทะเลสาบ Yamdrok Tso ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ของทิเบต
• ชม วัดทาซิลุนโป (Tashilhunpo Monastery) วัดสำคัญอันดับสองรองจากพระราชวังโปตาลา
• นั่งรถไฟความเร็วสูงหลังคาโลกทิเบต เมืองซิกาท์เซ่ – ลาซา |
 |
• URC8D-FM : Grand Altay ซินเจียงเหนือ อาเล่อไท้ คานาสือ หมู่บ้านเหอมู่ หมู่บ้านไป่ฮาปา ล่องเรือ หุบเขาอัลไต ทุ่งหญ้าอาเล่อไท้ ธารน้ำห้าสี แคนยอนตูซานจื่อ ตลาดต้าปาจา (FM)
• วันเดินทาง 17 - 24 พฤษภาคม 2568
• เที่ยวหุบเขาอัลไต อุทยานคานาสือ (เข้าอุทยานคานาสือ 2 วัน เน้นถ่ายรูปสวยๆ)
• เที่ยวครบซินเจียงเหนือ หมู่บ้านเหอมู่ หมู่บ้านไป่ฮาปา ธารน้ำห้าสี และ แพะเมืองผี
• อาหารดี - โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว – ไม่ลงร้านช้อป |
 |
• XIN872-CZ : ซินเจียงเหนือ คานาสือ ดอกไม้บาน ล่องเรือ หุบเขาอัลไต หมู่บ้านเหอมู่ หมู่บ้านไป่ฮาปา ธารน้ำห้าสี แกรนด์แคนยอนตูซานจื่อ ตลาดต้าปาจา (CZ)
• วันเดินทาง 7 - 14 มิถุนายน, 14 - 21 มิถุนายน, 21 - 28 มิถุนายน 2568
• ชมดอกไม้บานปีละครั้งช่วงที่สวยที่สุดที่ อุทยานคานาสือ (เข้าอุทยานคานาสือ 2 วัน เน้นถ่ายรูปสวยๆ)
• ชม หมู่บ้านเหอมู่ หมู่บ้านที่วิวทิวทัศน์สวยที่สุดในหุบเขาอัลไต
• ชม หมู่บ้านไป่ฮาปา หมู่บ้านที่สวยที่สุดของประเทศจีน อยู่ในอุทยานคานาสือ
• เที่ยวครบ ธารน้ำห้าสี และ แพะเมืองผี – บิน China Southern Airline (Full-Service) |
 |
• XIN765-CZ : ซินเจียงใต้ คัชการ์ ทะเลสาบไป๋ซาหู ถนนคาราโครัมไฮเวย์ ทะเลสาบคาราคู่เล่อ ถนนผานหลงกู่เต้า หมู่บ้านถ่าเอ๋อ เมืองโบราณซือโถเฉิง ภูเขาหิมะMuztagh Peak (CZ)
• วันเดินทาง 26 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน 2568
• ชม เมืองเก่าคัชการ์ The Old City of Kashgar ผสมระหว่างชาวฮั่นและชาวอูยกูร์
• ชม ถนนสายมิตรภาพจีน-ปากีสถาน หรือ คาราโครัม ไฮเวย์ KKH (Karakoram Highway)
• ชม ทะเลสาบไป๋ซาหู ที่ฉากหลังสวยงามด้วยภูเขาทรายสีขาวตัดกับท้องฟ้าสีคราม
• ชม หมู่บ้านถาเอ่อ สวนดอกแอปริคอต - บิน China Southern Airline (Full-Service) |
 |
• Kazak989-3U] เที่ยว 2 ประเทศ ซินเจียง อี้หนิง – อัลมาตี้ คาซัคสถาน ทะเลสาบไซลี่มู่ ชารีนแคนยอน วิหารเซนคอฟ Shymbulak Ski หมู่บ้านคาจั่นฉี (3U)
• วันเดินทาง 9 – 17 พฤษภาคม, 20 – 28 มิถุนายน 2568
• ชม ชารีนแคนยอน แกรนด์แคนย่อนที่ใหญ่อันดับ 2 ของโลกรองจากอเมริกา
• ชม เมืองอัลมาตี้ เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศคาซัคสถานและเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศ
• นั่งกระเช้า สู่ ชิมบูลัก (Shymbulak Ski Resort) อยู่ในเทือกเขา Zailiuskiy Alwatau
• ชม ทะเลสาบไซลี่มู่ ที่ทอดตัวอยู่ในวงล้อมของเทือกเขาเทียนซาน อยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าและภูเขาหิมะ |
 |
• [MM19-8M] : เที่ยว 6 เมือง ย่างกุ้ง หงสาวดี ตองอู เนปิดอร์ พุกาม มัณฑะเลย์ เจดีย์ชะเวดากอง พระธาตุมุเตา พระธาตุอินทร์แขวน เจดีย์ชเวสิกอง พระมหามุนี (8M)
• วันเดินทาง 30 พฤษภาคม – 4 มิถุนายน, 9 – 14 กรกฎาคม, 8 – 13 สิงหาคม, 9 - 14 ตุลาคม 2568
• เที่ยว 6 เมืองหลักที่สวยงาม ย่างกุ้ง หงสาวดี ตองอู เนปิดอร์ พุกามและมัณฑะเลย์
• ไหว้ 5 พะธาตุที่ยิ่งใหญ่ของพม่า เส้นทางแห่งพระพุทธศาสนา
• อาหารดี - โรงแรม 5 ดาว - บินสายการบิน Myanmar Airways |
|
• สอบถามทัวร์เพิ่มเติม
• ID Line Office : @oceansmiletour
• คุณเล็ก โทร.082-3656241 • ID Line : lekocean2
• คุณโจ้ โทร.093-6468915 • ID Line : oceansmile
• รับทำกรุ๊ปเหมา เที่ยวส่วนตัว ดูงาน
• ประเทศจีน (ทุกเมือง) อินเดีย (ทุกเมือง)
• เนปาล ภูฏาน บาหลี ศรีลังกา ลาว กัมพูชา เวียดนาม พม่า |
|
| |
|