
เส้นทางจากบักโดกราสู่ดาจีลิ่ง |

เส้นทางจากบักโดกราสู่ดาจีลิ่ง |

ดาร์จีลิ่ง สิกขิม |

โบถส์คริสถ์ สิกขิม |

ดาร์จีลิ่ง สิกขิม |

ดาร์จีลิ่ง สิกขิม |

โรงงานผลิตชาที่ดาร์จีลิ่ง |

ยามเช้าที่ดาร์จีลิ่ง |
ไทเกอร์ฮิลล์
ดาร์จีลิ่ง สิกขิม |
|
|

เมืองดาร์จีลิ่ง สิกขิม |

เมืองดาร์จีลิ่ง สิกขิม |

เมืองดาร์จีลิ่ง สิกขิม |

ดาร์จีลิ่ง สิกขิม |
ดาร์จีลิ่ง สิกขิม |
ดาร์จีลิ่ง สิกขิม |
ดาร์จีลิ่ง สิกขิม |
ดาร์จีลิ่ง สิกขิม |
•
ดาร์จีลิ่ง (Darjeeling) : เมืองตากอากาศ
• ดาร์จีลิ่ง ตั้งอยู่บนแนวสันเขาที่ความสูง
2,134 เมตร จากระดับน้ำทะเล รู้จักกันโดยทั่วไปว่า “ราชินีแห่งขุนเขา”
เป็นเมืองรีสอร์ตที่มีอากาศเย็นสบายตอลดทั้งปี และไม่ว่าจะอยู่ส่วนใดของเมือง
ก็สามารถมองเห็นเทือกหิมาลัยทอดตัวยาวเหยียด โดยเฉพาะยอดกันเช็งจุงก้าอันสูงตระหง่านและถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวตลอดทั้งปี
• คำว่า ดาร์จีลิ่ง มีรากฐานมาจากภาษาทิเบตคือคำว่า “ดอร์เจลิง”
คำว่า “ดอร์เจ” (Dorja) หมายถึง สายฟ้า คำว่า “ลิง” (ling)
หมายถึง สถานที่ ดาร์จีลิ่ง จึงหมายถึง ดินแดนแห่งสายฟ้า
• ชื่อเสียงของดาร์จีลิงนั้น เป็นที่รู้จักกันดีไปทั่วโลกว่า
เป็นแหล่งปลูกและผลิตชาที่ดีที่สุดในโลก ก่อนที่อินเดียจะได้รับเอกราชจากอังกฤษนั้น
ดาร์จีลิงเป็นรัฐอิสระที่ยังไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของอินเดีย
และเคยตกอยู่ภายใต้การดูแลของสิกขิมและอังกฤษ โดยอังกฤษได้พัฒนาดาร์จีลิงให้เป็นเมืองตากอากาศ
และเมืองศูนย์กลางการค้าอีกแห่งหนึ่งในทำการค้าขายกับทิเบต
• ดาร์จีลิ่งเป็นเมืองที่ผสมผสานความเจริญของโลกตะวันตกที่แผ่ขยายมาในช่วงอินเดียตกเป็นอาณานิคมของสหราชอาณาจักร
บ้านเมืองจึงเต็มไปด้วยตึกรามและอาคารบ้านเรือนที่สร้างตามไหล่เขาในสไตล์ยุโรป
แต่บรรยากาศยังคงพลุกพล่านเบียดเสียดยัดเยียดแบบอินเดีย
และแซมด้วยวัดแบบทิเบตที่ประยุตก์แล้ว มีศูนย์กลางการศึกษาของชาวอังกฤษที่เข้ามาตั้งถิ่นฐาน
• ทอยเทรน (Toy Train) ทางรถไฟสายเล็กๆ นี้มีชื่อเต็มว่า
“ดาร์จีลิ่งหิมาลายันเรลเวย์” (Darjeeling Himalayan Railway)
ที่เรียกว่า ทอยเทรน เพราะเป็นรถไฟขนาดเล็กที่ใช้เครื่องจักรไอน้ำแล่นบนรางเล็กพิเศษเช่นกัน
จึงทำให้ดูคล้ายรถไฟของเล่น สร้างขึ้นในระหว่างปี ค.ศ. 1879-1881
โดยใช้ระบบเครื่องจักรไอน้ำ ปัจจุบันเป็นหนึ่งในทางรถไฟภูเขาเพียงไม่กี่เส้นทางของอินเดียที่ยังเปิดให้บริการอยู่แล่นระหว่างดาร์จีลิ่งไปยังเมืองสิลิกูริ
และองค์การยูเนสโกยังได้ประกาศให้ทางรถไฟสายดาร์จีลิ่งหิมาลายันเรลเลย์นั้นเป็นมรดกโลกอีกด้วย
• ชาดาร์จีลิ่ง (Darjeeing Tea)
ได้ รับการยกย่องว่าเป็นแชมเปญช์แห่งชา เนื่องจากน้ำชามีกลิ่นหอมและรสชาติอ่อนนุ่ม
พร้อมทั้งมีรสชาติคล้ายกับเหล้าองุ่นแบบเจือจางอย่ด้วย ดาร์จีลิ่งจึงเป็นชาที่เหมาะสมสำหรับดื่มระหว่างอาหารค่ำหรือการดื่มชาช่วง
บ่ายที่สุด ชาดาร์จีลิ่งปลูกมากในแทบเทือกเขาหิมาลัย ส่วนชาเขียวดาร์จีลิ่งซึ่งมีรสชาติเยี่ยมเป็นเอกลักษณ์นั้น
เป็นชาหายากเช่นเดียวกับชาเซนฉะของญี่ปุ่น
• ความสำคัญของชาดาร์จีลิงที่ถูกบันทึกไว้ในหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์
คือการเป็นแหล่งปลูกชาที่ดีที่สุดในโลก สืบเนื่องจากที่อังกฤษถูกยกเลิกเอกสิทธิ์การนำเข้าชาจากประเทศจีน
บริษัทอีสต์อินเดียจึงได้ทำการบุกเบิกในการทำไร่ชาในประเทศอินเดีย
เนื่องจากพบว่ามีการปลูกชาในรัฐอัสสัม ราวปี 1840 ดร.แคมเบลล์
ได้ทำการทดลองปลูกชาพันธุ์ Camellia sinensis ซึ่งลักลอบนำเข้ามาจากประเทศจีน
และเป็นสายพันธุ์เดียวกับชาอู่หลง ผลปรากฏว่าชาที่ทดลองปลูกและผลิตในดาร์จีลิงนั้นมีคุณภาพดีเทียบเท่ากับชา
จีน ทำให้มีการขยายพื้นที่ในการปลูกชาให้มากยิ่งขึ้น จนกระทั่งส่งผลให้อินเดียนั้นสามารถที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตและส่งออกชา
รายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของโลกในเวลาต่อมา
• นอกจากจะประสบผลสำเร็จเรื่องการปลูกชาในดาร์จีลิงแล้ว
ยังมีการคิดค้นกรรมวิธีในการผลิตชาที่เรียกกันว่า Orthodox
Method ซึ่งเป็นกรรมวิธีที่ค่อนข้างสลับซับซ้อน ทั้งในเรื่องของการเลือกเก็บเฉพาะยอดใบชาอ่อน
ในช่วงระยะเวลาที่ดีที่สุดของปี จนกระทั่งกระบวนในการบ่มชา
การคัดแยกในขั้นสุดท้าย เพื่อให้ได้ชาที่มีคุณภาพดีที่สุด
ในเมือง ดาร์จีลิงนั้นมีโรงงานผลิตชากระบวนการ Orthodox
Method อยู่หลายสิบโรงงาน และถือเป็นความ เชี่ยวชาญเฉพาะทางของคนที่นี่
รวมถึงยังส่งออกไปจำหน่ายในประเทศต่างๆ ทั่วโลก นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังดาร์จีลิงสามารถเข้าชมกระบวนการผลิตต่างๆ
ของโรงงานเหล่านี้ ซึ่งจะทำให้เห็นถึงความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการผลิต
และถึงขนาดพูดกันว่าหากเดินทางถึงดาร์จีลิงแล้ว ยังไม่ได้ชิมชาของที่นี่ก็เหมือนกับมาไม่ถึงดาร์จีลิงเลยทีเดียว
• ไร่ชาแฮปปี้วัลเล่ย์ (Happy Valley)
• ไร่ชาแฮปปี้วัลเล่ย อยู่ห่างจากย่านชว์อกบาซาร์ประมาณ
3 กิโลเมตรโดยชาของที่นี่เป็นชาที่เก่าแก่มีชื่อเสียงมาก
ในดาร์จีลิ่ง และมีชื่อในระดับโลกเลยทีเดียว เมื่อมาที่ไร่ชานี้แล้วสามารถเยี่ยมชมโรงงานและขั้นตอนการผลิต
อีกทั้งยังซื้อชาชั้นดีกลับไปเป็นของฝากได้ด้วย
• ย่านช้อปปิ้งชอร์ราสตา (Chawrasta)
ตลาดพื้นเมืองชอร์รัสต้า
• ย่านชอร์ราสตา เป็นย่านที่ถนนสี่สายมาบรรจบกัน เพราะฉะนั้นที่นี่จึงมีถนนแยกไปได้หลายสาย
นักท่องเที่ยวนิยมใช้จุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางไปจุดต่างๆ
โดยเฉพาะย่านถนน The Mall ซึ่งเป็นถนนที่สวยงาม มีสินค้าพื้นเมือง
ของฝาก ของที่ระลึกมากมายให้เลือกช้อปปิ้งกัน
• พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ
(Natural History Museum)
• พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติอยู่ใกล้ๆ กับย่านช้อปปิ้งชอร์ราสตา
ภายในจัดแสดงเกี่ยวกับชีวิตสัตว์ในท้องถิ่นที่พบทางภาคตะวันออกของเทือกเขาหิมาลัย
โดยจะเก็บเค่าเข้าชมคนละ 5 รูปี เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา
10.00-16.00 น. ยกเว้นวันพฤหัสบดี
• เจดีย์สันติภาพญี่ปุ่น (Japanese
Peace Pagodal)
• ตั้งอยู่บนถนน AJC Bose ภายในอาคารมีประวัติการสร้างวัดพุทธนิปปอนซังเมียวโอจิ
พระพุทธรูปทองคำภายในห้องสำหรับทำพิธีสวดมนต์ ส่วนด้านนอกเป็นที่ตั้งของเจดีย์สันติภาพ
ซึ่งองค์กรพุทธศาสนิกชนชาวญี่ปุ่นนิปปอนชังเมียวโฮจิ เป็นผู้สร้างขึ้น
เพื่อรำลึกถึงสงครามปรมาณูที่สหรัฐฯ ใช้จัดการเมืองฮิโรชิม่าและนางาซากิของญี่ปุ่นในปี
ค.ศ. 1945 โดยเจดีย์สันติภาพญี่ปุ่นแห่งแรกสร้างขึ้นที่เมือง
Kumanoto ในปี ค.ศ. 1954 ที่ญี่ปุ่น โดยเจดีย์สันติภาพญี่ปุ่นในดาร์จีลิ่ง
จะมีพระพุทธรูปประดิษฐานไว้ทั้งสี่ด้าน รวมถึงภาพแกะสลักหินเรื่องราวต่างๆ
ของพระพุทธเจ้า
• วัดกูม ซึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดและมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของดาร์จีลิ่ง
สร้างในปี ค.ศ. 1850 โดยลามะ ชาร์ลาป ยัคโช เป็นวัดในนิกายหมวกเหลือง
|

ยามเช้าที่ดาร์จีลิ่ง |

ยามเช้าที่ดาร์จีลิ่ง |

ยามเช้าที่ดาร์จีลิ่ง |

ยามเช้าที่ดาร์จีลิ่ง |
|
|
|
|
ไทเกอร์ฮิลล์
ดาร์จีลิ่ง สิกขิม |
|
|
ไทเกอร์ฮิลล์
ดาร์จีลิ่ง สิกขิม |
|
|
•
ไทเกอร์ฮิล (Tiger Hill) เป็นจุดชมวิวยอดฮิตทางตอนใต้ของเมืองดาร์จีลิ่ง
อยู่ห่างออกไปประมาณ 11 กิโลเมตร ในฤดูท่องเที่ยวสามารถจองรถจิ๊ปจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
DGAHC ราคาเหมาคันละ 450 รูปี ไทเกอร์ฮิล คือจุดที่สามารถดูยอดเขาคันชังจุงก้าได้ชัดเจนสวยงามมากที่สุด
• การชมวิวที่ไทเกอร์ฮิลล์มีทั้งแบบไม่เสียเงิน คือการยืนสู้หนาวเบียดกันตามระเบียงกลางแจ้งเพื่อรอพระอาทิตย์ขึ้น
หรือถ้าจ่ายเงินประมาณ 40 รูปี (32 บาท) ก็สามารถนั่งชมแบบสบายบนชั้น
2 ของหอชมวิว ราคานี้รวมชาและกาแฟ พร้อมขนม 2-3 ชิ้น
• เทือกเขาคันชังจุงก้า (Khanchendzonga)
เทือกเขาที่สูงเป็นอันดับสามของโลก อยู่ในเขตสิกขิมของอินเดีย
ประกอบไปด้วยอดเขาทั้งหมด 5 ยอดเขา ซึ่ง 4 ใน 5 ยอดเขานี้คือยอดเขา
ไทเกอร์ฮิล (TigerHill) ความสูง 8,450 เมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมไปชม
ในวันที่อากาศสดใส สามารถมองเห็นเทือกเขาคันเซ็งฌองกาได้จากหลายเมือง
ทั้งสิกขิม กาลิมปง เพลลิ่ง ทั้งนี้ ชาวสิกขิมให้ความเคารพนับถือเทือกเขาคันเซ็งฌองกามาก
เนื่องจากถือว่าเป็นเทือกเขาศักดิ์สิทธิ์ |

เมืองดาร์จีลิ่ง สิกขิม |

ดาร์จีลิ่ง สิกขิม |

ศูนย์อพยพชาวทิเบต ดาร์จีลิ่ง |

ศูนย์อพยพชาวทิเบต ดาร์จีลิ่ง |
|
|
|
|

ศูนย์อพยพชาวทิเบต ดาร์จีลิ่ง |

ศูนย์อพยพชาวทิเบต ดาร์จีลิ่ง |

ศูนย์อพยพชาวทิเบต |

ดาร์จีลิ่ง สิกขิม |
ศูนย์อพยพชาวทิเบต
เมืองดาร์จีลิ่ง สิกขิม |
|
|
ศูนย์อพยพชาวทิเบต
เมืองดาร์จีลิ่ง สิกขิม |
|
|

โอเปร่าเฮ้าท์ ดาร์จีลิ่ง |

ตลาดดาร์จีลิ่ง สิกขิม |

ตลาดชอว์ราสตา ดาร์จีลิ่ง |

ตลาดชอว์ราสตา ดาร์จีลิ่ง |

ตลาดชอว์ราสตา ดาร์จีลิ่ง |

ตลาดชอว์ราสตา ดาร์จีลิ่ง |

ตลาดชอว์ราสตา ดาร์จีลิ่ง |

ตลาดชอว์ราสตา ดาร์จีลิ่ง |
วัดกูม
เมืองดาร์จีลิ่ง สิกขิม |
|
|
•
วัดกูม (Ghoom Monastery)
• วัดกูม (Ghoom Monastery) หรือชื่อเต็มว่า Yiga Choeling
Ghoom Old Monastery เป็นวัดทิเบต ลามะนิกายหมวกเหลืองที่สร้างขึ้นในปี
ค.ศ. 1850 ศาสนาพุทธยังเป็นหนึ่งในศาสนาสำคัญในแถบหิมาลัยตะวันออก
โดยเฉพาะพุทธ มหายานแบบทิเบต ทำให้ยังมีวัดทิเบตสีสันสดใสตั้งอยู่ตามเมืองต่างๆ
ทั้งในสิกขิมและดาร์จีลิง การสวดมนต์ก็เดินหมุนวงล้อสวดมนต์ที่มีอยู่รอบวัดด้านนอกตามเข็มนาฬิกาจนครบ
1 รอบ อธิษฐานขอพรตามที่ปราถนา วัดกูมมีจุดเด่นอยู่ที่ พระพุทธรูป
Maitreya Buddha หรือ Future Buddha ซึ่งสูงถึง 5 เมตร
|
วัดกูม
เมืองดาร์จีลิ่ง สิกขิม |
|
|

ดาร์จีลิ่ง สิกขิม |

ดาร์จีลิ่ง สิกขิม |

ดาร์จีลิ่ง สิกขิม |

วัดกูม ดาร์จีลิ่ง |